diff --git "a/data/train/science.csv" "b/data/train/science.csv" --- "a/data/train/science.csv" +++ "b/data/train/science.csv" @@ -1,5 +1,5 @@ -year,"""no""",instruction,input,result,isAnswerable,isMultipleChoice,isSingleChoiceSolution -2020,"""1""","ข้อมูลลักษณะสำคัญของไบโอมชนิดต่างๆแสดงดังตาราง +year,no,instruction,input,result,isAnswerable,isMultipleChoice,isSingleChoiceSolution +2020,"1","ข้อมูลลักษณะสำคัญของไบโอมชนิดต่างๆแสดงดังตาราง ไบโอม ลักษณะสำคัญ สะวันนา มีอุณหภูมิค่อนข้างสูงตลอดปีมีฤดูแล้งยาวนาน และมีหญ้าเป็นพืชกลุ่มเด่น ป่าเขตร้อน มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่อปี 25 - 29 องศาเซลเซียสมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตสูงมีพืชและต้นไม้ใหญ่หนาแน่น @@ -12,8 +12,8 @@ year,"""no""",instruction,input,result,isAnswerable,isMultipleChoice,isSingleCho 2. ทุนดราและ สะวันนา 3. ทุนด ราและ ป่าเขตร้อน 4. ป่าเขต ร้อนและทุนดรา -5. ป่าเขต ร้อน และ สะวันนา",2. ทุนดราและ สะวันนา,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""2""","พื้นที่หนึ่งมีลักษณะเป็นลานหินซึ่งไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มาก่อนเมื่อเวลาผ่านไป +5. ป่าเขต ร้อน และ สะวันนา",2. ทุนดราและ สะวันนา,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"2","พื้นที่หนึ่งมีลักษณะเป็นลานหินซึ่งไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มาก่อนเมื่อเวลาผ่านไป เกิดการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทำให้มีรอยแตกบนหินต่อมาจึงเริ่มมีสิ่งมีชีวิตชนิดแรก เกิดขึ้นและพัฒนาจนกลายเป็นป่า @@ -21,8 +21,8 @@ year,"""no""",instruction,input,result,isAnswerable,isMultipleChoice,isSingleCho 2. ไลเคน มอส หญ้า ไม้ต้น ไม้พุ่ม 3. ไลเคน มอส หญ้า ไม้พุ่ม ไม้ต้น 4. หญ้า ไลเคน มอสไม้พุ่ม ไม้ต้น -5. หญ้า ไม้พุ่ม ไม้ต้น มอส ไลเคน",3. ไลเคน มอส หญ้า ไม้พุ่ม ไม้ต้น,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""3""","ลักษณะการลำเลียงสารเข้าสู่เซลล์ของสาร A B และ C ขณะเริ่มต้น เป็นดังภาพ +5. หญ้า ไม้พุ่ม ไม้ต้น มอส ไลเคน",3. ไลเคน มอส หญ้า ไม้พุ่ม ไม้ต้น,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"3","ลักษณะการลำเลียงสารเข้าสู่เซลล์ของสาร A B และ C ขณะเริ่มต้น เป็นดังภาพ จากภาพ ข้อใดระบุรูปแบบและทิศทางการลำเลียงสารได้ถูกต้อง"," ชนิดของสาร รูปแบบการลำเลียงสาร ทิศทางการล่าเลียง @@ -30,21 +30,21 @@ year,"""no""",instruction,input,result,isAnswerable,isMultipleChoice,isSingleCho 2. สาร A การแพร่แบบธรรมดา ความเข้มข้นมาก ➜ น้อย 3. สาร B การแพร่แบบฟาซิลิเทต ความเข้มข้นน้อย ➜ มาก 4. สาร B การแพร่แบบแอกทีฟทรานสปอร์ต ความเข้มข้นน้อย ➜ มาก -5. สาร C การแพร่แบบฟาซิลิเกต ความเข้มข้นมาก ➜ น้อย",2. สาร A การแพร่แบบธรรมดา ความเข้มข้นมาก ➜ น้อย,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""4""","ข้อใดกล่าวถึงการรักษาดุลยภาพของกรด เบสใ���เลือดได้ถูกต้อง +5. สาร C การแพร่แบบฟาซิลิเกต ความเข้มข้นมาก ➜ น้อย",2. สาร A การแพร่แบบธรรมดา ความเข้มข้นมาก ➜ น้อย,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"4","ข้อใดกล่าวถึงการรักษาดุลยภาพของกรด เบสในเลือดได้ถูกต้อง ","1. ถ้าเลือดเป็นเบสอัตราการหายใจจะลดลง เพื่อลดปริมาณ H^+ 2. ถ้าเลือดเป็นเบส อัตราการหายใจจะเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มปริมาณ H^+ 3. ถ้าเลือดเป็นกรด อัตราการหายใจจะลดลง เพื่อเพิ่มปริมาณ CO2 4. ถ้าเลือดเป็นกรด อัตราการหายใจจะเพิ่มขึ้นเพื่อลดปริมาณ CO2 -5. ถ้าเลือดเป็นกรด อัตราการหายใจจะลดลงเพื่อให้ปริมาณ CO₂ คงที",4. ถ้าเลือดเป็นกรด อัตราการหายใจจะเพิ่มขึ้นเพื่อลดปริมาณ CO2,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""5""","ชายคนหนึ่งตัดหญ้าในสนามฟุตบอลท่ามกลางอากาศร้อน จัด ที่มีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส +5. ถ้าเลือดเป็นกรด อัตราการหายใจจะลดลงเพื่อให้ปริมาณ CO₂ คงที",4. ถ้าเลือดเป็นกรด อัตราการหายใจจะเพิ่มขึ้นเพื่อลดปริมาณ CO2,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"5","ชายคนหนึ่งตัดหญ้าในสนามฟุตบอลท่ามกลางอากาศร้อน จัด ที่มีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส เป็นเวลา2ชั่วโมงโดยไม่หยุดพักทำให้ร่างกายของเขามีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ จากสถานการณ์ข้อใดระบุกลไกที่ทำให้อุณหภูมิร่างกายของชายคนนี้กลับสู่สภาวะปกติได้ถูกต้อง","1. อัตราเมแทบอลิซึมลดลงหลอดเลือดบริเวณผิวหนังหดตัว 2. อัตราเมแทบอลิซึมเพิ่มขึ้นหลอดเลือดบริเวณผิวหนังหดตัว 3. อัตราเมแทบอลิซึมเพิ่มขึ้นหลอดเลือดบริเวณผิวหนังขยายตัว 4. อัตราเมแทบอลิซึมลดลง ต่อมเหงื่อมีการสร้างเหงื่อเพิ่มมากขึ้น -5. อัตราเมแทบอลิซึมเพิ่มขึ้น ต่อมเหงื่อมีการสร้างเหงื่อเพิ่มมาก ขึ้น",4. อัตราเมแทบอลิซึมลดลง ต่อมเหงื่อมีการสร้างเหงื่อเพิ่มมากขึ้น,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""6""","นักเรียนคนหนึ่งศึกษาสารอินทรีย์ในพืช A B และ C โดยบดพืชแต่ละชนิดให้ละเอียดผสมกับน้ำ +5. อัตราเมแทบอลิซึมเพิ่มขึ้น ต่อมเหงื่อมีการสร้างเหงื่อเพิ่มมาก ขึ้น",4. อัตราเมแทบอลิซึมลดลง ต่อมเหงื่อมีการสร้างเหงื่อเพิ่มมากขึ้น,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"6","นักเรียนคนหนึ่งศึกษาสารอินทรีย์ในพืช A B และ C โดยบดพืชแต่ละชนิดให้ละเอียดผสมกับน้ำ แล้วนำ ไปคั้นและกรองเพื่อนำ ของเหลวที่ได้ไปทดสอบด้วยวิธีการต่าง ๆได้ผลการทดสอบ ดังตาราง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อทดสอบด้วยวิธีการต่างๆ พืช ทดสอบด้วย ทดสอบด้วย ถูบนกระดาษขาว @@ -58,8 +58,8 @@ C สารละลายสีน้ำตาล 2. พืช B สามารถนำ มาทําผงแป้งประกอบอาหารได้ 3. พืช C สามารถนำ มาสกัดได้สารที่นำ มาผลิตเป็นอาหารเสริมโปรตีนได้ 4. พืช A และ B สามารถใช้เป็นแหล่งโปรตีนจากพืชได้ -5. พืช B และ C สามารถนำ มารับประทานทดแทน ข้าวได้",3. พืช C สามารถนำ มาสกัดได้สารที่นำ มาผลิตเป็นอาหารเสริมโปรตีนได้,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""7""","สาร X เป็นสารสังเคราะห์ที่มีสมบัติเหมือนฮอร์โมนพืชซึ่งมักพบบริเวณปลายยอดของพืชชนิดหนึ่ง +5. พืช B และ C สามารถนำ มารับประทานทดแทน ข้าวได้",3. พืช C สามารถนำ มาสกัดได้สารที่นำ มาผลิตเป็นอาหารเสริมโปรตีนได้,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"7","สาร X เป็นสารสังเคราะห์ที่มีสมบัติเหมือนฮอร์โมนพืชซึ่งมักพบบริเวณปลายยอดของพืชชนิดหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์ การศึกษาผลของสารชนิดนี้ในห้องมืดโดยการตัดส่วนยอดของพืชชนิดนี้ออก จากนั้นนำชิ้นวุ้นที่มีสาร X ไปวางบนลำต้นของพืชส่วนที่ถูกตัดยอดออกดังภาพที่1 เมื่อตั้งทิ้งไว้ พบว่าลำต้นพืชเกิดการเปลี่ยนแปลงดังภาพที่ 2 ในขณะที่ชุดการทดลองที่เป็นชุดควบคุมซึ่งวาง @@ -70,8 +70,8 @@ C สารละลายสีน้ำตาล 2. ปัจจัยภายนอกและสาร X มีสมบัติเหมือนออกซิน 3. ปัจจัยภายในและสาร X มีสมบัติเหมือนไซโทไคนิน 4. ปัจจัยภายในและสาร X มีสมบัติเหมือนจิบเบอเรลลิน -5. ปัจจัยภายใน และสาร X มีสมบัติเหมือนกรดแอบไซซิก",2. ปัจจัยภายนอกและสาร X มีสมบัติเหมือนออกซิน,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""8""","แผนผังแสดงข้อมูลหมู่เลือดระบบ ซึ่งควบคุมด้วยยีนบนออโตโซมและการเป็นโรค +5. ปัจจัยภายใน และสาร X มีสมบัติเหมือนกรดแอบไซซิก",2. ปัจจัยภายนอกและสาร X มีสมบัติเหมือนออกซิน,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"8","แผนผังแสดงข้อมูลหมู่เลือดระบบ ซึ่งควบคุมด้วยยีนบนออโตโซมและการเป็นโรค ฮีโมฟีเลียซึ่งควบคุมด้วยแอลลีกด้อยบนโครโมโซม ของครอบครัวหนึ่ง เป็นดังนี้ ถ้าครอบครัวนี้ มีลูกคนที่ 4 จีโนไทป์แบบใดจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้น @@ -80,8 +80,8 @@ C สารละลายสีน้ำตาล 2. I^AI^BX^hX^h 3. I^AI^AX^HX^H 4.I^BiXHY -5.iiXhY",3. I^AI^AX^HX^H,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""9""","แบบจำลองพอลินิวคลีโอไทด์สายหนึ่ง แสดงดังภาพ +5.iiXhY",3. I^AI^AX^HX^H,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"9","แบบจำลองพอลินิวคลีโอไทด��สายหนึ่ง แสดงดังภาพ ต่อมาพอลินิ วคลีโอไทด์สาย นี้เกิดมิวเทชันที่ทำให้ ไนโตรจีนัสเบสตำแหน่งที่ 5 เปลี่ยน เป็นกวานีน @@ -90,8 +90,8 @@ C สารละลายสีน้ำตาล 2. CATGGTCG 3. GTACGAGC 4. GTACTAGC -5. GTACCAGC",5. GTACCAGC,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""10""","ข้าวสีทองเกิดจากการปรับปรุงพันธุ์พืชโดยการตัดต่อยืนสังเคราะห์เบต้าแคโรทีนจากพืชชนิดอื่น +5. GTACCAGC",5. GTACCAGC,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"10","ข้าวสีทองเกิดจากการปรับปรุงพันธุ์พืชโดยการตัดต่อยืนสังเคราะห์เบต้าแคโรทีนจากพืชชนิดอื่น เข้าไปในจีโนมของข้าวเพื่อให้ข้าวที่ได้มีเบต้าแคโรทีนอยู่ภายใน เอนโดสเปิร์มทำให้ไม่มี การสูญ เสียเบต้าแคโรทีนไปในระหว่างการขัดสี @@ -99,8 +99,8 @@ C สารละลายสีน้ำตาล 2. เพื่อเพิ่มปริมาณ ผลผลิตของข้าว 3. เพื่อป้องกันการรบกวนจากศัตรูพืช 4. เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาผลผลิตข้าว -5. เพื่อเพิ่มความทนทานต่อสภาพอากาศ",1. เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""11""","พิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับเลขมวลและจำนวนนิวตรอนของธาตุ X Y WและZ ดังนี้ +5. เพื่อเพิ่มความทนทานต่อสภาพอากาศ",1. เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"11","พิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับเลขมวลและจำนวนนิวตรอนของธาตุ X Y WและZ ดังนี้ ธาตุ เลขมวล นิวตรอน X 23 12 Y 18 10 @@ -111,15 +111,15 @@ W 27 14 3. สัญลักษณ์นิวเคลียร์ของ X คือ 1223X 4. Z^2- ไอออนมีจํานวนโปรตอนเท่ากับ 6 5.X^+ ไอออนกับอะตอม W มีจํานวนอิเล็กตรอนเท่ากัน -",2. Y กับ Z เป็นธาตุชนิดเดียวกัน,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""12""","กำหนดตำแหน่งของธาตุ 8 ชนิด ในตารางธาตุ เป็นดังนี้ +",2. Y กับ Z เป็นธาตุชนิดเดียวกัน,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"12","กำหนดตำแหน่งของธาตุ 8 ชนิด ในตารางธาตุ เป็นดังนี้ จากข้อมูลข้อสรุปใดไม่ถูกต้อง","1. ธาตุ Q มีแนวโน้มรับอิเล็กตรอนเมื่อเกิดปฏิกิริยากับธาตุ Z 2. ธาตุ E มีสมบัติการนำไฟฟ้าได้ดีกว่าธาตุ แต่ไม่ดีเท่าธาตุ P 3. ธาตุ W E และ L มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 2 4 และ 6 ตามลำดับ 4. ธาตุ G มีสถานะเป็นแก๊สที่อยู่ในรูปอะตอมเดี่ยวและไม่ว่องไวต่อปฏิกิริยาเคมี -5. ธาตุ Z และ M มีสมบัติทางเคมีคล้ายกัน แต่ธาตุ Z อยู่ในคาบที่มีค่าตัวเลขมากกว่าธาตุ M ",5. ธาตุ Z และ M มีสมบัติทางเคมีคล้ายกัน แต่ธาตุ Z อยู่ในคาบที่มีค่าตัวเลขมากกว่าธาตุ M ,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""13""","สารประกอบไอออนิก A B C D และ E เกิดจากแรงยึดเหนี่ยวระหว่างไอออนบวกกับ ไอออนลบดังนี้ +5. ธาตุ Z และ M มีสมบัติทางเคมีคล้ายกัน แต่ธาตุ Z อยู่ในคาบที่มีค่าตัวเลขมากกว่าธาตุ M ",5. ธาตุ Z และ M มีสมบัติทางเคมีคล้ายกัน แต่ธาตุ Z อยู่ในคาบที่มีค่าตัวเลขมากกว่าธาตุ M ,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"13","สารประกอบไอออนิก A B C D และ E เกิดจากแรงยึดเหนี่ยวระหว่างไอออนบวกกับ ไอออนลบดังนี้ สารประกอบไอออนิก ไอออนบวก ไอออนลบ A Na^+ NO3- B Al^3+ S^2- @@ -131,16 +131,16 @@ W 27 14 2. B 3 : 2 3. C 2 : 1 4. D 4 : 1 -5. E 2 : 1",3. C 2 : 1,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""14""","สูตรโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ A B C และ D เป็นดังนี้ +5. E 2 : 1",3. C 2 : 1,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"14","สูตรโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ A B C และ D เป็นดังนี้ จากข้อมูลข้อใดระบุสมบัติความเป็นกรด เบสของสารได้ถูกต้อง"," กรด เบส 1. สาร C สาร A 2. สาร B สาร C 3. สาร D สาร B 4. สาร C สาร D -5. สาร A สาร D",2. สาร B สาร C,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""15""","ข้อมูลแสดงสมบัติและผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ 4ชนิด เป็นดังตาราง +5. สาร A สาร D",2. สาร B สาร C,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"15","ข้อมูลแสดงสมบัติและผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ 4ชนิด เป็นดังตาราง พอลิเมอร์ สมบัติ ผลิตภัณฑ์ A แข็งเหนียวทนความร้อน ขวดนําดื่มแบบใส B แข็งเปราะ นําหนักเบา ช้อนส้อมพลาสติก @@ -151,8 +151,8 @@ W 27 14 2. พอลิเมอร์ C และ D สามารถนำ มารีไซเคิลได้ 3. พอลิเมอร์ A มีจุดหลอมเหลวสูงกว่าพอลิเมอร์ D 4. พอลิเมอร์ B และ D เป็นพอลิเมอร์เทอร์มอพลาสติก -5. ตัวอย่างของพอลิเมอร์ D คือพอลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ",2. พอลิเมอร์ C และ D สามารถนำ มารีไซเคิลได้,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""16""","ธาตุ025กรัมท่าปฏิกิริยากับสารละลาย เข้มข้นร้อยละ040โดยมวลต่อปริมาตร +5. ตัวอย่างของพอลิเมอร์ D คือพอลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ",2. พอลิเมอร์ C และ D สามารถนำ มารีไซเคิลได้,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"16","ธาตุ025กรัมท่าปฏิกิริยากับสารละลาย เข้มข้นร้อยละ040โดยมวลต่อปริมาตร จำนวน10ลูกบาศก์เซนติเมตรที่อุณหภูมิ30 องศาเซลเซียสเกิดสารประกอบและธาตุ โดยมีสมการเคมีที่ดุลแล้วเป็นดังนี้ 2A(s) + 2B(aq) ---> 2C(aq) + D(g @@ -166,16 +166,16 @@ W 27 14 2. บดธาตุ เป็นผงละเอียด 3. เพิ่มปริมาตรสารละลาย B เป็น 20 ลูกบาศก์เซนติเมตร 4. ใช้สารละลาย B เข้มข้นร้อยละ 0.50 โดยมวลต่อปริมาตร -5. ใช้สารละลาย B เข้มข้นร้อยละ 0.50 โดยมวลต่อปริมาตร",1. บดธาตุ เป็นผงละเอียด,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""17""","สารกัมมันตรังสี X มวล 100 กรัม เกิดการสลาย ดังกราฟ +5. ใช้สารละลาย B เข้มข้นร้อยละ 0.50 โดยมวลต่อปริมาตร",1. บดธาตุ เป็นผงละเอียด,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"17","สารกัมมันตรังสี X มวล 100 กรัม เกิดการสลาย ดังกราฟ จากข้อมูล ถ้าเริ่มต้นมีสารกัมมันตรังสี X มวล 2000 กรัม และเมื่อเวลาผ่านไปพบว่า สารกัมมันตรังสี X สลายไป 1875กรัม สารกัมมันตรังสี X ใช้เวลาในการสลายกี่วัน","1. 10 วัน 2. 19 วัน 3. 40 วัน 4. 60 วัน -5. 80 วัน",3. 40 วัน,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""18""","วัตถุหนึ่ึ่งเคลื่อนที่เป็นแนวตรง ซึ่งกราฟที่แสดงความเร็วของวัตถุที่เวลาต่างๆ เป็นดังนี้ +5. 80 วัน",3. 40 วัน,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"18","วัตถุหนึ่ึ่งเคลื่อนที่เป็นแนวตรง ซึ่งกราฟที่แสดงความเร็วของวัตถุที่เวลาต่างๆ เป็นดังนี้ ข้อใดระบุเวลาที่วัตถุมีความเร่งเท่ากับศูนย์และระบุช่วงเวลาที่วัตถุมีความเร่งเฉลี่ย -2เมตรต่อวินาที^5 ได้ถูกต้อง"," เวลาที่ความเร่งมีค่าเท่ากับศูนย์ ช่วงเวลาที่มีความเร่งเฉลี่ย - 2 เมตรต่อวินาที^2 @@ -183,15 +183,15 @@ W 27 14 2. ณ เวลา 3 วินาที ณ ช่วงเวลา 4-6 วินาที 3. ณ เวลา 6 วินาที ณ ช่วงเวลา 4-6 วินาที 4. ณ เวลา 6 วินาที ณ ช่วงเวลา 6-7 วินาที -5. ณ เวลา 8 วินาที ณ ช่วงเวลา 6-7 วินาที",5. ณ เวลา 8 วินาที ณ ช่วงเวลา 6-7 วินาที,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""19""","วัตถุ A และ B วางซ้อนกันบนพ้น ดังภาพโดยวัตถุ B มีน้ำหนัก ฃเแ็น 2 เท่าของวัตถุ A +5. ณ เวลา 8 วินาที ณ ช่วงเวลา 6-7 วินาที",5. ณ เวลา 8 วินาที ณ ช่วงเวลา 6-7 วินาที,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"19","วัตถุ A และ B วางซ้อนกันบนพ้น ดังภาพโดยวัตถุ B มีน้ำหนัก ฃเแ็น 2 เท่าของวัตถุ A ข้อใดกล่าวถูกต้อง","1. แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุ A มีทิศทางขึ้น 2. แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุ B มีทิศทางขึ้น 3. แรงที่วัตถุ A กระทำต่อพื้นมีขนาดมากกว่าแรงที่วัตถุ A กระทำต่อวัตถุ B 4. แรงที่วัตถุ A กระทำต่อวัตถุ B มีทิศทางเดียวกับแรงที่วัตถุ A กระทำต่อพื้น -5. แรงที่วัตถุ A กระทำต่อวัตถุ B มีขนาดมากกว่าแรงที่วัตถุ B กระทำต่อวัตถุ A",3. แรงที่วัตถุ A กระทำต่อพื้นมีขนาดมากกว่าแรงที่วัตถุ A กระทำต่อวัตถุ B,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""20""","ครูวาดภาพจำลองโลกและด่วเทียม A และ B ที่โคจรรอบโลก โดยกำหนดให้ดาวเทียมทั้งสองมีมวลเท่ากัน และดาวเทียมแต่ละดวงเคลื่อนที่แบบวงกลมรอบโลกด้วยอีตราเร็วคงตัว +5. แรงที่วัตถุ A กระทำต่อวัตถุ B มีขนาดมากกว่าแรงที่วัตถุ B กระทำต่อวัตถุ A",3. แรงที่วัตถุ A กระทำต่อพื้นมีขนาดมากกว่าแรงที่วัตถุ A กระทำต่อวัตถุ B,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"20","ครูวาดภาพจำลองโลกและด่วเทียม A และ B ที่โคจรรอบโลก โดยกำหนดให้ดาวเทียมทั้งสองมีมวลเท่ากัน และดาวเทียมแต่ละดวงเคลื่อนที่แบบวงกลมรอบโลกด้วยอีตราเร็วคงตัว ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการโคจรของดาวเทียมในแผนภาพข้างต้น ซึ่งนักเรียน 3 คนกล่าวดังนี้ @@ -202,8 +202,8 @@ W 27 14 2. ไข่ เท่านั้น 3. คม เท่านั้น 4. ไก่และไข่เท่านั้น -5. ไข่และคมเท่านั้น",2. ไข่ เท่านั้น,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""21""","อิเล็กตรอนกำลังเคลื่อนที่เป็นแนวตรงจากจุด O ไปยังจุด A ตามแกน Y ดังภาพในมุมมองสามมิติ +5. ไข่และคมเท่านั้น",2. ไข่ เท่านั้น,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"21","อิเล็กตรอนกำลังเคลื่อนที่เป็นแนวตรงจากจุด O ไปยังจุด A ตามแกน Y ดังภาพในมุมมองสามมิติ จากภาพถ้าต้องการให้อิเล็กตรอนเบนเข้าหาผนังโดยใช้สนามแม่เหล็กสนามแม่เหล็ก @@ -212,8 +212,8 @@ W 27 14 3. ทิศพุ่งขึ้นตามแกน 4. ทิศพุ่งลงสวนทางกับแกน 5. ทิศพุ่งไปทางซ้ายสวนทางกับแกน","3. ทิศพุ่งขึ้นตามแกน -",FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""22""","ปฏิกิริยานิวเคลียร์หนึ่งเกิดโดยนิวเคลียสทั้งต้น2นิวเคลียสรวมตัวกันกลายเป็นนิวเคลียสของ +",FALSE,TRUE,TRUE +2020,"22","ปฏิกิริยานิวเคลียร์หนึ่งเกิดโดยนิวเคลียสทั้งต้น2นิวเคลียสรวมตัวกันกลายเป็นนิวเคลียสของ ฮีเลียม(42He) พร้อมกับปลดปล่อยโปรตอน(11H) จำนวน 2 อนุภาคและพลังงาน (0.001M)c^2 เมื่อ M คือ มวลรวมของนิวเคลียสหลังเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ c คืออัตราเร็วของแสงในสุญญากาศ @@ -223,8 +223,8 @@ W 27 14 2. 21H + 32He → 42He + 2(¦H) 1.001M 3. ²¦HHe + 32He → 42He + 2(¦H) 0.999M 4. ²¦HHe + 32He → 42He + 2(¦H) 1.001M -5. ²¦HHe + 32He → 42He + 2(¦H) 0.999M",4. ²¦HHe + 32He → 42He + 2(¦H) 1.001M,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""23""","ทดลองปรับชุดอุปกรณ์แผงเซลล์สุริยะดังภาพ +5. ²¦HHe + 32He → 42He + 2(¦H) 0.999M",4. ²¦HHe + 32He → 42He + 2(¦H) 1.001M,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"23","ทดลองปรับชุดอุปกรณ์แผงเซลล์สุริยะดังภาพ โดยปรับขนาดของมุมระหว่างกระจกเงากับพื้น 8 ให้มีค่าแตกต่างกันวัดความเข้มแสง ที่ตกกระทบบนแผงเซลล์สุริยะได้ผลดังตาราง @@ -244,8 +244,8 @@ W 27 14 2. ความสัมพันธ์แบบทิศทางตรงข้ามกัน ลด o ให้มีค่าระหว่าง 50 - 60 องศา 3. ความสัมพันธ์แบบทิศทางตรงข้ามกัน ไม่ต้องปรับมุม o อีก 4. ความสัมพันธ์แบบทิศทางตรงข้ามกัน เพิ่ม o ให้มีค่าระหว่าง 60 - 80 องศา -5. ความสัมพันธ์แบบทิศทางเดียวกัน เพิ่ม o ให้มีค่าระหว่าง 60 - 80 องศา",5. ความสัมพันธ์แบบทิศทางเดียวกัน เพิ่ม o ให้มีค่าระหว่าง 60 - 80 องศา,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""24""","คลื่นสองคลื่นเคลื่อนที่เข้าหากัน +5. ความสัมพันธ์แบบทิศทางเดียวกัน เพิ่ม o ให้มีค่าระหว่าง 60 - 80 องศา",5. ความสัมพันธ์แบบทิศทางเดียวกัน เพิ่ม o ให้มีค่าระหว่าง 60 - 80 องศา,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"24","คลื่นสองคลื่นเคลื่อนที่เข้าหากัน โดยแต่ละคลีนมีอัตราเร็ว010 เมตรต่อวินาที ซึ่งภาพแสดงคลื่นที่เกิดจากการรวมกัน ณเวลา13วินาทีเป็นดังนี้ @@ -254,8 +254,8 @@ W 27 14 2. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบเสริม 3. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบหักล้าง 4. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบหักล้าง -5. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบเสริม",4. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบหักล้าง,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""25""","กำหนดให้แสงสีมีความยาวคลื่นดังตาราง และการผสมแสงสีปฐมภูมิเป็นดังภาพ +5. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบเสริม",4. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบหักล้าง,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"25","กำหนดให้แสงสีมีความยาวคลื่นดังตาราง และการผสมแสงสีปฐมภูมิเป็นดังภาพ วัตถุชิ้นหนึ่งสามารถดูดกลืนแสงสีที่มีความยาวคลื่น400 550นาโนเมตร วัตถุดังกล่าวมีสาร ใด และถ้าคนตาปกติมองวัตถุชิ้นนี้ภายใต้แสงขาวเซลล์รูปกรวยชนิดที่มีความ ไวสูงสุดต่อแสงสีใด @@ -264,8 +264,8 @@ W 27 14 2. เหลือง แดงและ เขียว 3. นํ้าเงิน นํ้าเงิน 4. น้ำเงิน แดงและเขียว -5. แดง น้ำเงิน และเขียว",2. เหลือง แดง��ละ เขียว,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""26""","สายลับคนหนึ่งมีรีโมทที่สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ X ได้โดยใช้รังสีอินฟราเรด +5. แดง น้ำเงิน และเขียว",2. เหลือง แดงและ เขียว,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"26","สายลับคนหนึ่งมีรีโมทที่สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ X ได้โดยใช้รังสีอินฟราเรด ความถี่ค่าหนึ่ง แต่สายลับพบว่าอุปกรณ์ X ถูกเก็บอยู่ในกล่องแก้วบางที่ภายในกล่องเป็น สูญญากาศ จากสถานการณ์ พิจารณาข้อความต่อไปนี้ @@ -275,15 +275,15 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. B ไม่ถูกต้อง เพราะรีโมทไม่สามารถควบคุมอุปกรณ์ X ได้เนื่องจากเมื่อรังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่เข้าสู่สุญญากาศ ความถี่จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 3. B ไม่ถูกต้องเพราะรังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ภายในเนื้อแก้วได้เร็วกว่าในอากาศ 4. B ไม่ถูกต้องเพราะรังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ภายในเนื้อแก้วและในอากาศด้วยอัตราเร็วเท่ากัน -5. ไม่มี เพราะถูกต้องทั้ง A และ B ",5. ไม่มี เพราะถูกต้องทั้ง A และ B ,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""27""","กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่าความเร็วของกาแล็กซี A B C และ D ในการเคลื่อนที่ิออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือกกับระยะทางระหว่างกาแล็กซีทางเผือกดังภาพ +5. ไม่มี เพราะถูกต้องทั้ง A และ B ",5. ไม่มี เพราะถูกต้องทั้ง A และ B ,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"27","กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่าความเร็วของกาแล็กซี A B C และ D ในการเคลื่อนที่ิออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือกกับระยะทางระหว่างกาแล็กซีทางเผือกดังภาพ จากภาพ ข้อความใดไม่ถูกต้อง","1. กาแล็กซี A อยู่ห่างจากกาแล็กซีทางช้างเผือกน้อยกว่ากาแล็กซี่ B 2. เมื่อเวลาผ่านไปกาแล็กซี C จะอยู่ใกล้กาแล็กซี D มากขึ้น 3. เมื่อเวลาผ่านไปกาแล็กซี Cจะอยู่ห่างจากกาแล็กซีทางช้างเผือกมากกว่า 1.5 Mpe 4. เมื่อเวลาผ่านไป กาแล็กซี B จะมีความเร็วในการเคลื่อนที่ออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือกเพิ่มขึ้น -5. เมื่อเวลาผ่านไปกาแล็กซี A และ D จะมีความเร็วในการเคลื่อนที่ออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือกเพิ่มขึ้นแต่กาแล็กซี A ยังคงมีความเร็วน้อยกว่ากาแล็กซี D ",2. เมื่อเวลาผ่านไปกาแล็กซี C จะอยู่ใกล้กาแล็กซี D มากขึ้น,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""28""","ข้อมูลมวลของดาวฤกษ์ก่อนเกิด5ดวงเทียบกับมวลดวงอาทิตย์เป็นดังตาราง +5. เมื่อเวลาผ่านไปกาแล็กซี A และ D จะมีความเร็วในการเคลื่อนที่ออกจากก��แล็กซีทางช้างเผือกเพิ่มขึ้นแต่กาแล็กซี A ยังคงมีความเร็วน้อยกว่ากาแล็กซี D ",2. เมื่อเวลาผ่านไปกาแล็กซี C จะอยู่ใกล้กาแล็กซี D มากขึ้น,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"28","ข้อมูลมวลของดาวฤกษ์ก่อนเกิด5ดวงเทียบกับมวลดวงอาทิตย์เป็นดังตาราง ดาวฤกษ์ก่อนเกิด มวลของดาวฤกษ์ก่อนเกิดเทียบกับมวลดวงอาทิตย์ (เท่า) @@ -299,8 +299,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. B สั้นกว่า 3. C ยาวกว่า 4. D ใกล้เคียงกัน -5. E สั้นกว่า",5. E สั้นกว่า,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""29""","เมื่อไม่นานมานี้นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่นอกระบบสุริยะ ที่มีขนาดและ +5. E สั้นกว่า",5. E สั้นกว่า,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"29","เมื่อไม่นานมานี้นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่นอกระบบสุริยะ ที่มีขนาดและ ลักษณะคล้ายโลกมากที่สุดดาวเคราะห์ดวงนี้ชื่อว่า“Kepler-1649c ”เป็นดาวเคราะห์หินที่มี รัศมีเป็น 1.06 เท่าของโลกอยู่ห่างจากโลกประมาณ300ปีแสงโคจรรอบดาวฤกษ์นอกระบบสุริยะ มีวงโคจรใกล้กับดาวฤกษ์ดวงแม่และได้รับพลังงานจากดาวฤกษ์ดวงแม่ใกล้เคียงกับพลังงาน @@ -312,16 +312,16 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. เป็นดาวเคราะห์หินเช่นเดียวกับโลก 3. มีระยะห่างจากโลกประมาณ300ปีแสง 4. โคจรรอบดาวฤกษ์ศูนย์กลางเช่นเดียวกับโลก -5. ได้รับพลังงานจากดาวฤกษ์ดวงแม่ใกล้เคียงกับพลังงานที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์",5. ได้รับพลังงานจากดาวฤกษ์ดวงแม่ใกล้เคียงกับพลังงานที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""30""","ภาพแสดงแนวรอยต่อของแผ่นธรณีและทิศทางการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีต่าง ๆ บนโลก เป็นดังนี้ +5. ได้รับพลังงานจากดาวฤกษ์ดวงแม่ใกล้เคียงกับพลังงานที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์",5. ได้รับพลังงานจากดาวฤกษ์ดวงแม่ใกล้เคียงกับพลังงานที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"30","ภาพแสดงแนวรอยต่อของแผ่นธรณีและทิศทางการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีต่าง ๆ บนโลก เป็นดังนี้ จากภาพเหตุการณ์ใดต่อนี้ไม่มีโอกาศเกิดขึ้นจริง","1. พบแนวรอยเลื่อนขนาดใหญ่ที่บริเวณ 2. พบการปะทุ ของภูเขาไฟใต้ทะเลที่บริเวณ 3. เกิดพื้นมหาสมุทรใหม่ที่เป็นหินบะซอลต์ขึ้นที่บริเวณ 4. เกิดธรณี สัณฐาน ที่เป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ รูปโค้งขึ้นที่บริเวณ -5. ตรวจสอบพบว่าการเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้ง มีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวที่บริเวณ ",4. เกิดธรณี สัณฐาน ที่เป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ รูปโค้งขึ้นที่บริเวณ ,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""31""","คลื่นสึนามิที่สร้างความเสียหายต่อพื้นที่คาบสมุทรแห่งหนึ่งเกิดภายหลังการเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล +5. ตรวจสอบพบว่าการเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้ง มีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวที่บริเวณ ",4. เกิดธรณี สัณฐาน ที่เป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ รูปโค้งขึ้นที่บริเวณ ,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"31","คลื่นสึนามิที่สร้างความเสียหายต่อพื้นที่คาบสมุทรแห่งหนึ่งเกิดภายหลังการเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล บริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณีมหาสุมทร ดังภาพโดยเป็นตำแหน่งศูนย์เกิดแผ่นดินไหว และเป็นตำแหน่งพื้นที่ชายฝั่งน้ำ ตื้นแห่งหนึ่งของคาบสมุทร @@ -335,15 +335,15 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 3. 3 ชั่วโมง 30 นาที เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น 4. 4 ชั่วโมง เพิ่มขึ้น ลดลง 5. 3 ชั่วโมง 30 นาที ลดลง เพิ่มขึ้น","หลังจากประกาศแจ้งเตือนภัย ความยาวคลื่น ความเร็วคลื่น -1. 3 ชั่วโมง30นาที ลดลง ลดลง",FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""32""",ตำแหน่งของเมือง A B C D และ E บริเวณชายฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิก และทิศทางการหมุนเวียนของน้ำผิวหน้ามหาสมุทรของโลก ,"จากภาพ ข้อใดอธิบายเกี่ยวกับกระแสน้ำ ผิวหน้าในมหาสมุทร และอิทธิพลของกระแสน้ำ ผิวหน้า +1. 3 ชั่วโมง30นาที ลดลง ลดลง",FALSE,TRUE,TRUE +2020,"32",ตำแหน่งของเมือง A B C D และ E บริเวณชายฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิก และทิศทางการหมุนเวียนของน้ำผิวหน้ามหาสมุทรของโลก ,"จากภาพ ข้อใดอธิบายเกี่ยวกับกระแสน้ำ ผิวหน้าในมหาสมุทร และอิทธิพลของกระแสน้ำ ผิวหน้า ในมหาสมุทรที่ส่งผลต่อภูมิอากาศไม่ถูกต้อง 1. ในสภาวะปกติ เมือง C แห้งแล้งกว่าเมือง B 2. เมือง D มีอุณหภูมิอากาศเฉลี่ยสูงกว่าเมือง E 3. เมือง E มีปริมาณ น้ำฝนเฉลี่ยน้อยกว่าเมือง D 4. กระแสน���ำ X เป็นกระแสน้ำ อุ่น เช่นเดียวกับกระแสน้ำ Y -5. เมือง A ได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำ เย็นเช่นเดียวกับเมือง E",4. กระแสน้ำ X เป็นกระแสน้ำ อุ่น เช่นเดียวกับกระแสน้ำ Y,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""33""","จากการศึกษาแผนที่อากาศผิวพื้นของพื้นที่ในซีกโลกเหนือ 3 บริเวณ ของเช้าวันหนึ่งปรากฎสัญลักษณ์แสดงสภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้างบนแผนที่อากาศผิวพื้น ดังนี้ +5. เมือง A ได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำ เย็นเช่นเดียวกับเมือง E",4. กระแสน้ำ X เป็นกระแสน้ำ อุ่น เช่นเดียวกับกระแสน้ำ Y,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"33","จากการศึกษาแผนที่อากาศผิวพื้นของพื้นที่ในซีกโลกเหนือ 3 บริเวณ ของเช้าวันหนึ่งปรากฎสัญลักษณ์แสดงสภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้างบนแผนที่อากาศผิวพื้น ดังนี้ @@ -353,8 +353,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. เตรียมอุปกรณ์กันหนาว เตรียมอุปกรณ์กันหนาว เตรียมรับมือกับแผ่นดินถล่ม 3. เตรียมอุปกรณ์กันหนาว เตรียมรับมือกับอุทกภัย หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง 4. เตรียมอุปกรณ์กันฝน เตรียมอุปกรณ์กันหนาว หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเรือ -5. เตรียมรับมือกับอุทกภัย เตรียมอุปกรณ์กันหนาว เตรียมอุปกรณ์กันหนาว ",4. เตรียมอุปกรณ์กันฝน เตรียมอุปกรณ์กันหนาว หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเรือ,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""34""","การแก้ปัญหาดินเปรี้ยวโดยวิธีการแกล้งดินเริ่มจากการใส่น้ำ และปล่อยน้ำ ออกสลับกันไปมา +5. เตรียมรับมือกับอุทกภัย เตรียมอุปกรณ์กันหนาว เตรียมอุปกรณ์กันหนาว ",4. เตรียมอุปกรณ์กันฝน เตรียมอุปกรณ์กันหนาว หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเรือ,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"34","การแก้ปัญหาดินเปรี้ยวโดยวิธีการแกล้งดินเริ่มจากการใส่น้ำ และปล่อยน้ำ ออกสลับกันไปมา ทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไปเพื่อทำให้ดินเป็นกรดมากที่สุดจนพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ จากนั้นจึงปรับปรุงดินดังกล่าวโดยใส่ปูนขาวที่มีสภาพเป็นเบสผสมคลุกเคล้ากับหน้าดิน จนดินมีสภาพเป็นกลาง ก็จะทำให้สามารถปลูกพืชได้ @@ -366,8 +366,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. การปรับดินให้มีความเป็นกรด 3. การทําให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไป 4. การใส่ปูนขาวเพื่อทำให้ดินมีสภาพเป็นกลาง -5. การปรับดินให้มีความเป็นกรดมากที่สุดแล้วปรับส���าพให้เป็นกลาง",5. การปรับดินให้มีความเป็นกรดมากที่สุดแล้วปรับสภาพให้เป็นกลาง,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""35""","ในช่วงฤดูฝนของประเทศไทยพบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกโดยมียุงลายเป็นพาหะ +5. การปรับดินให้มีความเป็นกรดมากที่สุดแล้วปรับสภาพให้เป็นกลาง",5. การปรับดินให้มีความเป็นกรดมากที่สุดแล้วปรับสภาพให้เป็นกลาง,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"35","ในช่วงฤดูฝนของประเทศไทยพบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกโดยมียุงลายเป็นพาหะ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจึงแนะนำ ให้ประชาชนปิดครอบหรือทำลายภาชนะที่มี น้ำขังซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง นักเรียนกลุ่มหนึ่งมีแนวคิดในการสร้างเครื่องดักยุง จึงได้รวบรวมข้อมูลวางแผนและ @@ -378,8 +378,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับยุงแหล่งเพาะพันธุ์และเครื่องดักยุงในท้องตลาด 3. ร่างภาพเครื่องดักยุงจากข้อมูลที่สืบค้นและรวบรวมได้จากอินเทอร์เน็ต 4. วางเครื่องดักยุงไว้ข้างบ้านในช่วงกลางวันและช่วงเย็นและนับจำนวนยุงที่ดักได้ -5. ตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูฝนที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก",4. วางเครื่องดักยุงไว้ข้างบ้านในช่วงกลางวันและช่วงเย็นและนับจำนวนยุงที่ดักได้,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""36"""," บริษัทผู้ให้บริการส่งอาหารมีหลักเกณฑ์การคิดค่าบริการตามระยะทางจากร้านอาหารไปยัง +5. ตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูฝนที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก",4. วางเครื่องดักยุงไว้ข้างบ้านในช่วงกลางวันและช่วงเย็นและนับจำนวนยุงที่ดักได้,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"36"," บริษัทผู้ให้บริการส่งอาหารมีหลักเกณฑ์การคิดค่าบริการตามระยะทางจากร้านอาหารไปยัง ที่อยู่ของลูกค้าดังนี้ ถ้าระยะทางไม่เกิน 6 กิโลเมตร คิดค่าส่ง 10 บาทแต่ถ้าระยะทางเกิน6กิโลเมตรจะคิดค่าส่ง @@ -397,8 +397,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 4. ความเร็วในการให้บริการส่งอาหาร ค่าบริการส่งอาหาร ระยะทางน้อยกว่าหรือเท่ากับ 6 กิโลเมตร -5. ค่าบริการส่งอาหาร ระยะทางจากร้านอาหารถึงที่อยู่ของลูกค้า ไม่มี",3. ระยะทางจากร้านอาหารถึงที่อยู่ของลูกค้า ค่าบริการส่งอาหาร ระยะทางน้อยกว่าหรือเท่ากับ6กิโลเมตร,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""37""","นักเรียน��ลุ่มหนึ่งต้องการวิเคราะห์ข้อมูลจากปริมาณ ฝุ่นละออง PM 10และ PM 2.5 ในจังหวัดทางภาคเหนือตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 โดยสมาชิกในกลุ่มแต่ละคนแยกกันหาข้อมูล +5. ค่าบริการส่งอาหาร ระยะทางจากร้านอาหารถึงที่อยู่ของลูกค้า ไม่มี",3. ระยะทางจากร้านอาหารถึงที่อยู่ของลูกค้า ค่าบริการส่งอาหาร ระยะทางน้อยกว่าหรือเท่ากับ6กิโลเมตร,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"37","นักเรียนกลุ่มหนึ่งต้องการวิเคราะห์ข้อมูลจากปริมาณ ฝุ่นละออง PM 10และ PM 2.5 ในจังหวัดทางภาคเหนือตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 โดยสมาชิกในกลุ่มแต่ละคนแยกกันหาข้อมูล สมาชิกในกลุ่มคนใดต่อไปนี้เลือกข้อมูลที่จะนำ มาวิเคราะห์ได้เหมาะสมที่สุด","1. กาสะลองเลือกใช้ข้อมูลปริมาณ ฝุ่นละอองขนาดเล็กจากเว็บไซต์ขายหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 ที่ไม่ได้มีการอ้างอิงแหล่งข้อมูล 2. เดซี่ดาวน์โหลดข้อมูลสภาพอากาศในภาคเหนือย้อนหลัง 5 ปีจากกรมอุตุนิยมวิทยาที่มีข้อมูลอุณหภูมิความกดอากาศความชื้นสัมพัทธ์ความเร็วลมและปริมาณน้ำ ฝน 3. ชวนชมดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลคุณภาพอากาศประเทศไทย PM 10 รายชั่วโมง พ.ศ.2557 @@ -411,24 +411,24 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ สถานการณ์และคุณภาพอากาศประเทศไทยของกรมควบคุมมลพิษที่มีรายงานคุณภาพ อากาศทั่วประเทศและสามารถดูข้อมูลแบบเรียลไทม์และย้อนหลังได้ถึงปีพศ 2557","5. ดาหลาเลือกใช้ข้อมูลปริมาณฝุ่นละอองPM10และ PM2.5จากเว็บไซต์รายงาน สถานการณ์และคุณภาพอากาศประเทศไทยของกรมควบคุมมลพิษที่มีรายงานคุณภาพ -อากาศทั่วประเทศและสามารถดูข้อมูลแบบเรียลไทม์และย้อนหลังได้ถึงปีพศ 2557",TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""38""",บุคคลใดนำเสนอและแบ่งปันข้อมูลออนไลน์ได้อย่างเหมาะสมที่สุด,"1. โต๊ะเขียนบล็อกเรื่องกิจกรรมที่ทำ ในช่วงกักตัวที่โรงแรม14 วัน หลังจากกลับจากต่างประเทศ +อากาศทั่วประเทศและสามารถดูข้อมูลแบบเรียลไทม์และย้อนหลังได้ถึงปีพศ 2557",TRUE,TRUE,TRUE +2020,"38",บุคคลใดนำเสนอและแบ่งปันข้อมูลออนไลน์ได้อย่างเหมาะสมที่สุด,"1. โต๊ะเขียนบล็อกเรื่องกิจกรรมที่ทำ ในช่วงกักตัวที่โรงแรม14 วัน หลังจากกลับจากต่างประเทศ 2. นำคำคมที่คิดขึ้นเองมาใส่ในรูปภาพนักร้องที่ตนเองชอบแล้วโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ 3. วานำ ข้อมูลสถิติภาค รัฐมาทำเป็นอินโฟกราฟฟิกและนําเสนอในบ���็อกโดยไม่มีการอ้างอิง ที่มาของข้อมูล 4. อาร์อัปโหลดวิดีโอจากกล้องหน้ารถของตนเองที่บันทึกภาพอุบัติเหตุลงสื่อสังคมออนไลน์ โดยไม่ได้เบลอภาพเลขทะเบียนรถและผู้บาดเจ็บ 5. เพิร์ลโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับชื่อและสถานที่ทำงานของผู้ป่วย COVID-19 -ที่ติดเชื้อรายล่าสุดในจังหวัดของตนเองเพื่อให้คนที่เกี่ยวข้องทำการกักตัว",1. โต๊ะเขียนบล็อกเรื่องกิจกรรมที่ทำ ในช่วงกักตัวที่โรงแรม14 วัน หลังจากกลับจากต่างประเทศ,TRUE,TRUE,TRUE -2020,"""39.1""","เมื่อเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย ร่างกาย จะสร้างแอนติบอดี 2ช นิดโดยชนิดที่ 1 ร่างกายจะ +ที่ติดเชื้อรายล่าสุดในจังหวัดของตนเองเพื่อให้คนที่เกี่ยวข้องทำการกักตัว",1. โต๊ะเขียนบล็อกเรื่องกิจกรรมที่ทำ ในช่วงกักตัวที่โรงแรม14 วัน หลังจากกลับจากต่างประเทศ,TRUE,TRUE,TRUE +2020,"39","เมื่อเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย ร่างกาย จะสร้างแอนติบอดี 2ช นิดโดยชนิดที่ 1 ร่างกายจะ สร้างขึ้นในช่วงแรกของการติดเชื้อ ส่วนชนิดที่ 2 ร่างกายจะสร้างขึ้นในช่วงท้ายของการติดเชื้อ และจะคงอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่ง กราฟจำลองระดับของแอนติเจนและแอนติบอดีในร่างกายของผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ตั้งแต่ร่างกายเริ่มได้รับเชื้อจนหายเป็นปกติ เป้นดังนี้ จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ การสร้างแอนติบอดีทั้ง 2 ชนิด เป็นกลไกการทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จำเพาะของร่างกาย","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""39.2""","เมื่อเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย ร่างกาย จะสร้างแอนติบอดี 2ช นิดโดยชนิดที่ 1 ร่างกายจะ +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"39","เมื่อเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย ร่างกาย จะสร้างแอนติบอดี 2ช นิดโดยชนิดที่ 1 ร่างกายจะ สร้างขึ้นในช่วงแรกของการติดเชื้อ ส่วนชนิดที่ 2 ร่างกายจะสร้างขึ้นในช่วงท้ายของการติดเชื้อ และจะคงอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่ง กราฟจำลองระดับของแอนติเจนและแอนติบอดีในร่างกายของผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ตั้งแต่ร่างกายเริ่มได้รับเชื้อจนหายเป็นปกติ เป้นดังนี้ @@ -436,36 +436,36 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ หลังจากวันที่ 14 ปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกายจะเริ่มลดลง","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""39.3""","เมื่อเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย ร่างกาย จะสร้างแอนติบอดี 2ช นิดโดยชนิดที่ 1 ร่างกายจะ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"39","เมื่อเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย ร่างกาย จะสร้างแอนติบอดี 2ช นิดโดยชนิดที่ 1 ร่างกายจะ สร้างขึ้นในช่วงแรกของการติดเชื้อ ส่วนชนิดที่ 2 ร่างกายจะสร้างขึ้นในช่วงท้ายของการติดเชื้อ และจะคงอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่ง กราฟจำลองระดับของแอนติเจนและแอนติบอดีในร่างกายของผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ตั้งแต่ร่างกายเริ่มได้รับเชื้อจนหายเป็นปกติ เป้นดังนี้ จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""40.1""","สารประกอบอินทรีย์ 3 ชนิดมีมวลของโลเลกุลเท่ากัน และมีสูตรโครงสร้าง ดังนี้ +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"40","สารประกอบอินทรีย์ 3 ชนิดมีมวลของโลเลกุลเท่ากัน และมีสูตรโครงสร้าง ดังนี้ จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับสารประกอบอินทรีย์ต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ สาร X มีจุดเดือดสุงกว่าสาร Y และสาร Z ","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""40.2""","สารประกอบอินทรีย์ 3 ชนิดมีมวลของโลเลกุลเท่ากัน และมีสูตรโครงสร้าง ดังนี้ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"40","สารประกอบอินทรีย์ 3 ชนิดมีมวลของโลเลกุลเท่ากัน และมีสูตรโครงสร้าง ดังนี้ จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับสารประกอบอินทรีย์ต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ สาร X สามารถละลายน้ำได้เพราะสร้างพันธะไฮโดรเจนกับน้ำซึ่งเป้นแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโลเลกุล","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""40.3""","สารประกอบอินทรีย์ 3 ชนิดมีมวลของโลเลกุลเท่ากัน และมีสูตรโครงสร้าง ดังนี้ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"40","สารประกอบอินทรีย์ 3 ชนิดมีมวลของโลเลกุลเท่ากัน และมีสูตรโครงสร้าง ดังนี้ จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับสารประกอบอินทรีย์ต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ สาร Y และสาร Z มีจำนวนคู่อิเล็กตรอนที่ใช้ร่วมกันในการสร้างพันธะโคเวเลนต์ทั้งหมดภายในโมเลกุลไม่เท่ากัน","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""41.1""","ติณ ทําการทดลองเพื่อทดสอบการได้ยินของตนเองโดยตั้งค่าให้แหล่งกำเนิดเสียงมีระดับเสียง +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"41","ติณ ทําการทดลองเพื่อทดสอบการได้ยินของตนเองโดยตั้งค่าให้แหล่งกำเนิดเสียงมีระดับเสียง คงตัวที่ 20 เดซิเบ�� และค่อย ๆปรับลดความถี่ของเสียงจาก 2000 เฮิรตซ์ จนถึง 20 เฮิรตซ์ กำหนดให้ ความสัมพันธ์ระหว่างระดับเสียงกับความถี่ที่ติณ ได้ยิน แสดงดังภาพ จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถุกต้องใช่หรือไม่ ในการทดลองนี้ถ้าให้ระดับเสียงคงตัวที่20เดซิเบลเมื่อเริ่มต้นทดลอง ติณ จะไม่ได้ยินเสียงแต่เมื่อปรับความถี่ให้ต่ำ ลงเรื่อยๆติณ จะเริ่มได้ยินเสียง","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""41.2""","ติณ ทําการทดลองเพื่อทดสอบการได้ยินของตนเองโดยตั้งค่าให้แหล่งกำเนิดเสียงมีระดับเสียง +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"41","ติณ ทําการทดลองเพื่อทดสอบการได้ยินของตนเองโดยตั้งค่าให้แหล่งกำเนิดเสียงมีระดับเสียง คงตัวที่ 20 เดซิเบล และค่อย ๆปรับลดความถี่ของเสียงจาก 2000 เฮิรตซ์ จนถึง 20 เฮิรตซ์ กำหนดให้ ความสัมพันธ์ระหว่างระดับเสียงกับความถี่ที่ติณ ได้ยิน แสดงดังภาพ จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถุกต้องใช่หรือไม่ @@ -473,35 +473,35 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ ในการทดลองนี้ที่ช่วงความถี่20 40เฮิรตซ์คุณจะได้ยินเสียง ถ้าหลังจากทดลองเสร็จแล้วติณบังเอิญกดปุ่มปรับแหล่งกำเนิดเสียง ","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""41.3""","ติณ ทําการทดลองเพื่อทดสอบการได้ยินของตนเองโดยตั้งค่าให้แหล่งกำเนิดเสียงมีระดับเสียง +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"41","ติณ ทําการทดลองเพื่อทดสอบการได้ยินของตนเองโดยตั้งค่าให้แหล่งกำเนิดเสียงมีระดับเสียง คงตัวที่ 20 เดซิเบล และค่อย ๆปรับลดความถี่ของเสียงจาก 2000 เฮิรตซ์ จนถึง 20 เฮิรตซ์ กำหนดให้ ความสัมพันธ์ระหว่างระดับเสียงกับความถี่ที่ติณ ได้ยิน แสดงดังภาพ จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถุกต้องใช่หรือไม่ ผิดพลาดทําให้เกิดเสียงความถี่ 100เฮิรตซ์ ระดับเสียง 120เดซิเบลซึ่งเมื่อติณได้ยินเสียงนี้จะเจ็บปวดที่หูในทันที4","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""42.1""","ภาพแสดงตำแหน่งของเมือง X Y และ Z ที่ตั้งอยู่ ณ ละติจูดต่าง ๆ ของซีกโลกเหลือ เป็นดังนี้ +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"42","ภาพแสดงตำแหน่งของเมือง X Y และ Z ที่ตั้งอยู่ ณ ละติจูดต่าง ๆ ของซีกโลกเหลือ เป็นดังนี้ จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ ถ้าเมือง Y อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง X การบินของนกอพยพ จากเมือง X ไปยังเมือง Y และบินกลับโดยใช้เส้นทางเดียวกันและ บินด้วยอัตราเร็วเฉลี่ยเท่ากัน การเดินทางเที่ยวไปจะใช้ระยะเวลา มากกว่าเที่ยวกลับ","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""42.2""","ภาพแสดงตำแหน่งของเมือง X Y และ Z ที่ตั้งอยู่ ณ ละติจูดต่าง ๆ ของซีกโลกเหลือ เป็นดังนี้ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"42","ภาพแสดงตำแหน่งของเมือง X Y และ Z ที่ตั้งอยู่ ณ ละติจูดต่าง ๆ ของซีกโลกเหลือ เป็นดังนี้ จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ เมือง Z จะมีโอกาสพบเมฆคิวมูลัสเมฆคิวมูโลนิมบัสและเกิด ฝนฟ้าคะนองได้มากกว่าเมือง Y","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2020,"""42.3""","ภาพแสดงตำแหน่งของเมือง X Y และ Z ที่ตั้งอยู่ ณ ละติจูดต่าง ๆ ของซีกโลกเหลือ เป็นดังนี้ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,"42","ภาพแสดงตำแหน่งของเมือง X Y และ Z ที่ตั้งอยู่ ณ ละติจูดต่าง ๆ ของซีกโลกเหลือ เป็นดังนี้ จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ เมือง X ตั้งอยู่ บริเวณความกดอากาศต่ำ และได้รับอิทธิพลจาก ลมตะวันออกเช่นเดียวกับเมือง Z ","1.ใช่ -2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""1""","ภาพแสดงการลำเลียงสารผ่านเซลล์รูปแบบหนึ่งโดยลูกศรแสดงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"1","ภาพแสดงการลำเลียงสารผ่านเซลล์รูปแบบหนึ่งโดยลูกศรแสดงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้ ภาพนี้เป็นกระบวนการลำเลียงสารแบบใดและข้อใดระบุตัวอย่างของการลำเลียงสาร ด้วยกระบวนการนี้ได้ถูกต้อง"," กระบวนการลำเลียงสาร ตัวอย่างการลำเลียงสาร @@ -509,9 +509,9 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. เอกโซไซโทซิส การหลั่งเอนไซม์จากเซลล์ของผนังลำไส้เล็กเพื่อย่อยอาหาร 3. เอนโดไซโทซิส การแลกเปลี่ยนแก๊สบริเวณถุงลมปอด 4. เอนโดไซโทซิส การจับกินเพื่อทำลายแบคทีเรียของเซลล์เม็ดเลือดขาว -5. เอนโดไซโทซิส. การดูดซึมแร่ธาตุในดินเข้าสู่เซลล์รากพืชผ่านโปรตีนตัวพา",2. เอกโซไซโทซิส การหลั่งเอนไซม์จากเซลล์ของผนังลำไส้เล็กเพื่อย่อยอาหาร,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""2""",ศึกษาอัตราการคายน้ำ ของพืชชนิดหนึ่งที่มีขนาดอายุและได้รับปริมาณแสงเท่ากันโดยนำพืช ใส่ในกระบอกตวงที่มีน้ำ 50มิลลิลิตรและมีน้ำมัน5มิลลิลิตรเททับอยู่จำนวน3ชุดการทดลอง จากนั้นนำ ชุดการทดลองแต่ละชุดมาทำการทด��องและ ตามลำดับดังนี้ การทดลอง นำแต่ละชุดการทดลองไปวางไว้ในบริเวณที่มีความชื้นสัมพัทธ์ต่างกัน โดยปัจจัยอื่นๆเหมือนกันเป็นเวลา3ชั่วโมงบันทึกปริมาตรน้ำ ที่เหลือ ในกระบอกตวง การทดลอง ทำการทดลองซ้ำ โดยนำ ชุดการทดลองไปวางในบริเวณ ที่มีความชื้นสัมพัทธ์ เหมือนกับการทดลองแต่ปรับอุณหภูมิในทุกชุดการทดลองให้สูงขึ้น บันทึกปริมาตรน้าที่เหลือในกระบอกตวง,1 ชุดการทดลองที่1มีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ กว่าชุดการทดลองที่2 2 ชุดการทดลองที่ 1 มีความชื้นสัมพัทธ์สูงกว่าชุดการทดลองที่3 3 ชุดการทดลองที่3มีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ กว่าชุดการทดลองที่2 4 เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการคายน้ำของพืชในการทดลอง มากกว่าการทดลอง 5 เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการคายน้ำ ของพืชในการทดลองน้อยกว่าการทดลอง,4 เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการคายน้ำของพืชในการทดลอง มากกว่าการทดลอง,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""3""","ชายสุขภาพดีคนหนึ่ง ทำกิจกรรมและอยู่ในสภาวะที่แตกต่างกัน ดังนี้ +5. เอนโดไซโทซิส. การดูดซึมแร่ธาตุในดินเข้าสู่เซลล์รากพืชผ่านโปรตีนตัวพา",2. เอกโซไซโทซิส การหลั่งเอนไซม์จากเซลล์ของผนังลำไส้เล็กเพื่อย่อยอาหาร,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"2",ศึกษาอัตราการคายน้ำ ของพืชชนิดหนึ่งที่มีขนาดอายุและได้รับปริมาณแสงเท่ากันโดยนำพืช ใส่ในกระบอกตวงที่มีน้ำ 50มิลลิลิตรและมีน้ำมัน5มิลลิลิตรเททับอยู่จำนวน3ชุดการทดลอง จากนั้นนำ ชุดการทดลองแต่ละชุดมาทำการทดลองและ ตามลำดับดังนี้ การทดลอง นำแต่ละชุดการทดลองไปวางไว้ในบริเวณที่มีความชื้นสัมพัทธ์ต่างกัน โดยปัจจัยอื่นๆเหมือนกันเป็นเวลา3ชั่วโมงบันทึกปริมาตรน้ำ ที่เหลือ ในกระบอกตวง การทดลอง ทำการทดลองซ้ำ โดยนำ ชุดการทดลองไปวางในบริเวณ ที่มีความชื้นสัมพัทธ์ เหมือนกับการทดลองแต่ปรับอุณหภูมิในทุกชุดการทดลองให้สูงขึ้น บันทึกปริมาตรน้าที่เหลือในกระบอกตวง,1 ชุดการทดลองที่1มีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ กว่าชุดการทดลองที่2 2 ชุดการทดลองที่ 1 มีความชื้นสัมพัทธ์สูงกว่าชุดการทดลองที่3 3 ชุดการทดลองที่3มีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ กว่าชุดการทดลองที่2 4 เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการคายน้ำของพืชในการทดลอง มากกว่าการทดลอง 5 เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการคายน้ำ ของพืชในการทดล��งน้อยกว่าการทดลอง,4 เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการคายน้ำของพืชในการทดลอง มากกว่าการทดลอง,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"3","ชายสุขภาพดีคนหนึ่ง ทำกิจกรรมและอยู่ในสภาวะที่แตกต่างกัน ดังนี้ สภาวะ A นั่งทำงาน 2 ชั่วโมง ในห้องที่มีอุณหภูมิ 24 องศาเซลเซียส โดยมีการดื่มน้ำ สภาวะ B เล่นกีฬากลางแจ้ง 2 ชั่วโมง ในบริเวณที่มีอุณหภูมิ 29 องศาเซลเซียสโดยไม่มีการดื่มน้ำ @@ -523,24 +523,24 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ ดูดน้ำกลับ 5. สภาวะ B ทำให้เลือดเจือจาง ต่อมใต้สมองส่วนหลังถูกกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกาย ดูดนํากลับ","4. สภาวะ B ทำให้เลือดเข้มข้น ต่อมใต้สมองส่วนหลังถูกกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกาย -ดูดน้ำกลับ",TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""4""","กราฟแสดงระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายเมื่อได้รับวัคซีนครั้งที่ 1 และ 2 เป็นดังนี้ +ดูดน้ำกลับ",TRUE,TRUE,TRUE +2019,"4","กราฟแสดงระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายเมื่อได้รับวัคซีนครั้งที่ 1 และ 2 เป็นดังนี้ จากข้อมูลเพราะเหตุใดการฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 จึงสามารถกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันของร่างกาย ได้สูงขึ้น","1. เซลล์ทีสร้างแอนติบอดีทีจําเพาะกับแอนติเจนได้มากขึ้น 2. เซลล์บี แอนติเจนแล้วส่งสัญญาณไปกระตุ้นเซลล์ทีได้ทันที 3. เซลล์ที่จำ แอนติเจนแล้วส่งสัญญาณ ไปกระตุ้นเซลล์บีได้ทันที 4. ฟาโกไซต์สามารถทําลายแอนติบอดีได้มากขึ้น -5. ฟาโกไซต์สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์พลาสมาได้เร็วขึ้น",3. เซลล์ที่จำ แอนติเจนแล้วส่งสัญญาณ ไปกระตุ้นเซลล์บีได้ทันที,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""5""","การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังด้วยวิธีสะกิด SkinPrickTest ทำได้โดยการหยดน้ำยาสกัด +5. ฟาโกไซต์สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์พลาสมาได้เร็วขึ้น",3. เซลล์ที่จำ แอนติเจนแล้วส่งสัญญาณ ไปกระตุ้นเซลล์บีได้ทันที,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"5","การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังด้วยวิธีสะกิด SkinPrickTest ทำได้โดยการหยดน้ำยาสกัด ถ้าผู้ป่วยแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดใดสารภูมิแพ้ลงบนผิวหนังและใช้เข็มสะกิดผิวหนังบริเวณนั้น จะเกิดรอยนูนมีผื่นแดงและอาจรู้สึกคันในบริเวณที่หยดน้ำยาสกัดสารภูมิแพ้ชนิดนั้นไว้ ในการทดสอบข้างต้นกลไกใดของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำให้ผิวหนังเกิดรอยนูนและมีผื่นแดง","1. การจดจำ สารก่อภูมิแพ้ของเซลล์บี 2. การทำลายสารก่อภูมิแพ้ของแอนติเจน 3. การแบ่งตัวขอ��เซลล์ทีเพื่อพัฒนาเป็นเซลล์พลาสมา 4. การส่งสัญญาณของเซลล์ทีเพื่อกระตุ้นแอนติฮิสตามิน -5. การหลั่งสารฮิสตามินของเซลล์โดยการกระตุ้นของแอนติบอดี",5. การหลั่งสารฮิสตามินของเซลล์โดยการกระตุ้นของแอนติบอดี,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""6""","การถ่ายทอดทางพันธุกรรมของโรคกล้ามเนื้อลีบซึ่งควบคุมด้วยยีนด้อยบนโครโมโซม +5. การหลั่งสารฮิสตามินของเซลล์โดยการกระตุ้นของแอนติบอดี",5. การหลั่งสารฮิสตามินของเซลล์โดยการกระตุ้นของแอนติบอดี,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"6","การถ่ายทอดทางพันธุกรรมของโรคกล้ามเนื้อลีบซึ่งควบคุมด้วยยีนด้อยบนโครโมโซม ของครอบครัวหนึ่งเป็นดังนี้ กำหนดให้ (บุคคลที่ 3 ในรุ่นที่ 2) คือผู้หญิงที่ไม่มีอาการของโรคแต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า @@ -551,13 +551,13 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. ถ้าไม่เป็นพาหะของโรคลูกสาวทุกคนไม่มีโอกาสเป็นโรค 3. ถ้าเป็นพาหะของโรคลูกชายแต่ละคนมีโอกาสร้อยละ50ที่จะเป็นโรค 4. ถ้าเป็นพาหะของโรคลูกสาวแต่ละคนมีโอกาสร้อยละ50ที่จะเป็นโรค -5. ถ้าเป็นพาหะของโรคลูกสาวแต่ละคนมีโอกาสร้อยละ50ที่จะเป็นพาหะของโรค",4. ถ้าเป็นพาหะของโรคลูกสาวแต่ละคนมีโอกาสร้อยละ50ที่จะเป็นโรค,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""7""",การใช้เทคโนโลยีชีวภาพในข้อใดที่ทําให้ได้ลูกรุ่นใหม่มีลักษณะเหมือนเดิมทุกประการ,"1. การผสมพันธุ์โคเนื้อให้มีลักษณะใหม่ตามที่ต้องการ +5. ถ้าเป็นพาหะของโรคลูกสาวแต่ละคนมีโอกาสร้อยละ50ที่จะเป็นพาหะของโรค",4. ถ้าเป็นพาหะของโรคลูกสาวแต่ละคนมีโอกาสร้อยละ50ที่จะเป็นโรค,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"7",การใช้เทคโนโลยีชีวภาพในข้อใดที่ทําให้ได้ลูกรุ่นใหม่มีลักษณะเหมือนเดิมทุกประการ,"1. การผสมพันธุ์โคเนื้อให้มีลักษณะใหม่ตามที่ต้องการ 2. การปรับปรุงพันธุ์ข้าวหอมมะลิโดยการใช้รังสีแกมมา 3. การคัดเลือกพันธุ์ปลาทับทิมจากการผสมข้ามสายพันธุ์ 4. การตัดต่อยืนของข้าวโพดให้มีความต้านทานต่อเชื้อรา -5. การโคลนลูกวัวนมโดยใช้เซลล์เต้านมจากแม่วัวนมต้นแบบ",5. การโคลนลูกวัวนมโดยใช้เซลล์เต้านมจากแม่วัวนมต้นแบบ,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""8""","แมลงสาบเป็นพาหะที่ก่อให้เกิดโรคหลายชนิดในมนุษย์เช่น วัณโรคอหิวาตกโรคและโรคภูมิแพ้ +5. การโคลนลูกวัวนมโดยใช้เซลล์เต้านมจากแม่วัวนมต้นแบบ",5. การโคลนลูกวัวนมโดยใช้เซลล์เต้า���มจากแม่วัวนมต้นแบบ,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"8","แมลงสาบเป็นพาหะที่ก่อให้เกิดโรคหลายชนิดในมนุษย์เช่น วัณโรคอหิวาตกโรคและโรคภูมิแพ้ โดยผลการวิจัยหนึ่งพบว่าแมลงสาบเยอรมันสามารถปรับตัวให้มีความต้านทานต่อยาฆ่าแมลง ที่มีฤทธิ์รุนแรงที่สุดได้อย่างรวดเร็วอีกทั้งยังพบว่าลูกแมลงสาบเยอรมันรุ่นต่อๆมามีความต้านทาน ต่อยาฆ่าแมลงเช่นกันแม้ไม่เคยสัมผัสกับยาฆ่าแมลงเหล่านั้นมาก่อน @@ -568,8 +568,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 4. ความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงนี้เป็นความหลากหลายทางชีวภาพระดับเดียวกับการดื้อยา ปฏิชีวนะของแบคทีเรีย 5. ความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงของแมลงสาบทำให้มนุษย์มีความเสี่ยงต่อการติดโรคบางชนิด -จากแมลงสาบมากขึ้น",1. ลูกแมลงสาบที่มีความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงเกิดจากสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กัน,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""9""","ผีเสื้อชนิดหนึ่งมีวงจรชีวิตประมาณ 25 วัน สีของผีเสื้อ จีโนไทป์ที่ควบคุมสีของผีเสื้อ +จากแมลงสาบมากขึ้น",1. ลูกแมลงสาบที่มีความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงเกิดจากสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กัน,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"9","ผีเสื้อชนิดหนึ่งมีวงจรชีวิตประมาณ 25 วัน สีของผีเสื้อ จีโนไทป์ที่ควบคุมสีของผีเสื้อ ในธรรมชาติสามารถพบผีเสื้อชนิดนี้ได้3สี ได้แก่ขาวเทาและดำ ซึ่งลักษณะสีของผีเสื้อ ขาว จะถูกควบคุมด้วยแอลลีล W1 และ W2 @@ -587,8 +587,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. การผสมพันธุ์ระหว่างผีเสื้อสีดำและผีเสื้อสีขาวเพิ่มมากขึ้น 3. แอลลีล มีโอกาสเพิ่มจำนวนในกลุ่มประชากรนี้มากกว่าแอลลีล 4. ผีเสื้อสีดำ และสีเทาพรางตัวได้ไม่ดีในสิ่งแวดล้อมนี้จึงถูกล่าได้มากกว่า -5. ผีเสื้อสีเทาที่เกิดจากการผสมพันธุ์ของผีเสื้อสีขาวและสีดำ เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นหมัน",4. ผีเสื้อสีดำ และสีเทาพรางตัวได้ไม่ดีในสิ่งแวดล้อมนี้จึงถูกล่าได้มากกว่า,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""10""","สายใยอาหารของระบบนิเวศหนึ่งแสดงดังแผนภาพ +5. ผีเสื้อสีเทาที่เกิดจากการผสมพันธุ์ของผีเสื้อสีขาวและสีดำ เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นหมัน",4. ผีเสื้อสีดำ และสีเทาพรางตัวได้ไม่ดีในสิ่งแวดล้อมนี้จึงถูกล่าได้มากกว่า,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"10","สายใยอาหารของระบบนิเวศหนึ่งแสดงดังแผนภาพ ถ้ามีงูที่กินเฉพาะหนูนาและปลาเล็กเป็นอาหารเข้ามาในระบบนิเวศแห่งนี���โดยที่นกไม่กินงูชนิดนี้ เป็นอาหาร @@ -597,8 +597,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. มวลชีวภาพ ของต้นข้าวน้อยกว่ามวลชีวภาพของหนูนา 3. ผลผลิตข้าวที่ได้จากระบบนิเวศนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น 4. ปลาเล็กจะเป็นผู้บริโภคลำดับที่2 และ 3ในสายใยอาหารนี้ -5.งูจะเป็นผู้บริโภคลำดับสุดท้ายเพียงชนิดเดียวในระบบนิเวศนี้",3. ผลผลิตข้าวที่ได้จากระบบนิเวศนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""11""","ป่าแห่งหนึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นเวลานานหลังจากการเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่ายาวนาน +5.งูจะเป็นผู้บริโภคลำดับสุดท้ายเพียงชนิดเดียวในระบบนิเวศนี้",3. ผลผลิตข้าวที่ได้จากระบบนิเวศนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"11","ป่าแห่งหนึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นเวลานานหลังจากการเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่ายาวนาน 1 สัปดาห์ ซึ่งทำให้ต้นไม้และสัตว์ในพื้นที่ล้มตายกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า จากข้อมูลป่าแห่งนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแทนที่รูปแบบใด และเหตุการณ์ ใด จะเกิดขึ้น @@ -606,8 +606,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. แบบปฐมภูมิและมีกลุ่มสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเช่นแบคทีเรีย เป็นสิ่งมีชีวิตผู้บุกเบิก 3. แบบปฐมภูมิ และมีการงอกของเมล็ดพืชที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินเมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม 4. แบบทุติยภูมิและมีการอพยพของสัตว์เข้าไปในพื้นที่เพื่ออยู่อาศัย -5. แบบทุติยภูมิและมีการงอกของเมล็ดพืชที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินเมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม",5. แบบทุติยภูมิและมีการงอกของเมล็ดพืชที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินเมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""12""","ปัจจุบันสัตว์หลายชนิดได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมหลายประการเช่น การทำลาย +5. แบบทุติยภูมิและมีการงอกของเมล็ดพืชที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินเมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม",5. แบบทุติยภูมิและมีการงอกของเมล็ดพืชที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินเมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"12","ปัจจุบันสัตว์หลายชนิดได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมหลายประการเช่น การทำลาย แหล่งที่อยู่อาศัยและการล่าสัตว์ของมนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและสภาพอากาศที่แปรปรวนของโลก เช่น อุณหภูมิร้อนจัด หรือหนาวจัดหรื���การมีฤดูกาลที่ยาวนานกว่าปกติ ส่งผลให้สัตว์ต้องเผชิญกับสภาพอากาศ @@ -619,8 +619,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. การสูญพันธุ์ของสิงโตภูเขา เพราะพื้นที่ป่าถูกตัดทำลายจึงถูกล่าได้ง่ายขึ้น 3. หมีขาวสามารถล่าอาหารได้น้อยลงเพราะมีการละลายของแผ่นน้ำแข็งมากขึ้น 4. อัตราการรอดของลูกเพนกวินลดลงเพราะแม่เพนกวินต้องใช้เวลาในการหาอาหารนานขึ้น -5. อัตราการตายของกวางเรนเดียร์เพิ่มขึ้นเพราะสภาพอากาศที่แปรปรวนทําให้หาอาหารยาก",2. การสูญพันธุ์ของสิงโตภูเขา เพราะพื้นที่ป่าถูกตัดทำลายจึงถูกล่าได้ง่ายขึ้น,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""13""","ธาตุ A B C D และ E มีเลขอะตอมเป็นเลขคี่ที่เรียงลำดับจากน้อยไปมากอย่างต่อเนื่อง +5. อัตราการตายของกวางเรนเดียร์เพิ่มขึ้นเพราะสภาพอากาศที่แปรปรวนทําให้หาอาหารยาก",2. การสูญพันธุ์ของสิงโตภูเขา เพราะพื้นที่ป่าถูกตัดทำลายจึงถูกล่าได้ง่ายขึ้น,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"13","ธาตุ A B C D และ E มีเลขอะตอมเป็นเลขคี่ที่เรียงลำดับจากน้อยไปมากอย่างต่อเนื่อง โดยอะตอมของธาตุ A B C D และ E และ มีจำนวนโปรตอนน้อยกว่านิวตรอน 1 อนุภาค และธาตุ มีสัญลักษณ์นิวเคลียร์ 40 E 19 @@ -628,8 +628,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. ธาตุ B มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 13 อนุภาค 3. ธาตุ C มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 16 อนุภาค 4. ธาตุ D มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 35 อนุภาค -5. ธาตุ E มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 59 อนุภาค",4. ธาตุ D มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 35 อนุภาค,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""14""","ธาตุ A B C และ D มีสมบัติดังนี้ +5. ธาตุ E มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 59 อนุภาค",4. ธาตุ D มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 35 อนุภาค,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"14","ธาตุ A B C และ D มีสมบัติดังนี้ ธาตุ A มีความเสถียรไม่สร้างพันธะเคมีกับธาตุใดและมีเวเลนซ์อิเล็กตรอน อยู่ในระดับพลังงานที่3 ธาตุ B มีจํานวนโปรตอนน้อยกว่าธาตุ A 5อนุภาค @@ -640,8 +640,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. ธาตุ A มีจำนวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 1 เท่ากับ 8 3. ธาตุ B มีจำนวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่2 เท่ากับ 3 4. ธาตุ D มีจํานวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่3 เท่ากับ 4 -5. ธาตุ C มีจำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนมากกว่าธาตุ D 1 อนุภาค",4. ธาตุ D มีจํานวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่3 เท่ากับ 4,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""15""","ข้อมูลแสดงเลขอะตอมและเลขมวลของธาตุ 4 ชนิด เป็นดังนี้ +5. ธาตุ C มีจำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนมากกว่าธาตุ D 1 อนุภาค",4. ธาตุ D มีจํานวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่3 เท่ากับ 4,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"15","ข้อมูลแสดงเลขอะตอมและเลขมวลของธาตุ 4 ชนิด เป็นดังนี้ ธาตุ เลขอะตอม เลขมวล A 13 27 B 15 31 @@ -651,8 +651,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. ธาตุ A มีความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยามากกว่าธาตุ C 3. ธาตุ A และ C เป็นโลหะ ส่วนธาตุ B และ D เป็นอโลหะ 4. ธาตุ C มีสถานะเป็นแก๊สว่องไวต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมี -5. ธาตุ B มีจํานวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 3 มากกว่า ธาตุ D",3. ธาตุ A และ C เป็นโลหะ ส่วนธาตุ B และ D เป็นอโลหะ,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""16""","กำหนดให้ A B C และD เป็นสารบริสุทธิ์ที่มีสมบัติบางประการดังนี้ +5. ธาตุ B มีจํานวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 3 มากกว่า ธาตุ D",3. ธาตุ A และ C เป็นโลหะ ส่วนธาตุ B และ D เป็นอโลหะ,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"16","กำหนดให้ A B C และD เป็นสารบริสุทธิ์ที่มีสมบัติบางประการดังนี้ สาร A เป็นธาตุที่มีสถานะเป็นของแข็งมีจุดเดือดสูงทำปฏิกิริยารุนแรงกับน้ำ นำความร้อน และนำไฟฟ้าได้ดี สาร B เกิดจากการทำ ปฏิกิริยาระหว่างธาตุ 2ชนิดมีลักษณะเป็นผลึกสีขาว จุดเดือดและ @@ -664,8 +664,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. ธาตุ C สร้างพันธะไอออนิกกับโลหะโซเดียมมีสูตรเคมีคือ NaC2 3. ธาตุ A สร้างพันธะกับธาตุ D โดยการใช้เวเลนซ์อิเล็กตรอนร่วมกัน 4. ธาตุ B สร้างพันธะกับธาตุ A อะตอม B จะรับอิเล็กตรอนกลายเป็น B -5. ธาตุ A สร้างพันธะกับคลอรีน อะตอม A จะให้อิเล็กตรอนกลายเป็น A",5. ธาตุ A สร้างพันธะกับคลอรีน อะตอม A จะให้อิเล็กตรอนกลายเป็น A,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""17""","สารก ข และค มีสูตรเคมีและชนิดของพันธะซึ่งเป็นไปตามกฎออกเตตดังนี้ +5. ธาตุ A สร้างพันธะกับคลอรีน อะตอม A จะให้อิเล็กตรอนกลายเป็น A",5. ธาตุ A สร้างพันธะกับคลอรีน อะตอม A จะให้อิเล็กตรอนกลายเป็น A,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"17","สารก ข และค มีสูตรเคมีและชนิดของพันธะซึ่งเป็นไปตามกฎออกเตตดังนี้ สาร สูตรเคมี ชนิดของพันธะ ก XY₂ ไอออนิก ข JW3. ไอออนิก @@ -676,8 +676,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. Y VIIA 3. J VA 4. W VIIA -5. Z IVA ",3. J VA,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""18""","พิจารณาสมการเคมีของปฏิกิริยาตามที่กำหนดให้ต่อไปนี้ +5. Z IVA ",3. J VA,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"18","พิจารณาสมการเคมีของปฏิกิริยาตามที่กำหนดให้ต่อไปนี้ ปฏิกิริยาท���่ 1 KCIO4 (s) -----------> KCI(s) ปฏิกิริยาที่ 2 FeS₂(s) + 11x(g) ----------> 2Fe₂O3(s) + 8z(g) ปฏิกิริยาที่ 3 NH4OH(aq) ---------> y(1) + r(g) @@ -687,8 +687,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. ปฏิกิริยาที่ 2 และ 3 3. ปฏิกิริยาที่ 3 และ 4 4. ปฏิกิริยาที่ 2 และ 4 -5. ปฏิกิริยาที่ 1 และ 4",4. ปฏิกิริยาที่ 2 และ 4,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""19""","ข้อมูลแสดงจำนวนอะตอมคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันดิบ +5. ปฏิกิริยาที่ 1 และ 4",4. ปฏิกิริยาที่ 2 และ 4,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"19","ข้อมูลแสดงจำนวนอะตอมคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันดิบ ในแต่ละชั้นของหอกลั่นเป็นดังนี้ หอกลั่น จำนวนอะตอมคาร์บอน ชั้น P 14-19 @@ -700,8 +700,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. P สูงกว่า N P ต่ำกว่า N 3. P ต่ำกว่า N P ใกล้เคียงกับ N 4. P ใกล้เคียงกับ N P ต่ำกว่า N -5. P ใกล้เคียงกับ N P ใกล้เคียงกับ N",4. P ใกล้เคียงกับ N P ต่ำกว่า N ,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""20""","ข้อมูลแสดงสมบัติของพอลิเมอร์ 4 ชนิด ดังตาราง +5. P ใกล้เคียงกับ N P ใกล้เคียงกับ N",4. P ใกล้เคียงกับ N P ต่ำกว่า N ,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"20","ข้อมูลแสดงสมบัติของพอลิเมอร์ 4 ชนิด ดังตาราง พอลิเมอร์ สมบัติ W เหนียวไม่แตกง่ายความหนาแน่นสูงทนต่อสารเคมี X ยืดหยุ่นได้ความเหนียว ทนต่อการกรอบแตก @@ -712,8 +712,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. พอลิเมอร์ W มีจุดหลอมเหลวสูงกว่าพอลิเมอร์ X 3. พอลิเมอร์ X และ Z จัดเป็นพลาสติกเทอร์มอเซต 4. พอลิเมอร์ W นำมาผลิตเป็นตะกร้า หูกระทะ ขวดบรรจุยา -5. ผลิตภัณฑ์พลาสติกจากพอลิเมอร์ Y และ W สามารถนำกลับมาหลอมขึ้นรูปใหม่ได้",2. พอลิเมอร์ W มีจุดหลอมเหลวสูงกว่าพอลิเมอร์ X,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""21""","A B และ C เป็นสารอาหารกลุ่มที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย มีสมบัติบางประการ ดังนี้ +5. ผลิตภัณฑ์พลาสติกจากพอลิเมอร์ Y และ W สามารถนำกลับมาหลอมขึ้นรูปใหม่ได้",2. พอลิเมอร์ W มีจุดหลอมเหลวสูงกว่าพอลิเมอร์ X,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"21","A B และ C เป็นสารอาหารกลุ่มที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย มีสมบัติบางประการ ดังนี้ สาร A เป็นไตรกลีเซอไรด์ที่สกัดจากเมล็ดถั่วเหลืองแล้วนำ มาเติมไฮโดรเจนได้สาร X สาร B ทดสอบด้วยสารละลายคอปเปอร์ ซัลเฟตในเบสได้สารสีม่วงเมื่อสาร B ถูกย่อย อย่างสมบูรณ์ ได้สาร Y @@ -726,8 +726,8 @@ B. รังสีอินฟร��เรดเคลื่อนที่ใ 4. ทดสอบสาร Z ด้วยสารละลายเบเนดิกต์ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง 5 .ทดสอบสาร Bโดยให้ความร้อนแล้วหยดด้วย สารละลายคอปเปอร์(II ซัลเฟตในเบส ได้สารสีม่วง","5 .ทดสอบสาร Bโดยให้ความร้อนแล้วหยดด้วย สารละลายคอปเปอร์(II ซัลเฟตในเบส -ได้สารสีม่วง",TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""22""","นำตัวอย่างอาหารชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นของเหลวมาตรวจหาสารอาหาร +ได้สารสีม่วง",TRUE,TRUE,TRUE +2019,"22","นำตัวอย่างอาหารชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นของเหลวมาตรวจหาสารอาหาร โดยทําการทดลองดังนี้ การทดลองที่1 เติมสารละลายเบเนดิกต์ได้เป็นของเหลวขุ่นสีฟ้าแล้วนำ ไปต้ม ของเหลวขุ่นสีฟ้าเปลี่ยนเป็นตะกอนสีส้ม @@ -740,8 +740,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. น้ำข้าวโพดผสมน้ำอ้อย 3. ไข่ขาวผสมนํ้าตาลทราย 4. น้ำเต้าหู้รสจืดผสมแป้งมัน -5. น้ำมันถั่วเหลืองผสมแป้งสาลี",1. น้ำส้มคั้นผสมนมสด,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""23""","โดยปกติแล้วพื้นผิวโลกมีสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้าเนื่องจากประจุไฟฟ้าบวกและลบมีจำนวน +5. น้ำมันถั่วเหลืองผสมแป้งสาลี",1. น้ำส้มคั้นผสมนมสด,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"23","โดยปกติแล้วพื้นผิวโลกมีสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้าเนื่องจากประจุไฟฟ้าบวกและลบมีจำนวน แต่ในช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณฐานเมฆจะมีประจุไฟฟ้าลบอยู่เป็นจำนวนมากเท่าๆกัน ดังภาพ แรงไฟฟ้าและสนามไฟฟ้าจากฐานเมฆจะทำให้พื้นผิวโลกที่อยู่ใต้ฐานเมฆไม่เป็นกลาง ทางไฟฟ้า @@ -753,8 +753,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. เข้าหาเมฆ มีโดยมีทิศทางออกจากเมฆ 3. ออกจากเมฆ ไม่มีเพราะมีประจุไฟฟ้าลบเหมือนกัน 4. ออกจากเมฆ มีโดยมีทิศทางเข้าหาเมฆ -5. ออกจากเมฆ มีโดยมีทิศทางออกจากเมฆ",2. เข้าหาเมฆ มีโดยมีทิศทางออกจากเมฆ,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""24""","วางแท่งแม่เหล็ก2แท่งในตำแหน่งดังที่กำหนดในภาพ จากนั้นยิงอิเล็กตรอนเข้าไปที่ตรงกลาง +5. ออกจากเมฆ มีโดยมีทิศทางออกจากเมฆ",2. เข้าหาเมฆ มีโดยมีทิศทางออกจากเมฆ,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"24","วางแท่งแม่เหล็ก2แท่งในตำแหน่งดังที่กำหนดในภาพ จากนั้นยิงอิเล็กตรอนเข้าไปที่ตรงกลาง ระหว่างแท่งแม่เหล็กทั้งสองในทิศพุ่งเข้าและตั้งฉากกับระนาบของกระดาษ พบว่าอิเล็กตรอน เบนไปทางด้านบน @@ -764,8 +764,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. จาก A ไปหา C A C 3. จาก B ไปหา D B D 4. จาก B ไปหา D D B -5. จาก C ไปหา A A C",2. จาก A ไปหา C A C,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""25""","ถ้าสมมติในอนาคตแรงนิวเคลียร์หายไปจากธรรมชาติ “ทุกอะตอมจะไม่สามารถคงสภาพ +5. จาก C ไปหา A A C",2. จาก A ไปหา C A C,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"25","ถ้าสมมติในอนาคตแรงนิวเคลียร์หายไปจากธรรมชาติ “ทุกอะตอมจะไม่สามารถคงสภาพ อะตอมได้” คำกล่าวข้างต้นถูกต้องตามหลักการของแรงในธรรมชาติหรือไม่เพราะเหตุใด","1. ถูกต้องเพราะจะไม่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโปรตอนและนิวตรอนที่ทำให้มีนิวเคลียส @@ -774,8 +774,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 4. ไม่ถูกต้องเพราะยังมีแรงไฟฟ้าระหว่างโปรตอนกับอิเล็กตรอนที่อยู่รอบๆให้คงสภาพ อะตอมได้ 5. ไม่ถูกต้องเพราะยังมีแรงโน้มถ่วงกระทำ ระหว่างโปรตอนนิวตรอนและอิเล็กตรอน -ให้คงสภาพอะตอมได้",1. ถูกต้องเพราะจะไม่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโปรตอนและนิวตรอนที่ทำให้มีนิวเคลียส,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""26""","พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้เพื่อใช้ในการตอบคำถามข้อ 26-27 +ให้คงสภาพอะตอมได้",1. ถูกต้องเพราะจะไม่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโปรตอนและนิวตรอนที่ทำให้มีนิวเคลียส,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"26","พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้เพื่อใช้ในการตอบคำถามข้อ 26-27 โยนลูกบอลขึ้นในแนวดิ่งบนพื้นผิวโลกลูกบอลเริ่มเคลื่อนที่จากจุดขึ้นไปถึงจุดซึ่งอยู่สูง จากจุด 1225เมตรโดยใช้เวลา05วินาที แล้วเคลื่อนที่ลงถึงจุดอีกครั้ง @@ -785,8 +785,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. 0 1.225 3. 0 2.450 4. 2.450 0 -5. 2.450 2.450",1. 0 0,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""27""","พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้เพื่อใช้ในการตอบคำถามข้อ 26-27 +5. 2.450 2.450",1. 0 0,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"27","พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้เพื่อใช้ในการตอบคำถามข้อ 26-27 โยนลูกบอลขึ้นในแนวดิ่งบนพื้นผิวโลกลูกบอลเริ่มเคลื่อนที่จากจุดขึ้นไปถึงจุดซึ่งอยู่สูง จากจุด 1225เมตรโดยใช้เวลา05วินาที แล้วเคลื่อนที่ลงถึงจุดอีกครั้ง @@ -794,8 +794,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. ขณะขึ้นจากจุด A ไปจุด B ความเร็วมีขนาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 3. ขณะอยู่ที่จุด B ความเร่งเป็นศูนย์ 4. ขณะลงจากจุด B ไปจุด A ความเร่งมีขนาดลดลงอย่างต่อเนื่อง -5. ขณะลงจากจุด B ไปจุด A ความเร็วมีทิศทางลง",5. ขณะลงจากจุด B ไปจุด A ความเร็วมีทิศทางลง,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""28""","ยิงวัตถุ A B และ C ขึ้นจากพื้นที่ตำแหน่งเดียวกันทำมุมกับพื้น20องศา45องศาและ +5. ขณะลงจากจุด B ไปจุด A ความเร็วมีทิศทางลง",5. ขณะลงจากจุด B ไปจุด A ความเร็วมีทิศทางลง,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"28","ยิงวัตถุ A B และ C ขึ้นจากพื้นที่ตำแหน่งเดียวกันทำมุมกับพื้น20องศา45องศาและ 70องศาตามลำดับ พบว่าวัตถุทั้งสามชิ้นมีเส้นทางการเคลื่อนที่เป็นดังภาพและตกถึงพื้น ที่ตำแหน่งเดียวกัน กำหนดให้ไม่ต้องพิจารณาแรงต้านของอากาศ @@ -804,8 +804,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. วัตถุ A และ C มีขนาดของความเร็วต้นเท่ากัน 3. วัตถุ A มีขนาดของความเร็วต้นน้อยกว่าวัตถุ C 4. วัตถุทั้งสามชิ้นมีความเร็วในแนวระดับไม่คงตัวตลอดการเคลื่อนที -5. ที่จุดสูงสุดของวัตถุแต่ละชิ้น วัตถุ C มีความเร็วในแนวดิ่งมากที่สุด",2. วัตถุ A และ C มีขนาดของความเร็วต้นเท่ากัน,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""29""","นาฬิกาลูกตุ้มเรือนหนึ่งมีลูกตุ้มแกว่งกลับไป-กลับมาผ่านตำแหน่ง +5. ที่จุดสูงสุดของวัตถุแต่ละชิ้น วัตถุ C มีความเร็วในแนวดิ่งมากที่สุด",2. วัตถุ A และ C มีขนาดของความเร็วต้นเท่ากัน,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"29","นาฬิกาลูกตุ้มเรือนหนึ่งมีลูกตุ้มแกว่งกลับไป-กลับมาผ่านตำแหน่ง A B และ C ดังภาพโดยเมื่อลูกตุ้มนาฬิกาแกว่งกลับไป-กลับมา ครบ60รอบเข็มยาวจะขยับไป 1 ช่องหรือบอกเวลา 1 นาที @@ -819,8 +819,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. 120 0.92 3. 60 1.09 4. 60 1.00 -5. 60 0.92",1. 120 1.09,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""30""","นพและนิดจับขดลวดสปริงคนละข้างและวางบนพื้นลื่นนพขยับปลายของขดลวดสปริง +5. 60 0.92",1. 120 1.09,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"30","นพและนิดจับขดลวดสปริงคนละข้างและวางบนพื้นลื่นนพขยับปลายของขดลวดสปริง เข้าและออกจากตัวเองอย่างต่อเนื่องพบว่าเกิดคลื่นบนขดลวดสปริงเคลื่อนที่เข้าหานิด โดยมีอัตราเร็วคลื่น 12เมตรต่อวินาทีและส่วนของสปริงที่ถูกจัดอยู่ห่างกัน 15เมตร ดังภาพที่เป็นมุมมองจากด้านบน @@ -832,8 +832,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. คลื่นตามขวาง 1.25 3. คลื่นตามยาว 0.8 4. คลื่นตามยาว 1.25 -5. คลื่นตามยาว 1.8",3. คลื่นตามยาว 0.8,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""31""","ตรึงเชือกยาวเส้นหนึ่งเข้ากับเสาให้แน่น จับปลายเชือกส��บัดในทิศทางขึ้นหนึ่งครั้งเว้นช่วงเวลา +5. คลื่นตามยาว 1.8",3. คลื่นตามยาว 0.8,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"31","ตรึงเชือกยาวเส้นหนึ่งเข้ากับเสาให้แน่น จับปลายเชือกสะบัดในทิศทางขึ้นหนึ่งครั้งเว้นช่วงเวลา เล็กน้อยแล้วสะบัดขึ้นอีกครั้งพบว่าเกิดสันคลื่นของคลื่นดล 2ขบวนที่เหมือนกันทุกประการ เคลื่อนที่เข้าหาเสาดังภาพ @@ -848,8 +848,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 4. สรุปไม่ได้เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าคลื่นทั้งสองขบวนจะเกิดการแทรกสอดเสริมหรือหักล้าง 5. สรุปไม่ได้เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าคลื่นขบวนแรกที่สะท้อนจากเสาจะมีลักษณะเป็น สันคลื่นหรือท้องคลื่น","3. ไม่ถูกต้องเพราะคลื่นทั้งสองขบวนจะเกิดการแทรกสอดหักล้างแล้วคลื่นจะเคลื่อนที่ -ผ่านกันไป",FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""32""","ศึกษาเสียงที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงที่เป็นจุด มีกำลังเสียงคงตัวและสามารถปรับค่าความถี่ +ผ่านกันไป",FALSE,TRUE,TRUE +2019,"32","ศึกษาเสียงที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงที่เป็นจุด มีกำลังเสียงคงตัวและสามารถปรับค่าความถี่ ของเสียงได้ทดลองวัดความดันอากาศที่เวลาต่างๆโดยจัดชุดการทดลองต่างกันได้ผลการวัด ความดันอากาศ ดังกราฟ @@ -858,8 +858,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. น้อยลง มากขึ้น 3. เท่าเดิม น้อยลง 4. เท่าเดิม มากขึ้น -5. มากขึ้น น้อยลง",4. เท่าเดิม มากขึ้น,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""33""","ศึกษาเสียงที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงที่เป็นจุดมีกำลังเสียงคงตัวและสามารถปรับค่าความถี่ +5. มากขึ้น น้อยลง",4. เท่าเดิม มากขึ้น,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"33","ศึกษาเสียงที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงที่เป็นจุดมีกำลังเสียงคงตัวและสามารถปรับค่าความถี่ ของเสียงได้วางแหล่งกำเนิดเสียง2แหล่งที่มีกำลังเสียงเท่ากันไว้ใกล้ๆกัน แหล่งกำเนิดเสียง X ให้เสียงที่มีความถี่เท่ากับผลของการวัดความดันอากาศดังกราฟ แหล่งกำเนิดเสียง Y ให้เสียงที่มีความถี่เท่ากับ200เฮิรตซ์ @@ -872,8 +872,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 3. 207 เสียงดังอย่างต่อเนื่อง 4. 250 เสียงดังสลับค่อย 5. 250 เสียงดังอย่างต่อเนื่อง -",5. 250 เสียงดังอย่างต่อเนื่อง,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""34""","ยิงรังสีของแสงให้เคลื่อนที่จากแก้วไปยังสุญญากาศพบว่าความยาวคลื่น (λ) 4 และอัตราเร็ว (v) +",5. 250 เสียงดังอย่างต่อเนื่อง,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"34","ยิงรังสีของแสงให้เคลื่อนที่จากแก้วไปยังสุญญากาศพบว่าความยาวคลื่น (λ) 4 และอัตราเร็ว (v) มีการเปลี่ยนแปลงถ้าคลื่นเคลื่อนที่จากซ้ายไปขวาโดยมีสนามแม่เหล็กทิศทางตามแนวบน-ล่าง ของระนาบกระดาษดังภาพ @@ -883,8 +883,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 3. 651 แนวซ้าย-ขวา 4. 868 แนวพุ่งเข้า–พุ่งออกตั้งฉากกับระนาบกระดาษ 5. 868 แนวบน-ล่าง","1. 651 แนวพุ่งเข้า–พุ่งออกตั้งฉากกับระนาบกระดาษ -",FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""35""","พิจารณาปฏิกิริยานิวเคลียร์ต่อไปนี้ +",FALSE,TRUE,TRUE +2019,"35","พิจารณาปฏิกิริยานิวเคลียร์ต่อไปนี้ 9 4 12 1 Be + He ------> C + X 4 2 6 0 @@ -903,8 +903,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 3. ปฏิกิริยานิวเคลียร์นี้เป็นนิวเคลียร์ฟิชชัน 4. พลังงานที่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์เท่ากับ 9×10^-13 จูล -5. มวลรวมของนิวเคลียสหลังเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์มีค่าลดลง 0.01 กิโลกรัม",4. พลังงานที่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์เท่ากับ 9×10^-13 จูล,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""36""","เมื่อวันที่ 1 มกราคม2563พบสารกัมมันตรังสีชนิดหนึ่ง8000มิลลิกรัม +5. มวลรวมของนิวเคลียสหลังเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์มีค่าลดลง 0.01 กิโลกรัม",4. พลังงานที่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์เท่ากับ 9×10^-13 จูล,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"36","เมื่อวันที่ 1 มกราคม2563พบสารกัมมันตรังสีชนิดหนึ่ง8000มิลลิกรัม ต่อมา วันที่ 5มกราคม2563มีสารกัมมันตรังสีชนิดนี้เหลืออยู่เพียง500มิลลิกรัม จากข้อมูลสารกัมมันตรังสีดังกล่าวมีค่าครึ่งชีวิตเท่าใดและวันที่7มกราคม2563 จะเหลือสารกัมมันตรังสีเท่าใด"," ครึ่งชีวิต(ชั่วโมง) สารกัมมันตรังสี @@ -913,8 +913,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ 2. 24 125.0 3. 24 250.0 4. 30 125.0 -5. 30 250.0",2. 24 125.0,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""37""","ขณะเกิดแผ่นดินไหวณศูนย์เกิดแผ่นดินไหว I และ II พร้อมกัน สถานีตรวจวัด +5. 30 250.0",2. 24 125.0,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"37","ขณะเกิดแผ่นดินไหวณศูนย์เกิดแผ่นดินไหว I และ II พร้อมกัน สถานีตรวจวัด คลื่นไหวสะเทือน A B C และ D ที่ตั้งอยู่ณตำแหน่งต่างๆบนผิวโลกตรวจจับเวลาที่ คลื่นปฐมภูมิและคลื่นทุติยภูมิเคลื่อนที่มาถึงสถานีตรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนแต่ละแห่งได้ดังกราฟ กำหนดให้สถานีตรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนทั้ง4แห่งตั้งเวลามาตรฐานของเครื่องวัด @@ -930,8 +930,8 @@ B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ใ ถึงสถานีตรวจวัด D มากกว่าระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว II ถึงสถานีตรวจวัด D 5. เมื่อวัดจากจุดศูนย์เกิดแผ่นดินไหวไปตามผิวโลก ระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว I ถึงสถานีตรวจวัด C มากกว่าระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว II ถึงสถานีตรวจวัด A","4. เมื่อวัดจากจุดศูนย์เกิดแผ่นดินไหวไปตามผิวโลก ระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว I -ถึงสถานีตรวจวัด D มากกว่าระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว II ถึงสถานีตรวจวัด D",FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""38""","การศึกษาหลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบในปัจจุบันของแผ่นธรณี ในพื้นที่ศึกษา6แผ่นได้แก่ A B +ถึงสถานีตรวจวัด D มากกว่าระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว II ถึงสถานีตรวจวัด D",FALSE,TRUE,TRUE +2019,"38","การศึกษาหลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบในปัจจุบันของแผ่นธรณี ในพื้นที่ศึกษา6แผ่นได้แก่ A B C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบในแผ่นธรณีทั้งหกแผ่นเป็นกลุ่มหินประเภทเดียวกันและ มีอายุอยู่ในช่วง 500-146ล้านปีก่อน นอกจากนี้ยังพบหลักฐานจากซากดึกดำบรรพ์และ หลักฐาน จากภูมิอากาศโบราณดังตาราง @@ -946,8 +946,8 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน 2 แผ่นธรณี B และ F 3 แผ่นธรณี C และ D 4 แผ่นธรณี D และ E -5 แผ่นธรณี E และ F",3 แผ่นธรณี C และ D,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""39""","ภาพวาดแสดงหน้าตัดของชั้นหินและซากดึกดำบรรพ์ดัชนีที่พบในพื้นที่2บริเวณซึ่งอยู่ +5 แผ่นธรณี E และ F",3 แผ่นธรณี C และ D,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"39","ภาพวาดแสดงหน้าตัดของชั้นหินและซากดึกดำบรรพ์ดัชนีที่พบในพื้นที่2บริเวณซึ่งอยู่ ใกล้เคียงกันเป็นดังนี้ จากข้อมูลข้อความใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง","1. ชั้นหินปูน C มีอายุใกล้เคียงกับชั้นหินปูน F @@ -955,8 +955,8 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน 3. ในอดีตพื้นที่บริเวณที่ 1 และบริเวณที่ 2 ต่างเคยเป็นทะเลมาก่อน 4. ซากดึกดำบรรพ์ของไทรโลไบต์ที่พบในชั้นหินบริเวณที่ 1 มีอายุใกล้เคียงกับที่พบในบริเวณที่2 5. ซากดึกดำบรรพ์ของฟิวซูลินิดที่พบในชั้นหินบริเวณ ที่ 2มีอายุเก่าแก่กว่าซากดึกดำบรรพ์ -ของหอยสองฝาที่พบในชั้นหินบริเวณที่ 1",4. ซากดึกดำบรรพ์ของไทรโลไบต์ที่พบในชั้นหินบริเวณที่ 1 มีอายุใกล้เคียงกับที่พบในบริเวณที่2,FALSE,TRUE,TRUE -2019,"""40""","ข้อมูลแสดงวิวัฒนาการของดาวฤกษ์3ดวงเป็นดังนี้ +ของหอยสองฝาที่พบในชั้นหินบริเวณที่ 1",4. ซากดึกดำบรรพ์ของไทรโลไบต์ที่พบในชั้นหินบริเวณที่ 1 มีอายุใกล้เคียงกับที่พบในบริเวณที่2,FALSE,TRUE,TRUE +2019,"40","ข้อมูลแสดงวิวัฒนาการของดาวฤกษ์3ดวงเป็นดังนี้ ดาวฤกษ์ วิวัฒนาการของดาวฤกษ์ A ดาวฤกษ์ →ดาวยักษ์แดง→ดาวแคระขาวและเนบิวลาดาวเคราะห์ @@ -969,8 +969,8 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน 2. 5.8 33.0 15.5 3. 14.3 17.0 8.5 4. 19.0 3.5 6.7 -5. 1.4 22.5 4.2",2. 5.8 33.0 15.5,TRUE,TRUE,TRUE -2019,"""41.1""","การสำรวจลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยืนบนออโตโซมของครอบครัวหนึ่ง +5. 1.4 22.5 4.2",2. 5.8 33.0 15.5,TRUE,TRUE,TRUE +2019,"41","การสำรวจลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยืนบนออโตโซมของครอบครัวหนึ่ง เป็นดังตาราง บุคคล ลักษณะทางพันธุกรรม ในครอบครัว การมีลักยิ้ม การห่อลิ้น หมู่เลือด @@ -984,8 +984,8 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน ข้อความต่อไปนี้กล่าวถึงลักษณะทางพันธุกรรมของครอบครัวนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ ข้อความ ใช่ หรือไม่ใช่ -การมีลักยิ้ม ของแม่มีจีโนไทป์เป็น FF และลูกคนที่ 1 มีจีโนไทป์เป็น Fr ใช่/ไม่ใช่",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE -2019,"""41.2""","การสำรวจลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยืนบนออโตโซมของครอบครัวหนึ่ง +การมีลักยิ้ม ของแม่มีจีโนไทป์เป็น FF และลูกคนที่ 1 มีจีโนไทป์เป็น Fr ใช่/ไม่ใช่",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,"41","การสำรวจลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยืนบนออโตโซมของครอบครัวหนึ่ง เป็นดังตาราง บุคคล ลักษณะทางพันธุกรรม ในครอบครัว การมีลักยิ้ม การห่อลิ้น หมู่เลือด @@ -999,8 +999,8 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน ข้อความต่อไปนี้กล่าวถึงลักษณะทางพันธุกรรมของครอบครัวนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ ข้อความ ใช่ หรือไม่ใช่ -ลูกสาวและลูกชาย ของครอบครัวนี้มีโอกาสห่อลิ้นได้เท่ากันคือร้อยละ 50 ใช่/ไม่ใช่",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,TRUE,FALSE,TRUE -2019,"""41.3""","การสำรวจลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยืนบนออโตโซมของครอบครัวหนึ่ง +ลูกสาวและลูกชาย ของครอบครัวนี้มีโอกาสห่อลิ้นได้เท่ากันคือร��อยละ 50 ใช่/ไม่ใช่",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,"41","การสำรวจลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยืนบนออโตโซมของครอบครัวหนึ่ง เป็นดังตาราง บุคคล ลักษณะทางพันธุกรรม ในครอบครัว การมีลักยิ้ม การห่อลิ้น หมู่เลือด @@ -1014,8 +1014,8 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน ข้อความต่อไปนี้กล่าวถึงลักษณะทางพันธุกรรมของครอบครัวนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ ข้อความ ใช่ หรือไม่ใช่ -ลูกคนที่3ของครอบครัวนี้จะมีหมู่เลือดเป็น เอบี หรือ โอ เท่านั้น ",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE -2019,"""42.1""","การทดลองเพื่อสนับสนุนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างหินปูน (CaCO3) กับ +ลูกคนที่3ของครอบครัวนี้จะมีหมู่เลือดเป็น เอบี หรือ โอ เท่านั้น ",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,"42","การทดลองเพื่อสนับสนุนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างหินปูน (CaCO3) กับ สารละลายกรด X และ Y ที่อุณหภูมิ25°C แล้วบันทึกเวลาตั้งแต่เริ่มจนสิ้นสุดปฏิกิริยา ได้ผลการทดลองดังนี้ สารละลายกรด @@ -1028,8 +1028,8 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำการทดลองต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในการทดลองที่4 เร็วกว่าการทดลองที่3 -",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE -2019,"""42.2""","การทดลองเพื่อสนับสนุนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างหินปูน (CaCO3) กับ +",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,"42","การทดลองเพื่อสนับสนุนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างหินปูน (CaCO3) กับ สารละลายกรด X และ Y ที่อุณหภูมิ25°C แล้วบันทึกเวลาตั้งแต่เริ่มจนสิ้นสุดปฏิกิริยา ได้ผลการทดลองดังนี้ สารละลายกรด @@ -1041,8 +1041,8 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน กำหนดให้ ปริมาตรกรดและมวลของหินปูนเท่ากันทุกการทดลอง จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำการทดลองต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ -ถ้า T1 มากกว่า T2 แสดงว่าความเข้มข้นของสารละลายกรดมีผลต่อT อัตราการเกิดปฏิกิริยามากกว่าพื้นที่ผิว ใช่/ไม่ใช่",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,TRUE,FALSE,TRUE -2019,"""42.3""","การทดลองเพื่อสนับสนุนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างหินปูน (CaCO3) กับ +ถ้า T1 มากกว่า T2 แสดงว่าความเข้มข้นของสารละลายกรดมี���ลต่อT อัตราการเกิดปฏิกิริยามากกว่าพื้นที่ผิว ใช่/ไม่ใช่",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,"42","การทดลองเพื่อสนับสนุนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างหินปูน (CaCO3) กับ สารละลายกรด X และ Y ที่อุณหภูมิ25°C แล้วบันทึกเวลาตั้งแต่เริ่มจนสิ้นสุดปฏิกิริยา ได้ผลการทดลองดังนี้ สารละลายกรด @@ -1055,8 +1055,8 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำการทดลองต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ แมกนีเซียม เป็นเวลา 1นาที พบว่าสารละลายกรด X ทำปฏิกิริยากับโลหะ -แมกนีเซียมจะมีฟองแก๊สเกิดขึ้นมากกว่าสารละลายกรด Y ดังนั้น T1 มากกว่า T3 ",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE -2019,"""43.1""","พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสนามโน้มถ่วงของโลกกับความสูงจากพื้นผิวโลกดังกราฟต่อไปนี้ +แมกนีเซียมจะมีฟองแก๊สเกิดขึ้นมากกว่าสารละลายกรด Y ดังนั้น T1 มากกว่า T3 ",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,"43","พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสนามโน้มถ่วงของโลกกับความสูงจากพื้นผิวโลกดังกราฟต่อไปนี้ ข้อความต่อไปนี้กล่าวถูกต้องตามหลักการของสนามโน้มถ่วงใช่หรือไม่ ข้อความ ใช่หรือไม่ใช่ @@ -1064,24 +1064,24 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำ ต่อวัตถุที่มีมวล6กิโลกรัมซึ่งอยู่ที่ความสูง จากพื้นผิวโลก5,000กิโลเมตร มีค่าเป็นครึ่งหนึ่งของน้ำหนักของวัตถุนั้นที่ พื้นผิวโลก -",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE -2019,"""43.2""","พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสนามโน้มถ่วงของโลกกับความสูงจากพื้นผิวโลกดังกราฟต่อไปนี้ +",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE +2019,"43","พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสนามโน้มถ่วงของโลกกับความสูงจากพื้นผิวโลกดังกราฟต่อไปนี้ ข้อความต่อไปนี้กล่าวถูกต้องตามหลักการของสนามโน้มถ่วงใช่หรือไม่ ข้อความ ใช่หรือไม่ใช่ ถ้าทดลองปล่อยวัตถุที่มีมวล 2กิโลกรัมให้ตกแบบเสรี แล้ววัตถุเริ่มต้น เคลื่อนที่ด้วยความเร่งโน้มถ่วง2.0เมตรต่อวินาที^2 แสดงว่า วัตถุถูกปล่อย -จากความสูงจากพื้นผิวโลก7,500กิโลเมตร",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,FALSE,FALSE,TRUE -2019,"""43.3""","พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสนามโน้มถ่วงของโลกกับความสูงจากพื้นผิวโลกดังกราฟต่อไปนี้ +จากความสูงจากพื้นผิวโลก7,500กิโลเมตร",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,FALSE,FALSE,TRUE +2019,"43","พ���จารณาความสัมพันธ์ระหว่างสนามโน้มถ่วงของโลกกับความสูงจากพื้นผิวโลกดังกราฟต่อไปนี้ ข้อความต่อไปนี้กล่าวถูกต้องตามหลักการของสนามโน้มถ่วงใช่หรือไม่ ข้อความ ใช่หรือไม่ใช่ ถ้านักบินอวกาศคนหนึ่งสามารถลอยตัวอยู่ในยานอวกาศที่กำลังโคจร รอบโลกที่ความสูงจากพื้นผิวโลก350กิโลเมตร แสดงว่า แรงโน้มถ่วงของ -โลกที่กระทําต่อนักบินอวกาศคนดังกล่าวมีค่าเท่ากับศูนย์",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE -2019,"""44.1""","ทดลองส่งจรวดขนส่งยานอวกาศออกจากจากวงโคจรที่ระดับความสูงจากผิวโลก3ตำแหน่งดังนี้ +โลกที่กระทําต่อนักบินอวกาศคนดังกล่าวมีค่าเท่ากับศูนย์",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE +2019,"44","ทดลองส่งจรวดขนส่งยานอวกาศออกจากจากวงโคจรที่ระดับความสูงจากผิวโลก3ตำแหน่งดังนี้ ตำแหน่งส่งจรวด ความสูงจากผิวโลก(กิโลเมตร) A 0 (ที่ผิวโลก) B 200 @@ -1090,8 +1090,8 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน จากข้อมูลข้อสรุปต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ จรวดที่ส่งจากตำแหน่ง A ต้องมีขนาดความเร็วหลุดพ้นมากกว่า -จรวดที่ส่งจากตำแหน่ง B จึงจะขึ้นไปพ้นจากแรงโน้มถ่วงของโลกได้",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,FALSE,FALSE,TRUE -2019,"""44.2""","ทดลองส่งจรวดขนส่งยานอวกาศออกจากจากวงโคจรที่ระดับความสูงจากผิวโลก3ตำแหน่งดังนี้ +จรวดที่ส่งจากตำแหน่ง B จึงจะขึ้นไปพ้นจากแรงโน้มถ่วงของโลกได้",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,FALSE,FALSE,TRUE +2019,"44","ทดลองส่งจรวดขนส่งยานอวกาศออกจากจากวงโคจรที่ระดับความสูงจากผิวโลก3ตำแหน่งดังนี้ ตำแหน่งส่งจรวด ความสูงจากผิวโลก(กิโลเมตร) A 0 (ที่ผิวโลก) B 200 @@ -1101,8 +1101,8 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน ถ้าต้องการส่งจรวดให้โคจรรอบโลกที่ความสูงจากผิวโลก 10,000 กิโลเมตร ขนาดความเร็วในวงโคจรของจรวดที่ส่งจากตำแหน่ง C -มีค่ามากกว่าขนาดความเร็วในวงโคจรของจรวดที่ส่งจากตำแหน่ง A",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE -2019,"""44.3""","ทดลองส่งจรวดขนส่งยานอวกาศออกจากจากวงโคจรที่ระดับความสูงจากผิวโลก3ตำแหน่งดังนี้ +มีค่ามากกว่าขนาดความเร็วในวงโคจรของจรวดที่ส่งจากตำแหน่ง A",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE +2019,"44","ทดลองส่งจรวดขนส่งยานอวกาศออกจากจากวงโคจรที่ระดับความสูงจากผิวโลก3ตำแหน่งดังนี้ ตำแหน่งส่งจรวด คว���มสูงจากผิวโลก(กิโลเมตร) A 0 (ที่ผิวโลก) B 200 @@ -1112,4 +1112,4 @@ C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบใน ถ้าส่งจรวดจากตำแหน่งทั้งสามด้วยขนาดความเร็วเท่ากับ ใช่ไม่ใช่ ขนาดความเร็วหลุดพ้นที่ตำแหน่ง C แล้ว จรวดที่ส่งจากตำแหน่งทั้งสาม -จะขึ้นไปพ้นจากแรงโน้มถ่วงของโลกได้",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE +จะขึ้นไปพ้นจากแรงโน้มถ่วงของโลกได้",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE