Datasets:

Thaweewat

/

chain-of-thought-74k-th

like 1

เด็ก ๆ เรียนรู้อย่างไร\nตัวเลือก:\n- (A) การนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่\n- (B) ปล่อยให้เติบโต\n- (C) โดยการโกหก\n- (D) ขี่จักรยาน\n- (E) ทำได้หลายวิธี \n- (F) ออกกำลังกาย\n- (G) โดยการนอน\n- (H) ท่าเดียวก็ได้ ลองคิดดูให้ดี:

การเล่นเป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์อื่น ๆ เรียนรู้วิธีปฏิบัติตน เด็กเรียนรู้ผ่านการเล่นและด้วยวิธีอื่นๆ เด็กและสัตว์เรียนรู้ได้หลายวิธี ดังนั้น คำตอบสุดท้ายคือ (E)

ทำไมสุนัขถึงเล่น\nตัวเลือก:\n- (A) เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น\n- (B) เพื่อชนะการต่อสู้\n- (C) ทำให้ร่างกายอบอุ่น\n- (D) เพิ่มขึ้น ความแข็งแรงของร่างกาย\n- (E) เพื่อเรียนรู้ที่จะประพฤติตัว\n- (F) ปล่อยให้เติบโต\n- (G) เพื่อให้กลายเป็นคนที่โดดเด่น\n- (H) เพื่อใช้เวลาตามลำพัง ลองคิดทีละขั้นตอนด้านล่างนี้

การเล่นเป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์อื่น ๆ เรียนรู้วิธีปฏิบัติตน แมวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ต้อนสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กระดิกหาง การเล่นเป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีที่สุนัขเรียนรู้พฤติกรรม ดังนั้น คำตอบคือ (E)

มาคิดกันทีละขั้นตอน! วิธีหนึ่งที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์อื่นๆ เรียนรู้วิธีปฏิบัติคืออะไร\nตัวเลือก:\n- (A) นอน\n- (B) เคลื่อนไหว\n- (C) ผสมพันธุ์\n- (D) ออกกำลังกาย\n- (E) การกิน\n- (F) เสียง\n- (G) การเล่น\n- (H) การเคลื่อนไหว ความคิดเริ่มต้นทันที:

การเล่นเป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์อื่น ๆ เรียนรู้วิธีปฏิบัติตน การแสดงเป็นเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรม การเล่นเป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์อื่น ๆ เรียนรู้วิธีการแสดง คำตอบสุดท้าย: (G).

ประชากรที่มีความหลากหลายทางชีวภาพอาจถูกเรียกว่า:\nตัวเลือก:\n- (A) วงล้อมที่เป็นเนื้อเดียวกัน\n- (B) ที่คล้ายกัน\n- (C) สัตว์\n- (D) ต้นพีชลีฟวิลโลว์\n- (E) ชุมชน\n - (F) คอขวด\n- (G) แมลง\n- (H) อุดมสมบูรณ์ ลองคิดดูให้ดี:

ชุมชนประกอบด้วยประชากรหลากหลายสายพันธุ์ ความหลากหลายทางชีวภาพเป็นมากกว่าจำนวนของพืชและสัตว์ชนิดต่างๆ ชุมชนประกอบด้วยประชากรที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ ดังนั้น คำตอบสุดท้ายคือ (E)

มาคิดกันทีละขั้นตอน! ระบบประสาทส่วนกลางกับสมองมีอะไรบ้าง\nตัวเลือก:\n- (A) วัตถุที่มีมวล\n- (B) เลือดอุ่น\n- (C) โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์\n- (D) แมงกะพรุน\ n- (E) ปลาแซลมอนเท่านั้น\n- (F) เบสเท่านั้น\n- (G) เบสและแซลมอน\n- (H) ไก่ ความคิดเริ่มต้นขึ้นแล้ว:

ปลามีระบบประสาทส่วนกลางกับสมอง ปลา ได้แก่ ปลากะพงขาวและปลาแซลมอน ปลากะพงและปลาแซลมอนมีระบบประสาทส่วนกลางที่มีสมอง คำตอบสุดท้าย: (G).

ระบบประสาทส่วนกลางกับสมองมีอะไรบ้าง\nตัวเลือก:\n- (A) นก\n- (B) แพน\n- (C) ไวรัส\n- (D) ฉลาม\n- (E) ผู้ชาย\n - (F) ปลาเทราต์\n- (G) ปลิง\n- (H) ปรสิต คิดให้ดีก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ความคิดของฉัน:

ปลามีระบบประสาทส่วนกลางกับสมอง ปลา ได้แก่ ปลาเทราต์และปลาอื่นๆ ปลาเทราต์มีระบบประสาทส่วนกลางพร้อมสมอง ดังนั้นคำตอบคือ (F)

แอมเฟตามีนกระตุ้นสิ่งมีชีวิตในน้ำชนิดใดได้บ้าง\nตัวเลือก:\n- (A) ไข่มุก\n- (B) สาหร่าย\n- (C) สาบเสือ\n- (D) นาก\n- (E) ปลา\n- (F) มนุษย์\n- (G) ฉลาม\n- (H) ฟองน้ำ มาทำให้ถูกต้องที่สุดกันเถอะ

ปลามีระบบประสาทส่วนกลางกับสมอง ยาบ้ากระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ปลาสามารถกระตุ้นด้วยแอมเฟตามีน คำตอบสุดท้าย: (E)

ทั้งปลาและสัตว์เลื้อยคลานมีอวัยวะอะไรบ้าง\nตัวเลือก:\n- (A) ขา\n- (B) พวกมันทั้งหมดเดินบนบก\n- (C) เหงือก\n- (D) ตา\n- (E) ป้องกัน\n- (F) สมอง\n- (G) ถุงลม\n- (H) การมองเห็น มาทำให้แม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และคิดทีละขั้นตอน

ปลามีระบบประสาทส่วนกลางกับสมอง ประสาท สัตว์เลื้อยคลานมีสมองและระบบประสาท ปลาและสัตว์เลื้อยคลานมีสมอง คำตอบ: (F).

อะไรคือระบบประสาทส่วนกลางที่มีสมอง\nตัวเลือก:\n- (A) ผู้ชาย\n- (B) นก\n- (C) ปลิง\n- (D) ฉลาม\n- (E) ต้นไม้เขียวชอุ่ม\n - (F) ปลาแซลมอน\n- (G) เวิร์ม\n- (H) แพน อืม ขอคิดดูก่อน ไม่อยากผิดเลยต้องระวัง

ปลามีระบบประสาทส่วนกลางกับสมอง ปลาฉลามเป็นปลาชนิดหนึ่ง ฉลามมีระบบประสาทส่วนกลางพร้อมสมอง คำตอบ: (D).

_ ปล่อยให้น้ำซึมผ่านดิน\nตัวเลือก:\n- (A) โพรงของกุ้งก้ามกราม\n- (B) ภัยคุกคามที่สำคัญต่อสุขภาพ\n- (C) การทับถม\n- (D) รังสีแสงดัด\ n- (E) บ้านไส้เดือน\n- (F) การขัดผิว\n- (G) โพรงปลวก\n- (H) โพรงไส้เดือน ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

โพรงไส้เดือนช่วยให้ดินมีอากาศดี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพืชด้วย การเติมอากาศทำให้ดินแตกตัวและปล่อยให้น้ำซึมผ่านได้ โพรงไส้เดือนทำให้น้ำซึมลงดินได้ผลดีต่อพืช คำตอบสุดท้าย: (H).

ไส้เดือนช่วยอะไรพืชได้บ้าง\nตัวเลือก:\n- (A) การนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่\n- (B) ช่วยให้พวกมันอยู่รอดได้\n- (C) กินพืช\n- (D) ทำให้นกตกใจ\n- (E) สืบพันธุ์\n- (F) เติมน้ำให้เซลล์ของพวกมัน\n- (G) ขุดดินในดิน\n- (H) กินดินทั้งหมด ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

โพรงไส้เดือนช่วยให้ดินมีอากาศดี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพืชด้วย ดินสกปรกจริงๆ โพรงของไส้เดือนดินช่วยดูดสิ่งสกปรกซึ่งดีต่อพืชด้วย คำตอบสุดท้าย: (G).

สิ่งก่อสร้างโดยไส้เดือนช่วยอะไร\nตัวเลือก:\n- (A) ดินอัดแน่น\n- (B) ทำให้ดินชุ่มชื้น\n- (C) เกษตรกรรม\n- (D) เพื่อเคลื่อนย้ายผู้คน\n- (E) การย้ายถิ่นฐาน\n- (F) ดินที่มีอากาศถ่ายเท\n- (G) การอยู่รอด\n- (H) ดินแห้ง อืม ขอคิดดูก่อน ไม่อยากผิดเลยต้องระวัง

โพรงไส้เดือนช่วยให้ดินมีอากาศดี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพืชด้วย สปีชีส์ส่วนใหญ่สร้างโพรง การสร้างโดยไส้เดือนช่วยให้ดินมีอากาศดีสำหรับพืช คำตอบ: (F).

โพรงไส้เดือนดินนั้นดีสำหรับพืชเพราะพวกมัน\nตัวเลือก:\n- (A) ให้อากาศเข้าไปในดิน\n- (B) ลดฝนกรด\n- (C) กำจัดสารพิษ\n- (D) รากให้ความชุ่มชื้น\n - (E) ป้องกันการถ่ายเทความร้อน\n- (F) ช่วยให้พวกมันอยู่รอดได้\n- (G) ฆ่าสัตว์รบกวน\n- (H) ที่อยู่อาศัยที่สำคัญ ลองคิดทีละขั้นตอนด้านล่างนี้

โพรงไส้เดือนช่วยให้ดินมีอากาศดี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพืชด้วย การเติมอากาศหมายถึงการเติมอากาศเข้าไปในไวน์ โพรงไส้เดือนช่วยให้อากาศเข้าสู่ดินซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพืช ดังนั้น คำตอบคือ (A)

ใช้เหตุผลตอบคำถามต่อไปนี้ โพรงอะไรช่วยเติมอากาศให้กับดิน ซึ่งดีต่อพืชด้วย\nตัวเลือก:\n- (A) ใบไม้\n- (B) การเพิ่มความร้อน\n- (C) การขัดผิว\n- (D) ดี\n- (E ) ราก\n- (F) ลม\n- (G) หิน\n- (H) แอนนีลิด

โพรงไส้เดือนช่วยให้ดินมีอากาศดี ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพืชด้วย ไส้เดือนดิน ไส้เดือนจัดอยู่ในไฟลัมแอนเนลิด โพรงแอนลิดช่วยให้ดินมีอากาศ ซึ่งดีต่อพืชด้วย ดังนั้น คำตอบคือ (H)

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเพศเมียชนิดใดที่ไม่มีมดลูกและช่องคลอด\nตัวเลือก:\n- (A) ท่อนำไข่\n- (B) ตัวตุ่น\n- (C) กำเนิดมีชีวิต\n- (D) วางไข่\n- (E) วัว\n- (F) เต่า\n- (G) อัลปาก้า\n- (H) แพะ ลองคิดทีละขั้นตอนด้านล่าง

โมโนทรีมตัวเมียไม่มีมดลูกและช่องคลอด ตัวอย่างของ monotremes ได้แก่ Platypus และ Echidna ตุ่นปากเป็ดและตัวตุ่นไม่มีมดลูกและช่องคลอด ดังนั้น คำตอบคือ (B)

ใช้เหตุผลตอบคำถามต่อไปนี้ ตับถูกสร้างขึ้นหลังจากเซลล์สำหรับ\nตัวเลือก:\n- (A) ความตาย\n- (B) มนุษย์\n- (C) พลังงาน\n- (D) เนื้อเยื่อ\n- (E) ย้าย\n- (F) เติบโต\n- (G) ฟื้นตัว\n- (H) ถูกไล่ออก

เซลล์ถูกจัดระเบียบเป็นเนื้อเยื่อ และเนื้อเยื่อก่อตัวเป็นอวัยวะ อวัยวะเช่นกระเพาะอาหารและตับก็เริ่มพัฒนาเช่นกัน เซลล์ถูกสร้างเป็นเนื้อเยื่อและเนื้อเยื่อก่อตัวเป็นตับ ดังนั้น คำตอบคือ (D)

มดสื่อสารกับมดตัวอื่นอย่างไรเพื่อกระตุ้นให้พวกมันทำตาม\nตัวเลือก:\n- (A) การเขียนท้องฟ้า\n- (B) พลังงานไฟฟ้า\n- (C) การใช้โทรศัพท์เพื่อสื่อสาร\n- (D) ออกจาก การสื่อสารเป็นลายลักษณ์อักษร\n- (E) บางสิ่งที่มาจากต่อม\n- (F) โดยลมและฝน\n- (G) พลังงานเคมี\n- (H) ออกจากเส้นทางเคมี อืม ขอคิดดูก่อน ไม่อยากผิดเลยต้องระวัง

มดสื่อสารด้วยสารเคมีที่เรียกว่าฟีโรโมน ในทางสรีรวิทยา มดจะทิ้งฟีโรโมนไว้เป็นทาง ซึ่งมดตัวอื่นๆ จะตามไป มดสื่อสารโดยทิ้งร่องรอยทางเคมีไว้ให้มดตัวอื่นๆ เดินตาม คำตอบ: (H).

แมลงบางชนิดสื่อสารกันอย่างไร\nตัวเลือก:\n- (A) เสียง\n- (B) เซลล์ประสาทสัมผัส\n- (C) เดซิเบล\n- (D) คลื่นอิเล็กทรอนิกส์\n- (E) โปรเจสเตอโรน \n- (F) สั่น\n- (G) ฟีโรโมน\n- (H) คลื่นวิทยุ ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

มดสื่อสารด้วยสารเคมีที่เรียกว่าฟีโรโมน มดมีความสำคัญอย่างยิ่งในโลกของแมลง แมลงบางชนิดสื่อสารด้วยสารเคมีที่เรียกว่าฟีโรโมน คำตอบสุดท้าย: (G).

สมาชิกของสกุล myrmecocystus สื่อสารผ่านฟีโรโมน ซึ่งเป็นประเภท:\nตัวเลือก:\n- (A) ความรู้สึกของกลิ่น\n- (B) ตัวรับสารเคมี\n- (C) อวัยวะ\n- (D) แมลง\ n- (E) สารเคมี\n- (F) เสียง\n- (G) เสาอากาศ\n- (H) สั่น มาค่อยๆ แก้ปัญหานี้กัน

มดสื่อสารด้วยสารเคมีที่เรียกว่าฟีโรโมน มดรังผึ้งจัดอยู่ในสกุล Myrmecocystus สมาชิกของสกุล Myrmecocystus สื่อสารผ่านสารเคมีที่เรียกว่าฟีโรโมน ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (E)

Phylum platyhelminthes ส่วนใหญ่คืออะไร\nตัวเลือก:\n- (A) สัตว์\n- (B) กัด\n- (C) เชื้อรา\n- (D) ติดเชื้อ\n- (E) ปรสิต\n- (F) แมลง\n- (G) ใหญ่โต\n- (H) อยู่อย่างอิสระ ตกลง ลองคิดดูให้ดี:

พยาธิตัวตืดอยู่ในไฟลัม Platyhelminthes พยาธิตัวแบนส่วนใหญ่เป็นปรสิต แม้ว่า Turbellaria จะอาศัยอยู่อย่างอิสระในน้ำจืด Phylum Platyhelminthes ส่วนใหญ่เป็นปรสิต ดังนั้น คำตอบสุดท้ายคือ (E)

พยาธิตัวตืด พยาธิตัวตืด และเทอร์เบล\nตัวเลือก:\n- (A) ภัยคุกคามที่สำคัญต่อสุขภาพ\n- (B) ปลิงแบนประเภทต่างๆ\n- (C) การเจริญเติบโตของพืชลดลง\n- (D) ประเภทของไส้เดือน\ n- (E) การแข่งขันเพื่อแย่งชิงทรัพยากร\n- (F) ประเภทของงู\n- (G) ประเภทของพยาธิตัวแบน\n- (H) ปรสิต คิดให้รอบคอบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ความคิดของฉัน:

พยาธิตัวตืดอยู่ในไฟลัม Platyhelminthes พยาธิตัวตืด พยาธิตัวตืดหรือ Platyhelminthes ได้แก่ พยาธิใบไม้ พยาธิตัวตืด และเทอร์เบลลาเรียน ประเภทของพยาธิตัวแบน ได้แก่ พยาธิใบไม้ พยาธิตัวตืด และเทอร์เบลลาเรียน ดังนั้นคำตอบคือ (G)

ใช้เหตุผลตอบคำถามต่อไปนี้ หนอนชนิดใดที่อยู่ในไฟลัมพลาตีเฮลมินธีส\nตัวเลือก:\n- (A) เป็นเนื้อเดียวกัน\n- (B) เคลื่อนไหว\n- (C) อันตราย\n- (D) แมลง\n- (E) พยาธิตัวตืด\n - (F) ปรสิต\n- (G) สีขาว\n- (H) แกรปโตไลต์

พยาธิตัวตืดอยู่ในไฟลัม Platyhelminthes พยาธิตัวตืด พยาธิตัวตืดหรือ Platyhelminthes ได้แก่ พยาธิใบไม้ พยาธิตัวตืด และเทอร์เบลลาเรียน พยาธิตัวตืดอยู่ในไฟลัม Platyhelminthes ดังนั้น คำตอบคือ (E)

สัตว์ชนิดใดที่พบในโลกที่จัดอยู่ในไฟลัมแพลตีเฮลมินต์\nตัวเลือก:\n- (A) หนอนสมมาตรทั้งสองข้าง\n- (B) บางอย่างที่มีหัว ทรวงอก และท้อง\n- (C) ซากดึกดำบรรพ์ ชีวิต\n- (D) สิ่งที่ทำให้พืชเป็นสีเขียว\n- (E) สิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก\n- (F) เซลล์เพศหญิง\n- (G) ช่วยให้พืชเติบโต\n- (H) แบ่งปันคุณสมบัติ ลองคิดดู ทีละขั้นตอนด้านล่าง

พยาธิตัวตืดอยู่ในไฟลัม Platyhelminthes พยาธิตัวตืดมีความสมมาตรทั้งสองข้าง เวิร์มสมมาตรทั้งสองข้างอยู่ในไฟลัม Platyhelminthes ดังนั้น คำตอบคือ (A)

อะไรประกอบด้วยพลังงานส่วนใหญ่ที่ผู้คนทั่วโลกใช้\nตัวเลือก:\n- (A) ความร้อน\n- (B) แสง\n- (C) ถ่านหิน\n- (D) หญ้า\n- ( E) การทำอาหาร\n- (F) กลูโคส\n- (G) คอมพิวเตอร์\n- (H) น้ำมัน ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

หญ้าให้อาหารส่วนใหญ่ที่คนทั่วโลกบริโภค เพราะอาหารมีพลังงาน หญ้าเป็นแหล่งพลังงานส่วนใหญ่ที่ผู้คนทั่วโลกใช้ คำตอบสุดท้าย: (D).

อาหารส่วนใหญ่ที่คนทั่วโลกบริโภคมาจาก\nตัวเลือก:\n- (A) มนุษย์\n- (B) ต้นไม้\n- (C) พลังงาน\n- (D) สัตว์\n- (E) พืช\n - (F) วิตามินซี\n- (G) ผึ้ง\n- (H) โลก ค่อยๆ แก้ปัญหานี้ไป

หญ้าให้อาหารส่วนใหญ่ที่คนทั่วโลกบริโภค หญ้าเป็นพืชที่มีลักษณะเด่นมาก พืชเป็นแหล่งอาหารส่วนใหญ่ที่คนทั่วโลกบริโภค ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (E)

พืชชนิดใดที่ให้เมล็ดในรูปกรวย\nตัวเลือก:\n- (A) พุ่มไม้ที่มีสปอร์\n- (B) ดอกไม้\n- (C) อุดมสมบูรณ์กว่า\n- (D) ต้นสน\n- (E ) สีขาว\n- (F) แมลง\n- (G) ต้นไม้ที่เขียวชอุ่มตลอดปี\n- (H) ต้นไม้ผลัดใบ มาทำให้ถูกต้องที่สุดและคิดไปทีละขั้น

Gymnosperms เป็นพืชที่มีท่อลำเลียงซึ่งผลิตเมล็ดในรูปกรวย Gymnosperms เป็นพืชที่รู้จักกันในชื่อเอเวอร์กรีน เอเวอร์กรีนเป็นพืชที่มีท่อลำเลียงซึ่งผลิตเมล็ดเป็นรูปกรวย คำตอบ: (G).

พืชชนิดใดที่ผลิตเมล็ดในรูปกรวย\nตัวเลือก:\n- (A) ไม้เนื้ออ่อน\n- (B) ต้นสน\n- (C) ว่านหางจระเข้\n- (D) พืชส่วนใหญ่\n- (E) เมล็ดทานตะวัน\n- (F) สีขาว\n- (G) หนังกำพร้า\n- (H) ต้นเฟิร์น.. ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

Gymnosperms เป็นพืชที่มีท่อลำเลียงซึ่งผลิตเมล็ดในรูปกรวย ในทางกลับกัน ไม้เนื้ออ่อนเป็นไม้ยิมโนสเปิร์ม ไม้เนื้ออ่อนเป็นพืชที่มีท่อลำเลียงซึ่งผลิตเมล็ดเป็นรูปกรวย คำตอบสุดท้าย: (A).

พืชมีท่อลำเลียงที่ผลิตเมล็ดในรูปกรวยคืออะไร\nตัวเลือก:\n- (A) โรคฉี่หนู\n- (B) อุดมสมบูรณ์มากขึ้น\n- (C) นิวตัน\n- (D) มันต้องการมัน\n- (E) ต้นสน\n- (F) หนังกำพร้า\n- (G) สีเขียวตลอดปี\n- (H) สีขาว ตกลง ลองคิดดูให้ดี:

Gymnosperms เป็นพืชที่มีท่อลำเลียงซึ่งผลิตเมล็ดในรูปกรวย Gymnosperms เป็นพืชที่รู้จักกันในชื่อเอเวอร์กรีน เอเวอร์กรีนเป็นพืชที่มีท่อลำเลียงซึ่งผลิตเมล็ดเป็นรูปกรวย ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (G)

เพื่อดึงดูดแมลงวัน ตัวต่อ และผึ้ง ดอกไม้ใช้อะไร\nตัวเลือก:\n- (A) กลีบดอก\n- (B) สี\n- (C) แมลง\n- (D) ลายพราง\n - (E) พลังงาน\n- (F) ไม่มีกลิ่น\n- (G) ไม่มีสี\n- (H) ละอองเกสร มาค่อยๆ แก้ปัญหานี้กัน

กลีบดอกดึงดูดแมลงผสมเกสรมาที่ดอกไม้ การผสมเกสรเกิดจากแมลงวัน ตัวต่อ และผึ้ง กลีบดอกดึงดูดแมลงวัน ตัวต่อ และผึ้งมาที่ดอกไม้ ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (A)

อะไรดึงดูดผึ้งมาที่ดอกไม้\nตัวเลือก:\n- (A) เมล็ดพืช\n- (B) กล้วยไม้\n- (C) ผึ้งอื่นๆ\n- (D) ผีเสื้อ\n- (E) หนาม \n- (F) ความร้อน\n- (G) กลีบดอก\n- (H) เกสร ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

กลีบดอกดึงดูดแมลงผสมเกสรมาที่ดอกไม้ ผึ้งเป็นแมลงผสมเกสรที่มีประสิทธิภาพ กลีบดอกดึงดูดผึ้งมาที่ดอกไม้ คำตอบสุดท้าย: (G).

ใช้เหตุผลตอบคำถามต่อไปนี้ กลีบดอกดึงดูดสัตว์ เช่น ผึ้ง มายังส่วนใดของผู้ผลิต\nตัวเลือก:\n- (A) กล้วยไม้\n- (B) ลำต้น\n- (C) ดอกตูม\n- (D) ดอกไม้\n- (E) เมล็ดพืช\n- (F) พืช\n- (G) พืชพรรณ\n- (H) ใบไม้

กลีบดอกดึงดูดแมลงผสมเกสรมาที่ดอกไม้ ดอกกีวีฟรุตผสมเกสรโดยผึ้ง กลีบดอกไม้ดึงดูดผึ้งให้เข้ามาหาดอกไม้ ดังนั้น คำตอบคือ (D)

อะไรดึงดูดแมลงผสมเกสรมาที่ดอกไม้\nตัวเลือก:\n- (A) บางอย่างที่ดีสำหรับบุหงา\n- (B) บางอย่างที่มีหัว อก และท้อง\n- (C) วิลโลว์ใบพีช\n- (D) โดยลมและฝน\n- (E) การสังเคราะห์ด้วยแสง\n- (F) สิ่งที่ทำจากข้าวไรซ์หมัก\n- (G) โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์\n- (H) ที่ขอบหรือใกล้กับขอบ ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

กลีบดอกดึงดูดแมลงผสมเกสรมาที่ดอกไม้ กลีบดอกเหมาะสำหรับทำบุหงาหรือทำเยลลี่กลีบกุหลาบ สิ่งที่ดีสำหรับบุหงาดึงดูดแมลงผสมเกสรมาที่ดอกไม้ คำตอบสุดท้าย: (A).

รูปแบบใดเมื่อโมเลกุลทำปฏิกิริยากันเอง\nตัวเลือก:\n- (A) ชีวเคมี\n- (B) พลังงานเคมี\n- (C) พลังงาน\n- (D) อะตอม\n- (E) พันธะเคมี \n- (F) องค์ประกอบ\n- (G) การไหลของอิเล็กตรอน\n- (H) สารประกอบอินทรีย์ คิดให้รอบคอบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ความคิดของฉัน:

พันธะเคมีก่อตัวขึ้นเมื่อสารทำปฏิกิริยากันเอง สารทั้งหมดประกอบด้วยโมเลกุล พันธะเคมีก่อตัวขึ้นเมื่อโมเลกุลทำปฏิกิริยากันเอง ดังนั้นคำตอบคือ (E)

เรียกว่าอะไรเมื่อตัวทำละลายหนึ่งรวมกับอีกตัว ในรูปแบบใด\nตัวเลือก:\n- (A) คู่เคมี\n- (B) การซึมผ่านของแร่ธาตุ\n- (C) พันธะเคมี\n- (D) ตัวถูกละลาย\n - (E) คู่เคมี\n- (F) พันธะของสาร\n- (G) การควบแน่น\n- (H) พลังงานจลน์ตกลง ลองคิดดูให้ดี:

พันธะเคมีก่อตัวขึ้นเมื่อสารทำปฏิกิริยากันเอง ตัวทำละลายคือสารซึ่งมักจะเป็นของเหลวที่ละลายสารอื่นๆ เมื่อตัวทำละลายตัวหนึ่งทำปฏิกิริยากับอีกตัว จะเกิดพันธะเคมีขึ้น ดังนั้น คำตอบสุดท้ายคือ (C)

ใช้เหตุผลตอบคำถามต่อไปนี้ รูปแบบใดเมื่อโมเลกุลทำปฏิกิริยากันเอง\nตัวเลือก:\n- (A) พลังงานเคมี\n- (B) สารตั้งต้น\n- (C) พันธะเคมี\n- (D) สิ่งมีชีวิต\n- (E) สารอินทรีย์ สารประกอบ\n- (F) พลังงาน\n- (G) ธาตุใหม่\n- (H) การไหลของอิเล็กตรอน

พันธะเคมีก่อตัวขึ้นเมื่อสารทำปฏิกิริยากันเอง สารทั้งหมดประกอบด้วยโมเลกุล พันธะเคมีก่อตัวขึ้นเมื่อโมเลกุลทำปฏิกิริยากันเอง ดังนั้น คำตอบคือ (C)

เมื่อสารต่างๆ ทำปฏิกิริยากันเอง การแบ่งปันหรือการถ่ายโอนจะเกิดอะไรขึ้น\nตัวเลือก:\n- (A) พลังงาน\n- (B) แรงดันไฟฟ้า\n- (C) ความร้อนที่ผลิตขึ้น\n- (D) พลังงานความร้อน\n - (E) อิเล็กตรอน\n- (F) a ตัวถูกละลาย\n- (G) จลน์\n- (H) พลังงาน อืม ขอคิดดูก่อน ไม่อยากผิดเลยต้องระวัง

พันธะเคมีก่อตัวขึ้นเมื่อสารทำปฏิกิริยากันเอง พันธะเคมี พันธะเคมีคือการแบ่งปันหรือถ่ายโอนอิเล็กตรอน การแบ่งปันการถ่ายโอนอิเล็กตรอนเกิดขึ้นเมื่อสารทำปฏิกิริยากันเอง คำตอบ: (E)

พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกายผ่านทางส่วนใดของดวงตา\nตัวเลือก:\n- (A) การขนส่งพลังงาน\n- (B) รูม่านตา\n- (C) ม่านตา\n- (D) ผิวหนัง\n- ( E) รูตา\n- (F) เลนส์\n- (G) อวัยวะ\n- (H) เส้นประสาท มาทำให้แม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และคิดไปทีละขั้น

แสงเข้าสู่ดวงตาผ่านทางช่องเปิดที่เรียกว่ารูม่านตา แสงเป็นรูปแบบของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่มองเห็นได้ พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าสู่ดวงตาผ่านทางช่องเปิดที่เรียกว่ารูม่านตา คำตอบ: (B).

รังสีเข้าตาได้ที่ไหน\nตัวเลือก:\n- (A) แก้ว\n- (B) ฤดูร้อน\n- (C) รูม่านตา\n- (D) เลนส์\n- (E) อันตราย\n- (F) ดวงอาทิตย์\n- (G) โฟตอน\n- (H) ผิวหนัง มาทำให้ถูกต้องที่สุดและคิดไปทีละขั้น

แสงเข้าสู่ดวงตาผ่านทางช่องเปิดที่เรียกว่ารูม่านตา รังสีของแสงจะโฟกัสไปที่เรตินา เมื่อรังสีส่องเข้าตา แสงจะเข้าสู่ช่องเปิดที่เรียกว่ารูม่านตา คำตอบ: (C).

สัตว์ชนิดใดต่อไปนี้จะใช้เก็บพลังงาน\nตัวเลือก:\n- (A) ไขมัน\n- (B) พืช\n- (C) โซเดียม\n- (D) เลือด\n- (E) พลังงาน\ n- (F) น้ำตาล\n- (G) อาหาร\n- (H) ซาก ขอให้ถูกต้องที่สุด

สัตว์ใช้กรดไขมันอิ่มตัวเพื่อเก็บสะสมพลังงาน กรดไขมัน กรดไขมันเป็นส่วนประกอบสำคัญของไขมัน สัตว์ใช้ไขมันเพื่อเก็บพลังงาน คำตอบสุดท้าย: (A).

กรดไขมันอิ่มตัวใช้สำหรับ:\nตัวเลือก:\n- (A) การออกกำลังกาย\n- (B) การผลิตซ้ำ\n- (C) ของแข็ง ของเหลว ก๊าซ\n- (D) การเก็บพลังงาน\n- (E) การเก็บรักษา สุนัขอุ่นขึ้น\n- (F) ปฏิกิริยาออกซิเดชัน\n- (G) ร่างกายของสิ่งมีชีวิต\n- (H) การเจริญเติบโตของพืช ขอให้ถูกต้องที่สุด

สัตว์ใช้กรดไขมันอิ่มตัวเพื่อเก็บสะสมพลังงาน สัตว์สะสมพลังงานส่วนเกินในรูปของไขมัน กรดไขมันอิ่มตัวสามารถใช้เก็บพลังงานส่วนเกินได้ คำตอบสุดท้าย: (D).

มาคิดกันทีละขั้นตอน! สุนัขเก็บพลังงานไว้ที่ไหน\nตัวเลือก:\n- (A) บางอย่างที่มาจากต่อม\n- (B) กรดไขมันอิ่มตัว\n- (C) โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์\n- (D) สิ่งแวดล้อม\n- (E) ถ่ายเทความร้อนช้าลง\n- (F) ร่างกายของสิ่งมีชีวิต\n- (G) ทำให้สิ่งมีชีวิตอบอุ่น\n- (H) ช่วยให้พืชเติบโต ความคิดเริ่มต้นขึ้นแล้ว:

สัตว์ใช้กรดไขมันอิ่มตัวเพื่อเก็บสะสมพลังงาน สุนัขทุกตัวเป็นสัตว์ สุนัขใช้กรดไขมันอิ่มตัวในการกักเก็บพลังงาน คำตอบสุดท้าย: (B).

โลมาใช้อะไรในการกักเก็บพลังงาน\nตัวเลือก:\n- (A) กรดไขมันอิ่มตัว\n- (B) ฉนวนความร้อน\n- (C) พลังงานจลน์\n- (D) การระเหย\n- (E) บางอย่าง มาจากต่อม\n- (F) วัตถุที่มีมวล\n- (G) ช่วยให้พืชเจริญเติบโต\n- (H) ประจุบวก เรามาแก้ปัญหานี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป

สัตว์ใช้กรดไขมันอิ่มตัวเพื่อเก็บสะสมพลังงาน โลมาเป็นสัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โลมาใช้กรดไขมันอิ่มตัวในการกักเก็บพลังงาน ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (A)

มีอะไรให้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นแบบยาวหรือทรงกระบอก\nตัวเลือก:\n- (A) ถักเปีย\n- (B) ช่วยให้พืชเจริญเติบโต\n- (C) ลักษณะเฉพาะ\n- (D) เป็นฉนวนและ การป้องกัน\n- (E) ชามตัด\n- (F) ตัดเสียงกระหึ่ม\n- (G) พลังงานกล\n- (H) อาหารและที่พัก มาพูดให้ถูกที่สุด

เส้นผมช่วยเป็นฉนวนและปกป้องร่างกาย ผมยาวค่อนข้างแตกต่างจากทรงกระบอก ไม่ว่าจะสวมแบบยาวหรือแบบทรงกระบอก ก็ยังมีฉนวนและการป้องกันให้ คำตอบสุดท้าย: (D).

อะไรเป็นฉนวนและปกป้องร่างกาย\nตัวเลือก:\n- (A) ครีบหาง\n- (B) ขนสัตว์\n- (C) รอยขนแมว\n- (D) เคราติน\n- (E) ไนโตรเจน \n- (F) หิมะ\n- (G) หนังกำพร้า\n- (H) สัตว์ปีก คิดให้รอบคอบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ความคิดของฉัน:

เส้นผมช่วยเป็นฉนวนและปกป้องร่างกาย เส้นผมประกอบด้วยโปรตีนเคราติน โปรตีนเคราตินช่วยป้องกันและปกป้องร่างกาย ดังนั้นคำตอบคือ (D)

เส้นผมไม่ถือว่าเป็นอะไร\nตัวเลือก:\n- (A) ขาด\n- (B) สังกะสี\n- (C) สูญเสีย\n- (D) อ้วน\n- (E) ยาว\n- (F) สาร CFCs\n- (G) ทอง\n- (H) p53 มาค่อยๆ แก้ปัญหานี้กัน

เส้นผมช่วยเป็นฉนวนและปกป้องร่างกาย มวลกายน้อยและไขมันในร่างกายได้มาจากน้ำทั้งหมดในร่างกาย ผมไม่ถือว่าเป็นไขมัน ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (D)

ราสไลม์หรือเชื้อราอย่างโพรทิสต์สามารถพบได้ที่ไหน\nตัวเลือก:\n- (A) ในกระท่อมไม้ซุง\n- (B) พืชพรรณในหนองน้ำ\n- (C) ปากแม่น้ำ\n- (D) บริเวณที่บวมด้วยหนอง\n- (E) ในสสารที่เน่าเปื่อย\n- (F) พื้นผิวของเชื้อโรค\n- (G) บนรถใหม่\n- (H) บนจานเห็ด มาทำให้แม่นยำที่สุด และคิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

ราเมือกเป็นสารก่อมะเร็งที่มีลักษณะคล้ายเชื้อราซึ่งพบได้ทั่วไปในท่อนไม้ที่เน่าเปื่อยและปุ๋ยหมัก เกิดการย่อยสลายและการทำปุ๋ยหมัก ราเมือกเป็นเชื้อราเช่นเดียวกับผู้ประท้วงที่พบได้ทั่วไปบนท่อนไม้ที่เน่าเปื่อยและสสารที่ย่อยสลาย คำตอบ: (E)

พบเมือกที่มีลักษณะคล้ายสิ่งมีชีวิตได้ที่ใด\nตัวเลือก:\n- (A) สิ่งแวดล้อม\n- (B) บาดแผลที่ปนเปื้อน\n- (C) บนอาหาร\n- (D) บนท่อนไม้ที่เน่าเปื่อยและปุ๋ยหมัก\n- ( E) บริเวณที่บวมด้วยหนอง\n- (F) ในหญ้า\n- (G) ในตู้เย็น\n- (H) ปากแม่น้ำ ค่อยๆ แก้ปัญหานี้

ราเมือกเป็นสารก่อมะเร็งที่มีลักษณะคล้ายเชื้อราซึ่งพบได้ทั่วไปในท่อนไม้ที่เน่าเปื่อยและปุ๋ยหมัก True Slime Molds ราเมือกเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายเมือก เมือกที่มีลักษณะคล้ายสิ่งมีชีวิตสามารถพบได้บนท่อนไม้ที่เน่าเปื่อยและปุ๋ยหมัก ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (D)

พบราเมือกได้ที่ไหน\nตัวเลือก:\n- (A) ดอกไม้\n- (B) ดินร่วน\n- (C) สัตว์\n- (D) ใบไม้\n- (E) ดินร่วน\n- ( F) พืชในบึง\n- (G) ต้นไม้ที่เน่าเปื่อย\n- (H) ร่างกายของสิ่งมีชีวิต อืม ขอคิดดูก่อน ไม่อยากผิดเลยต้องระวัง

ราเมือกเป็นสารก่อมะเร็งที่มีลักษณะคล้ายเชื้อราซึ่งพบได้ทั่วไปในท่อนไม้ที่เน่าเปื่อยและปุ๋ยหมัก เมื่อต้นไม้ถูกตัดก็จะกลายเป็นท่อนซุง ราเมือกเป็นสารก่อมะเร็งที่มีลักษณะคล้ายเชื้อราซึ่งพบได้ทั่วไปบนต้นไม้ที่เน่าเปื่อยและปุ๋ยหมัก คำตอบ: (G).

สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวคืออะไร\nตัวเลือก:\n- (A) การเจริญเติบโตของพืช\n- (B) ราเมือก\n- (C) เลือดอุ่น\n- (D) วิลโลว์ใบพีช\n- (E) ผึ้ง\n- (F) กล้วยไม้\n- (G) พืชส่วนใหญ่\n- (H) สร้างแสง มาทำให้ถูกต้องที่สุดและคิดทีละขั้นตอน

ราเมือกเป็นสารก่อมะเร็งที่มีลักษณะคล้ายเชื้อราซึ่งพบได้ทั่วไปในท่อนไม้ที่เน่าเปื่อยและปุ๋ยหมัก โพรทิสต์เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ราเมือกเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว คำตอบ: (B).

ใช้เหตุผลตอบคำถามต่อไปนี้ ไซโกตแบบดิพลอยด์เป็นผลมาจากอะไร\nตัวเลือก:\n- (A) การสังเคราะห์ด้วยแสง\n- (B) การสืบพันธุ์ของพืช\n- (C) สเปิร์มและไข่แบบไดพลอยด์\n- (D) ผสมพันธุ์กับตัวเมีย\n- ( E) โรคเลปโตสไปโรซิส\n- (F) สเปิร์มเดี่ยวและไข่\n- (G) สเปิร์มทริปลอยด์และไข่\n- (H) ไข่เดี่ยวสองใบ

จากนั้น Gametes จะรวมกันในการปฏิสนธิและสร้างไซโกตซ้ำ Gametes เป็นไข่เดี่ยวหรือสเปิร์มที่หลอมรวมเป็นไซโกต ไซโกตแบบไดพลอยด์เป็นผลมาจากการรวมตัวของสเปิร์มเดี่ยวและไข่ ดังนั้น คำตอบคือ (F)

เกิดอะไรขึ้นในเซลล์สืบพันธุ์\nตัวเลือก:\n- (A) ลูกหลาน\n- (B) ละอองเรณู\n- (C) ความต้านทาน\n- (D) พลังงาน\n- (E) พลังงาน\n- (F) ความร้อน\n- (G) ซิงกามี\n- (H) กลูโคส อืม ขอคิดดูก่อน ไม่อยากผิดเลยต้องระวัง

จากนั้น Gametes จะรวมกันในการปฏิสนธิและสร้างไซโกตซ้ำ Syngamy สร้างไซโกตซ้ำ Syngamy เกิดขึ้นใน gametes คำตอบ: (G).

ใช้เหตุผลตอบคำถามต่อไปนี้ อะไรสามารถนำไปสู่การก่อตัวของเอ็มบริโอหลายเซลล์ในช่องท้อง\nตัวเลือก:\n- (A) สิ่งที่ทำให้พืชเป็นสีเขียว\n- (B) บางอย่างที่ทำจากข้าวหมัก\n- (C) สารประกอบที่ให้โปรตอน\n - (D) โดยลมและฝน\n- (E) การสืบพันธุ์\n- (F) การปฏิสนธิของ gametes\n- (G) ปฏิกิริยาเมแทบอลิซึม\n- (H) ความร้อนที่เกิดขึ้น

จากนั้น Gametes จะรวมกันในการปฏิสนธิและสร้างไซโกตซ้ำ Diploid zygote สร้างตัวอ่อนหลายเซลล์ในช่องระบายอากาศ การปฏิสนธิของ gametes สามารถนำไปสู่การก่อตัวของตัวอ่อนหลายเซลล์ในช่องระบายอากาศ ดังนั้น คำตอบคือ (F)

ภาวะอวัยวะมักเกิดจากการสัมผัสกับ:\nตัวเลือก:\n- (A) อุณหภูมิสูง\n- (B) หมอก\n- (C) ก๊าซเรือนกระจก\n- (D) รังสีหรือลำแสง\n- (E) ร้อน ไอน้ำ\n- (F) ควันบุหรี่\n- (G) มลพิษ\n- (H) ผู้ก่อความไม่สงบ คิดให้รอบคอบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ความคิดของฉัน:

มะเร็งปอดมักเกิดจากการได้รับควันบุหรี่ ผู้ป่วยมะเร็งปอดหลายคนก็มีภาวะอวัยวะเช่นกัน ภาวะอวัยวะมักเกิดจากการได้รับควันบุหรี่ ดังนั้นคำตอบคือ (F)

อะไรจะเกิดขึ้นจากการสูดดมโดยตรงหรือแฝง\nตัวเลือก:\n- (A) การปลูกถ่ายผิวหนัง\n- (B) กระหายน้ำเป็นเวลานาน\n- (C) วิทยาศาสตร์\n- (D) ความเป็นพิษ\n- (E) ปอด มะเร็ง\n- (F) ลบ\n- (G) แรงเสียดทาน\n- (H) หลุมอุกกาบาต มาค่อยๆ แก้ปัญหานี้กัน

มะเร็งปอดมักเกิดจากการได้รับควันบุหรี่ ควันบุหรี่ ไม่ว่าจะสูดดมโดยตรงหรือสูดดม แสดงให้เห็นว่าทำให้โรคหอบหืดแย่ลง มะเร็งปอดอาจเกิดจากการหายใจเข้าทางตรงหรือทางอ้อม ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (E)

การได้รับบุหรี่และซิการ์มักก่อให้เกิดมะเร็งชนิดใด\nตัวเลือก:\n- (A) ปอด\n- (B) รังสียูวี\n- (C) เท้า\n- (D) ความเสียหาย\n- ( E) ผิวหนัง\n- (F) ความตาย\n- (G) เต้านม\n- (H) อันตราย ลองคิดทีละขั้นตอนด้านล่างนี้

มะเร็งปอดมักเกิดจากการได้รับควันบุหรี่ ยาสูบรวมถึงบุหรี่ ซิการ์ ใบยาสูบแบบเคี้ยว และอื่นๆ มะเร็งปอดมักเกิดจากการสัมผัสกับบุหรี่และซิการ์ ดังนั้น คำตอบคือ (A)

กะบังลมช่วยโลมาทำอะไรได้บ้าง\nตัวเลือก:\n- (A) ว่ายน้ำ\n- (B) พักผ่อน\n- (C) ทำตัวให้อบอุ่น\n- (D) กลิ่น\n- (E) ดู\n - (F) หายใจ\n- (G) กิน\n- (H) เอาตัวรอดได้ ลองคิดดูให้ดี:

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายใจด้วยไดอะแฟรม โลมาทั่วไปเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปลาโลมาหายใจด้วยไดอะแฟรม ดังนั้น คำตอบสุดท้ายคือ (F)

สัตว์ชนิดใดที่มีอาการสะอึกในบางครั้ง\nตัวเลือก:\n- (A) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม\n- (B) รอยขนแมว\n- (C) ปลา\n- (D) แพะ\n- (E) คน\n- (F) แมลง\n- (G) หนอน\n- (H) สุนัขตกลง ลองคิดดูให้ดี:

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายใจด้วยไดอะแฟรม อาการสะอึกเป็นผลมาจากการกระตุกของไดอะแฟรม สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบางครั้งมีอาการสะอึก ดังนั้น คำตอบสุดท้ายคือ (A)

อะไรหายใจโดยการทำให้ปอดผ่อนคลาย\nตัวเลือก:\n- (A) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม\n- (B) เต่า\n- (C) สุนัข\n- (D) ไก่\n- (E) เป็ด\n- (F ) มนุษย์\n- (G) จระเข้\n- (H) สัตว์ ขอให้แม่นยำที่สุด

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายใจด้วยไดอะแฟรม การหายใจด้วยท้องใช้ไดอะแฟรมซึ่งช่วยผ่อนคลายปอด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายใจโดยการผ่อนคลายปอด คำตอบสุดท้าย: (A).

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมค้นพบลมหายใจผ่านการกระทำของสิ่งที่อยู่ใต้ปอด\nตัวเลือก:\n- (A) สสาร\n- (B) ผิวหนัง\n- (C) กล้ามเนื้อ\n- (D) อวัยวะ\ n- (E) หินปูน\n- (F) ออกซิเจน\n- (G) ก๊าซ\n- (H) หนังกำพร้า ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายใจด้วยไดอะแฟรม การสะอึกเกิดจากการหดเกร็งของไดอะแฟรมซึ่งเป็นกล้ามเนื้อใต้ปอดโดยไม่ได้ตั้งใจ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อใต้ปอด คำตอบสุดท้าย: (C).

มะเร็งมีลักษณะเฉพาะโดยเซลล์ที่ทำอะไรนอกเหนือการควบคุม\nตัวเลือก:\n- (A) ความเสียหายมหาศาล\n- (B) การสูบบุหรี่\n- (C) การทำลาย\n- (D) การทำซ้ำ\n- (E) ความเสียหายเฉพาะที่\n- (F) ล้มเหลว\n- (G) หายไป\n- (H) การสูบบุหรี่ คิดให้รอบคอบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ความคิดของฉัน:

มะเร็งเป็นโรคที่เซลล์แบ่งตัวออกจากการควบคุม มะเร็งเป็นกลุ่มของโรคที่มีลักษณะเซลล์ที่เพิ่มจำนวนเร็วเกินไป มะเร็งมีลักษณะเป็นเซลล์ที่จำลองแบบโดยควบคุมไม่ได้ ดังนั้นคำตอบคือ (D)

มะเร็งและเนื้องอกเป็นผลมาจาก:\nตัวเลือก:\n- (A) อวัยวะ\n- (B) บุหรี่\n- (C) รังสี\n- (D) ชั้นไขมัน\n- (E) ความเสียหายของยีน\n- (F) รังสีหรือลำแสง\n- (G) พลังงานเคมี\n- (H) ผิวหนัง คิดให้รอบคอบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ความคิดของฉัน:

มะเร็งเป็นโรคที่เซลล์แบ่งตัวออกจากการควบคุม ด้วยความเสียหายของยีนบางประเภท เซลล์จะเริ่มแบ่งตัวอย่างควบคุมไม่ได้ ก่อตัวเป็นเนื้องอก มะเร็งและเนื้องอกเป็นผลมาจากความเสียหายของยีนบางประเภท ดังนั้นคำตอบคือ (E)

สิ่งแทรกบางอย่างสามารถใช้เสาอากาศเพื่อตรวจจับอะไร\nตัวเลือก:\n- (A) คลื่นแสง\n- (B) โฟตอน\n- (C) พลังงานไฟฟ้า\n- (D) อากาศที่สั่นสะเทือน\n- (E) แผ่นดินใหม่\n- (F) แหล่งน้ำ\n- (G) ลำแสงที่โค้งงอ\n- (H) ไฟฟ้า คิดให้รอบคอบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ความคิดของฉัน:

แมลงบางชนิดสามารถใช้หนวดเพื่อตรวจจับเสียงได้ เมื่อหูตรวจพบการสั่นสะเทือนของอากาศ สัญญาณจะถูกส่งไปยังสมองเพื่อตีความเป็นเสียง สิ่งที่ใส่เข้าไปบางชนิดสามารถใช้เสาอากาศเพื่อตรวจจับอากาศที่สั่นสะเทือนได้ ดังนั้นคำตอบคือ (D)

มาคิดกันทีละขั้นตอน! สัตว์หกขาตรวจจับเสียงได้อย่างไร\nตัวเลือก:\n- (A) ทรวงอก\n- (B) หักเหมัน\n- (C) ไฟฟ้า\n- (D) พวกมันงอ\n- (E) ปีก\ n- (F) สิ่งแวดล้อม\n- (G) รูม่านตา\n- (H) เสาอากาศ ความคิดเริ่มต้นทันที:

แมลงบางชนิดสามารถใช้หนวดเพื่อตรวจจับเสียงได้ แมลงทุกตัวมีหกขา นั่นคือแมลง สัตว์ที่มีหกขาสามารถใช้หนวดเพื่อตรวจจับเสียงได้ คำตอบสุดท้าย: (H).

แมลงบางชนิดใช้เครื่องรับความรู้สึกตรวจจับอะไรได้บ้าง\nตัวเลือก:\n- (A) คะน้า\n- (B) เสียง\n- (C) ไอน้ำ\n- (D) แรงสั่นสะเทือน\n- ( E) คลื่น\n- (F) สั่น\n- (G) อากาศ\n- (H) เสียง ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

แมลงบางชนิดสามารถใช้หนวดเพื่อตรวจจับเสียงได้ หัวของแมลงมีสองความรู้สึกหรือหนวด แมลงบางชนิดสามารถใช้ความรู้สึกเพื่อตรวจจับเสียง คำตอบสุดท้าย: (H).

กบ คางคก และซาลาแมนเดอร์มีระบบไหลเวียนโลหิตแบบใด\nตัวเลือก:\n- (A) การเกิดมีชีวิต\n- (B) ช่วยให้พวกมันอยู่รอดได้\n- (C) สสารสั่นสะเทือน\n- (D) สอง -หัวใจห้องขัง\n- (E) เส้นเลือดและหลอดเลือดแดง\n- (F) ความหลากหลายทางชีวภาพ\n- (G) หัวใจสามห้อง\n- (H) หัวใจสี่ห้องตกลง ลองคิดดูให้ดี:

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกมีระบบไหลเวียนโลหิตที่ค่อนข้างซับซ้อนโดยมีหัวใจสามห้อง กบ คางคก และซาลาแมนเดอร์เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ กบ คางคก และซาลาแมนเดอร์มีระบบไหลเวียนโลหิตที่ค่อนข้างซับซ้อนโดยมีหัวใจสามห้อง ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (G)

กบมี _-ห้องหัวใจ\nตัวเลือก:\n- (A) ถุงลม\n- (B) อวัยวะ\n- (C) รังไข่\n- (D) ออกซิเจน\n- (E) กินได้\n- ( F) สาม\n- (G) nektar\n- (H) CO 2 อืม ขอคิดดูก่อน ไม่อยากผิดเลยต้องระวัง

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกมีระบบไหลเวียนโลหิตที่ค่อนข้างซับซ้อนโดยมีหัวใจสามห้อง กบทั้งหมดเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ กบมีหัวใจสามห้อง คำตอบ: (F).

สัตว์ชนิดใดมีระบบไหลเวียนเลือดที่มีหัวใจสามห้อง\nตัวเลือก:\n- (A) สัตว์ต่างๆ\n- (B) ซาลาแมนเดอร์\n- (C) แมวน้ำขน\n- (D) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม\n- (E ) อัลปาก้า\n- (F) ปลา\n- (G) เลือดอุ่น\n- (H) เพรียง ขอให้พูดให้ถูกที่สุด

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกมีระบบไหลเวียนโลหิตที่ค่อนข้างซับซ้อนโดยมีหัวใจสามห้อง กบ คางคก และซาลาแมนเดอร์เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ซาลาแมนเดอร์มีระบบไหลเวียนโลหิตที่ค่อนข้างซับซ้อนโดยมีหัวใจสามห้อง คำตอบสุดท้าย: (B).

หัวใจสามห้องมีอะไรบ้าง\nตัวเลือก:\n- (A) อัลปาก้า\n- (B) แพะ\n- (C) ต้นเอล์ม\n- (D) ค้างคาว\n- (E) กล้วยไม้\n- (F) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม\n- (G) ปลา\n- (H) คางคก มาทำให้ถูกต้องที่สุดและคิดทีละขั้นตอน

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกมีระบบไหลเวียนโลหิตที่ค่อนข้างซับซ้อนโดยมีหัวใจสามห้อง คางคกและกบต่างก็เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ คางคกมีระบบไหลเวียนโลหิตที่ค่อนข้างซับซ้อน โดยมีหัวใจสามห้อง คำตอบ: (H).

ระบบไหลเวียนเลือดที่ค่อนข้างซับซ้อนกับหัวใจสามห้องมีอะไรบ้าง\nตัวเลือก:\n- (A) กบ\n- (B) ปลา\n- (C) ปลาแซลมอน\n- (D) อัลปาก้า\n- ( E) ผู้ชาย\n- (F) นก\n- (G) ฉลาม\n- (H) กระทะ ขอให้แม่นยำที่สุด

สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกมีระบบไหลเวียนโลหิตที่ค่อนข้างซับซ้อนโดยมีหัวใจสามห้อง กบทั้งหมดเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ กบมีระบบไหลเวียนโลหิตที่ค่อนข้างซับซ้อนโดยมีหัวใจสามห้อง คำตอบสุดท้าย: (A).

สัตว์ชนิดใดที่ไม่มีส่วนหน้าหรือส่วนหลัง\nตัวเลือก:\n- (A) สัตว์ต่างๆ\n- (B) ต้นพีชลีฟวิลโลว์\n- (C) กระต่าย\n- (D) ปลาปักเป้า\n- (E) รอยขนแมว\n- (F) งู\n- (G) เอไคโนเดิร์ม\n- (H) อัลปาก้า ขอให้พูดให้ถูกที่สุด

เอไคโนเดิร์มตัวเต็มวัยมีความสมมาตรในแนวรัศมี สัตว์ที่มีสมมาตรในแนวรัศมีไม่มีส่วนหน้าและส่วนหลัง เอไคโนเดิร์มตัวเต็มวัยไม่มีปลายด้านหน้าและด้านหลัง คำตอบสุดท้าย: (G).

เอไคโนเดิร์มตัวเต็มวัยอาศัยอยู่ที่ไหน\nตัวเลือก:\n- (A) ดิน\n- (B) ทะเลทราย\n- (C) น้ำจืด\n- (D) ฟอสซิล\n- (E) น้ำ\n- (F ) Earth\n- (G) ขนาดเล็ก\n- (H) พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ขอให้ถูกต้องที่สุด

เอไคโนเดิร์มตัวเต็มวัยมีความสมมาตรในแนวรัศมี สัตว์ทุกตัวที่มีสมมาตรในแนวรัศมีอาศัยอยู่ในน้ำ เอไคโนเดิร์มตัวเต็มวัยทั้งหมดอาศัยอยู่ในน้ำ คำตอบสุดท้าย: (E)

ข้อใดต่อไปนี้ไม่มีส่วนหน้าและส่วนหลัง\nตัวเลือก:\n- (A) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่โตเต็มวัย\n- (B) สัตว์เลื้อยคลานที่โตเต็มวัย\n- (C) นกที่โตเต็มวัย\n- (D) อีไคโนเดิร์มที่โตเต็มวัย \n- (E) โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์\n- (F) ภูเขาไฟที่กำลังปะทุ\n- (G) ต้นพีชลีฟวิลโลว์\n- (H) เซลล์ประสาทรับความรู้สึก มาทำให้แม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และคิดไปทีละขั้น

เอไคโนเดิร์มตัวเต็มวัยมีความสมมาตรในแนวรัศมี สัตว์ที่มีสมมาตรในแนวรัศมีไม่มีส่วนหน้าและส่วนหลัง เอไคโนเดิร์มตัวเต็มวัยไม่มีปลายด้านหน้าและด้านหลัง คำตอบ: (D).

อะไรมีความสมมาตรในแนวรัศมี\nตัวเลือก:\n- (A) ต้นหลิวใบพีช\n- (B) เม่นทะเล\n- (C) มนุษย์\n- (D) หอยทาก\n- (E) ตัวอักษรกรีก\n - (F) ความไม่สมมาตร\n- (G) สุนัข\n- (H) พืชส่วนใหญ่ ค่อยๆ แก้ปัญหานี้ไป

เอไคโนเดิร์มตัวเต็มวัยมีความสมมาตรในแนวรัศมี เม่นทะเลเป็นสัตว์จำพวกเอไคโนเดอร์ม (echinoderms) อยู่ในตระกูลเดียวกับปลาดาว เม่นทะเลที่โตเต็มวัยมีสมมาตรในแนวรัศมี ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (B)

ผู้ใหญ่ของสัตว์ชนิดใดที่มีสมมาตรในแนวรัศมี\nตัวเลือก:\n- (A) แกรปโตไลต์\n- (B) ปลาดาว\n- (C) ปลา\n- (D) รอยขนแมว\n- (E) อัลปาก้า\n- (F) แมลง\n- (G) อุดมสมบูรณ์\n- (H) เพรียง ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

เอไคโนเดิร์มตัวเต็มวัยมีความสมมาตรในแนวรัศมี Echinoderms เป็นตัวแทนของปลาดาว ปลาดาวตัวเต็มวัยมีสมมาตรในแนวรัศมี คำตอบสุดท้าย: (B).

อะไรคือส่วนหนึ่งของความชราตามธรรมชาติ\nตัวเลือก:\n- (A) การสูบบุหรี่\n- (B) การตายของเซลล์\n- (C) การฟื้นฟู\n- (D) ความเจ็บป่วย\n- (E) การกระตุ้น\n - (F) รอยแตก\n- (G) น้ำหนัก\n- (H) ผิวเต่งตึง มาทำให้ถูกต้องที่สุดและคิดไปทีละขั้น

ความชราสัมพันธ์กับการตายของเซลล์ Apoptosis หมายถึงการตายของเซลล์ Apoptosis เป็นส่วนหนึ่งของความชราตามธรรมชาติ คำตอบ: (B).

ความแก่เกี่ยวข้องกับการย่อยสลาย:\nตัวเลือก:\n- (A) พืชส่วนใหญ่\n- (B) วัตถุ\n- (C) กรด\n- (D) เทโลเมียร์\n- (E) ชั้นไขมัน\n - (F) คลอโรฟิลล์\n- (G) พืชพรรณ\n- (H) ผิวหนัง ขอให้แม่นยำที่สุด

ความชราสัมพันธ์กับการตายของเซลล์ เทโลเมียร์จะเสื่อมลงเมื่อเซลล์แบ่งตัวและการสั้นลงทำให้เซลล์ตาย ความชราสัมพันธ์กับเทโลเมียร์ที่เสื่อมโทรม คำตอบสุดท้าย: (D).

พืชอาศัยอยู่เกือบทุกที่ในโลกของเรา\nตัวเลือก:\n- (A) เปลือกโลก\n- (B) ระบบสุริยะ\n- (C) สถานะ\n- (D) สิ่งแวดล้อม\n- (E) บรรยากาศ \n- (F) ดวงจันทร์\n- (G) พลังงานแสงอาทิตย์\n- (H) พืช เรามาค่อยๆ แก้ปัญหานี้กัน

พืชอาศัยอยู่เกือบทุกที่บนโลก อากาศมีอยู่ทั่วไปในชั้นบรรยากาศของโลก พืชอาศัยอยู่เกือบทุกที่ในชั้นบรรยากาศ ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (E)

มาคิดกันทีละขั้นตอน! พืชและงูอาศัยอยู่ _.\nตัวเลือก:\n- (A) เกือบทุกที่\n- (B) แหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญ\n- (C) เติมน้ำให้เซลล์ของพวกมัน\n- (D) แพร่พันธุ์\n- (E) อุดมสมบูรณ์มากขึ้น\ n- (F) แย่งชิงทรัพยากร\n- (G) สิ่งแวดล้อม\n- (H) พืชพรรณ ความคิดเริ่มต้นขึ้นแล้ว:

พืชอาศัยอยู่เกือบทุกที่บนโลก งูอาศัยอยู่เกือบทุกที่บนโลก พืชอาศัยอยู่เกือบทุกที่ที่งูทำ คำตอบสุดท้าย: (A).

ผู้ผลิตสีเขียวส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่ไหนบนโลก\nตัวเลือก:\n- (A) อุดมสมบูรณ์มากขึ้น\n- (B) สัตว์\n- (C) เกษตรกรรม\n- (D) โลก\n- (E) การอยู่รอด\ n- (F) ลุ่มน้ำ\n- (G) ต้นสน\n- (H) ตกลงทุกที่ ลองคิดดูให้ดี:

พืชอาศัยอยู่เกือบทุกที่บนโลก หากพืชเป็นสีเขียวแสดงว่าเป็นผู้ผลิต ผู้ผลิตสีเขียวอาศัยอยู่เกือบทุกที่บนโลก ดังนั้น คำตอบสุดท้ายคือ (H)

ไม่ใช่ไวรัสอะไร\nตัวเลือก:\n- (A) สำเนาตัวเอง\n- (B) วัตถุ\n- (C) เอชไอวี\n- (D) มนุษย์\n- (E) ติดเชื้อ\n- ( F) เป็นเนื้อเดียวกัน\n- (G) อันตราย\n- (H) โปรคาริโอต มาทำให้แม่นยำที่สุดกันเถอะ

ประชากรของไวรัสไม่เติบโตผ่านการแบ่งเซลล์เพราะพวกมันไม่ใช่เซลล์ โปรคาริโอตจะเพิ่มจำนวนขึ้นด้วยการแบ่งเซลล์อย่างง่าย สร้างตัวโคลนหรือสำเนาของตัวมันเอง ไวรัสไม่ใช่โปรคาริโอต คำตอบสุดท้าย: (H).

มาคิดกันทีละขั้นตอน! ข้อใดต่อไปนี้ไม่เติบโตโดยใช้ไมโทซิส\nตัวเลือก:\n- (A) เซลล์ผิวหนัง\n- (B) สกุล\n- (C) เชื้อรา\n- (D) เซลล์ปอด\n- (E) เลือด เซลล์\n- (F) ปรสิต\n- (G) ไวรัส\n- (H) แบคทีเรีย ความคิดเริ่มต้นทันที:

ประชากรของไวรัสไม่เติบโตผ่านการแบ่งเซลล์เพราะพวกมันไม่ใช่เซลล์ ไมโทซิสคือการแบ่งเซลล์ ประชากรของไวรัสไม่เติบโตผ่านไมโทซีส เพราะพวกมันไม่ใช่เซลล์ คำตอบสุดท้าย: (G).

ใช้เหตุผลตอบคำถามต่อไปนี้ สิ่งหนึ่งที่ไวรัสไม่ก่อให้เกิดคืออะไร\nตัวเลือก:\n- (A) โรค\n- (B) เอดส์\n- (C) ความเจ็บป่วย\n- (D) มะเร็ง\n- (E) อีโบลา\n- (F) ไข้\n- (G) ความตาย\n- (H) ไข้ทรพิษ

ประชากรของไวรัสไม่เติบโตผ่านการแบ่งเซลล์เพราะพวกมันไม่ใช่เซลล์ มะเร็งคือการแบ่งตัวของเซลล์ที่ไม่ได้ควบคุม มะเร็งไม่ได้เกิดจากไวรัส ดังนั้น คำตอบคือ (D)

ไวรัสไม่เพิ่มจำนวนด้วยวิธีใด\nตัวเลือก:\n- (A) การเพิ่มความร้อน\n- (B) ที่หรือใกล้ขอบ\n- (C) พวกมันอาจไม่รอด\n- (D) แห้ง เงื่อนไข\n- (E) ความร้อนหรือความเย็น\n- (F) โดยแสงทางอ้อม\n- (G) ความเสียหายเฉพาะที่\n- (H) การหารแบบไบนารี ขอให้แม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และคิดทีละขั้นตอน

ประชากรของไวรัสไม่เติบโตผ่านการแบ่งเซลล์เพราะพวกมันไม่ใช่เซลล์ เซลล์ซึ่งเป็นหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เพิ่มจำนวนโดยการแบ่งตัวแบบเลขฐานสอง ไวรัสไม่แพร่กระจายผ่านการหารแบบไบนารี คำตอบ: (H).

อะไรไม่เติบโตจากการแบ่งเซลล์\nตัวเลือก:\n- (A) p53\n- (B) เอดส์\n- (C) โฮสต์\n- (D) ดีดีที\n- (E) ปอด \n- (F) เอชไอวี\n- (G) ข้าวโพด\n- (H) HPV ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

ประชากรของไวรัสไม่เติบโตผ่านการแบ่งเซลล์เพราะพวกมันไม่ใช่เซลล์ ในกรณีที่ไวรัสส่วนใหญ่เป็น DNA เอชไอวีเป็นไวรัส RNA ประชากรของเชื้อเอชไอวีไม่ได้เติบโตจากการแบ่งเซลล์เพราะพวกมันไม่ใช่เซลล์ คำตอบสุดท้าย: (F).

การถ่ายโอนละอองเรณูไปยังขั้นตอนการปฏิสนธิของการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชคืออะไร\nตัวเลือก:\n- (A) ปาน\n- (B) แอปเปิ้ล\n- (C) ดอกไม้\n- (D) ตัวอ่อน\ n- (E) มันฝรั่ง\n- (F) เมล็ดพืช\n- (G) ไข่\n- (H) พืชตกลง ลองคิดดูให้ดี:

การผสมเกสรเป็นขั้นตอนการปฏิสนธิในการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช การผสมเกสรคือการถ่ายโอนละอองเรณูไปสู่มลทิน การถ่ายโอนละอองเรณูไปยังมลทินเป็นขั้นตอนการปฏิสนธิในการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืช ดังนั้น คำตอบสุดท้ายคือ (A)

สัตว์ที่มักจะมีระบบประสาทที่ซับซ้อนขาดอะไร\nตัวเลือก:\n- (A) พลังงาน\n- (B) พลังงาน\n- (C) ระบบประสาท\n- (D) คลอโรฟิลล์\n- (E ) กระดูกสันหลัง\n- (F) อัลลีล\n- (G) ช่องท้อง\n- (H) สมองตกลง ลองคิดดูให้ดี:

สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังส่วนใหญ่มีระบบประสาทที่ซับซ้อนกว่า สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง สัตว์ส่วนใหญ่ที่ไม่มีกระดูกสันหลังมีระบบประสาทที่ซับซ้อนกว่า ดังนั้น คำตอบสุดท้ายคือ (E)

สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังส่วนใหญ่มีสมองที่สามารถทำอะไรได้บ้าง\nตัวเลือก:\n- (A) กระแสจิต\n- (B) การเคลื่อนไหว\n- (C) พลังจิต\n- (D) ช่วยให้เติบโตได้\n- (E) สัตว์ต่างๆ\ n- (F) การเรียนรู้\n- (G) การย้ายถิ่นฐาน\n- (H) พลัง ลองคิดทีละขั้นตอนด้านล่างนี้

สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังส่วนใหญ่มีระบบประสาทที่ซับซ้อนกว่า ปลาหมึกมีระบบประสาทที่พัฒนาอย่างดีพร้อมสมองที่ซับซ้อนที่สามารถเรียนรู้ได้ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังส่วนใหญ่มีสมองที่สามารถเรียนรู้ได้ ดังนั้น คำตอบคือ (F)

สิ่งที่คลานและมีระบบประสาทที่ซับซ้อนคืออะไร? \nตัวเลือก:\n- (A) รอยขนแมว\n- (B) แมลง\n- (C) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม\n- (D) สัตว์\n- (E) ปลา\n- (F) มนุษย์\n - (G) ผึ้ง\n- (H) เป็ด มาทำให้ถูกต้องที่สุดและคิดทีละขั้นตอน

สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังส่วนใหญ่มีระบบประสาทที่ซับซ้อนกว่า แมลงเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่พบบ่อยที่สุด แมลงมีระบบประสาทที่ซับซ้อนกว่า คำตอบ: (B).

ข้อใดต่อไปนี้มีระบบประสาทที่ซับซ้อนที่สุด\nตัวเลือก:\n- (A) สัตว์\n- (B) เส้นประสาท\n- (C) รอยขนแมว\n- (D) มนุษย์\n- (E) ช้าง \n- (F) แมงกะพรุน\n- (G) หมี\n- (H) kalenchoes ค่อยๆ แก้ปัญหานี้ไป

สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังส่วนใหญ่มีระบบประสาทที่ซับซ้อนกว่า แมงกะพรุนและแมลงเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง แมงกะพรุนมีระบบประสาทที่ซับซ้อนกว่า ดังนั้นคำตอบสุดท้ายคือ (F)

อะไรเพิ่มอัตราของกระบวนการทางเคมีทั้งหมดในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต\nตัวเลือก:\n- (A) ไทรอยด์ฮอร์โมน\n- (B) เซลล์เม็ดเลือด\n- (C) รูขุมขน\n- (D) ปฏิกิริยาออกซิเดชัน\ n- (E) อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง\n- (F) เซลล์ผิวหนัง\n- (G) อุณหภูมิ\n- (H) พลังงานความร้อน ตกลง ลองคิดดูให้ดี:

ไทรอยด์ฮอร์โมนเพิ่มอัตราการเผาผลาญในเซลล์ทั่วร่างกาย การเผาผลาญเป็นผลรวมของกระบวนการทางเคมีทั้งหมดในสิ่งมีชีวิต ฮอร์โมนไทรอยด์เพิ่มอัตราของกระบวนการทางเคมีทั้งหมดในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต ดังนั้น คำตอบสุดท้ายคือ (A)

ฮอร์โมนไทรอยด์เพิ่มอัตรา \nตัวเลือก:\n- (A) โดยการสร้างความร้อน\n- (B) ส่วนที่เหลือของร่างกาย\n- (C) เซลล์เพศหญิง\n- (D) ช่วยให้พวกมันเติบโต\ n- (E) ความชุ่มชื้นของเซลล์\n- (F) ความร้อนที่เกิดขึ้น\n- (G) การแปลงอาหารเป็นพลังงาน\n- (H) ความสามารถในการใช้ออกซิเจน มาทำให้ถูกต้องที่สุดและคิดไปทีละขั้น

ไทรอยด์ฮอร์โมนเพิ่มอัตราการเผาผลาญในเซลล์ทั่วร่างกาย เมแทบอลิซึมคือกระบวนการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน ไทรอยด์ฮอร์โมนจะเพิ่มอัตราการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน คำตอบ: (G).

อะไรเพิ่มอัตราการเผาผลาญในเซลล์ทั่วร่างกาย\nตัวเลือก:\n- (A) ไทร็อกซีน\n- (B) การสูบบุหรี่\n- (C) ไข้\n- (D) สเปรย์ชีวภาพ\n- (E) อะซิติก กรด\n- (F) เหงื่อออก\n- (G) โรงไฟฟ้า\n- (H) ความร้อนที่เกิดขึ้น คิดให้รอบคอบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ความคิดของฉัน:

ไทรอยด์ฮอร์โมนเพิ่มอัตราการเผาผลาญในเซลล์ทั่วร่างกาย Thyroxine ฮอร์โมนไทรอยด์เป็นแอริลไอโอไดด์ ไธร็อกซีนเพิ่มอัตราการเผาผลาญในเซลล์ทั่วร่างกาย ดังนั้นคำตอบคือ (A)

ไธโรซีนเพิ่มอัตราการเผาผลาญในเซลล์ตลอดช่วงใด\nตัวเลือก:\n- (A) ฤดูร้อน\n- (B) ร่างกาย\n- (C) สภาพ\n- (D) ผิวหนัง\n- (E) H 2 O\n- (F) เอชไอวี\n- (G) ชีวิต\n- (H) มนุษย์ตกลง ลองคิดดูให้ดี:

ไทรอยด์ฮอร์โมนเพิ่มอัตราการเผาผลาญในเซลล์ทั่วร่างกาย Thyroxine ฮอร์โมนไทรอยด์เป็นแอริลไอโอไดด์ Thyroxine เพิ่มอัตราการเผาผลาญในเซลล์ทั่วร่างกาย ดังนั้น คำตอบสุดท้ายคือ (B)

กระบวนการกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายคืออะไร\nตัวเลือก:\n- (A) ความชุ่มชื้น\n- (B) การปัสสาวะ\n- (C) ความมักมากในกาม\n- (D) ถังขยะ\n- ( E) การกลายเป็นไอ\n- (F) การทำอาหาร\n- (G) ของเสียในร่างกาย\n- (H) การขัดผิว อืม ขอคิดดูก่อน ไม่อยากผิดเลยต้องระวัง

การขับถ่ายเป็นกระบวนการกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย คีโตนจะถูกขับออกและขับออกทางปัสสาวะ การปัสสาวะเป็นกระบวนการกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย คำตอบ: (B).

เส้นทางหลักในการขจัดของเสียออกจากร่างกายคืออะไร\nตัวเลือก:\n- (A) ชาล้างพิษ\n- (B) อุจจาระ\n- (C) เรอ\n- (D) น้ำมันหอมระเหย\n- (E ) กลูโคส\n- (F) โซเดียม\n- (G) NaCl\n- (H) แม่น้ำ อืม ขอคิดดูก่อน ไม่อยากผิดเลยต้องระวัง

การขับถ่ายเป็นกระบวนการกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย เส้นทางการขับถ่ายหลักอยู่ในอุจจาระ อุจจาระเป็นเส้นทางหลักในการขจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย คำตอบ: (B).

มาคิดกันทีละขั้นตอน! กระบวนการกำจัดอุจจาระและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายมนุษย์เรียกว่าอะไร\nตัวเลือก:\n- (A) การรีไซเคิล\n- (B) น้ำลายไหล\n- (C) การผลิตของเสีย\n- (D) การขับถ่าย\n - (E) การขัดผิว\n- (F) เหงื่อ\n- (G) การพอกตัว\n- (H) การพอกตัว ความคิดเริ่มต้นขึ้นแล้ว:

การขับถ่ายเป็นกระบวนการกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย ขยะมูลฝอยเรียกว่าอุจจาระ การขับถ่ายเป็นกระบวนการกำจัดอุจจาระและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย คำตอบสุดท้าย: (D).

อะไรเพิ่มกระบวนการกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย\nตัวเลือก:\n- (A) เหงื่อออก\n- (B) ความชุ่มชื้น\n- (C) การสูบบุหรี่\n- (D) แบคทีเรีย\n- (E ) น้ำส้มสายชู\n- (F) แอลกอฮอล์\n- (G) การทำอาหาร\n- (H) การต้ม ให้ถูกต้องที่สุด

การขับถ่ายเป็นกระบวนการกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย แอลกอฮอล์จะเพิ่มการย่อยสลายและการขับถ่าย แอลกอฮอล์จะเพิ่มกระบวนการกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย คำตอบสุดท้าย: (F).

พืชสามารถสร้าง:\nตัวเลือก:\n- (A) พลังงานเคมี\n- (B) กลูโคส\n- (C) พลังงานแสงอาทิตย์\n- (D) ปุ๋ย\n- (E) อินทรีย์ สารประกอบ\n- (F) การขัดผิว\n- (G) อาหารของพวกมันเอง\n- (H) ไนโตรเจน ให้เหตุผลทีละขั้นตอน:

ผู้ผลิตคือสิ่งมีชีวิตที่ผลิตอาหารสำหรับตัวเองและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ พืชสีเขียวเป็นผู้ผลิตอาหาร พืชเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำอาหารสำหรับตัวเองและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ คำตอบสุดท้าย: (G).

มาคิดกันทีละขั้นตอน! สิ่งมีชีวิตที่ทำอาหารสำหรับตัวเองและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ คืออะไร\nตัวเลือก:\n- (A) เห็ด\n- (B) พืชสีเขียว\n- (C) พืช\n- (D) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม\n- (E) เกษตรกรรม\n- (F) ผึ้ง\n- (G) การสังเคราะห์ด้วยแสง\n- (H) สัตว์ ความคิดเริ่มต้นขึ้นแล้ว:

ผู้ผลิตคือสิ่งมีชีวิตที่ผลิตอาหารสำหรับตัวเองและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ พืชสีเขียวเป็นผู้ผลิต พืชสีเขียวเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำอาหารสำหรับตัวเองและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ คำตอบสุดท้าย: (B).

ฐานของห่วงโซ่อาหารให้อาหารสำหรับอะไร\nตัวเลือก:\n- (A) ช่วยให้พวกมันอยู่รอดได้\n- (B) ตะกอน\n- (C) พืชส่วนใหญ่\n- (D) สิ่งมีชีวิตอื่นๆ \n- (E) โลกของเรา\n- (F) ระบบพลังงาน\n- (G) ผลไม้\n- (H) การอยู่รอดของสัตว์ ลองคิดทีละขั้นตอนด้านล่างนี้

ผู้ผลิตคือสิ่งมีชีวิตที่ผลิตอาหารสำหรับตัวเองและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ผู้ผลิตเป็นฐานของห่วงโซ่อาหาร ฐานของห่วงโซ่อาหารช่วยจัดหาอาหารให้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ดังนั้น คำตอบคือ (D)