diff --git "a/m6/science/train/science_2019-2020.csv" "b/m6/science/train/science_2019-2020.csv" new file mode 100644--- /dev/null +++ "b/m6/science/train/science_2019-2020.csv" @@ -0,0 +1,1115 @@ +year,no,instruction,input,result,isAnswerable,isMultipleChoice,isSingleChoiceSolution +2020,1,"ข้อมูลลักษณะสำคัญของไบโอมชนิดต่างๆแสดงดังตาราง +ไบโอม ลักษณะสำคัญ +สะวันนา มีอุณหภูมิค่อนข้างสูงตลอดปีมีฤดูแล้งยาวนาน และมีหญ้าเป็นพืชกลุ่มเด่น +ป่าเขตร้อน มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่อปี 25 - 29 องศาเซลเซียสมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตสูงมีพืชและต้นไม้ใหญ่หนาแน่น +ทุนดรา มีช่วงฤดูหนาวยาวนานประมาณ10 เดือนมีช่วงฤดูร้อนสั้น ไม่มีต้นไม้ใหญ่และมักพบไลเคนมอสและหญ้า + +กำหนดให้สัตว์ 2 ชนิดมีลักษณะและพฤติกรรมเป็นดังนี้ +ชนิดที่ 1 กินหญ้าและไลเคนเป็นอาหารเมื่อเข้าฤดูหนาวจะสร้างขึ้นชุดใหม่ที่หนาขึ้นและจะผลัดขนทิ้งเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน +ชนิดที่ 2 กินหญ้าเป็นอาหาร มีขนสั้นอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงในที่ราบโล่ง +จากข้อมูลข้อใดระบุไบโอมที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ชนิดที่ 1 และ2ได้ถูกต้องตามลำดับ","1. สะวันนาและ ทุนดรา +2. ทุนดราและ สะวันนา +3. ทุนด ราและ ป่าเขตร้อน +4. ป่าเขต ร้อนและทุนดรา +5. ป่าเขต ร้อน และ สะวันนา",2. ทุนดราและ สะวันนา,TRUE,TRUE,TRUE +2020,2,"พื้นที่หนึ่งมีลักษณะเป็นลานหินซึ่งไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่มาก่อนเมื่อเวลาผ่านไป +เกิดการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทำให้มีรอยแตกบนหินต่อมาจึงเริ่มมีสิ่งมีชีวิตชนิดแรก +เกิดขึ้นและพัฒนาจนกลายเป็นป่า + +ข้อใดเรียงลำดับสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นในพื้นที่นี้ตั้งแต่แรกเริ่มจนกลายเป็นป่าได้ถูกต้อง","1. ไลเคน หญ้า มอส ไม้ต้น ไม้พุ่ม +2. ไลเคน มอส หญ้า ไม้ต้น ไม้พุ่ม +3. ไลเคน มอส หญ้า ไม้พุ่ม ไม้ต้น +4. หญ้า ไลเคน มอสไม้พุ่ม ไม้ต้น +5. หญ้า ไม้พุ่ม ไม้ต้น มอส ไลเคน",3. ไลเคน มอส หญ้า ไม้พุ่ม ไม้ต้น,TRUE,TRUE,TRUE +2020,3,"ลักษณะการลำเลียงสารเข้าสู่เซลล์ของสาร A B และ C ขณะเริ่มต้น เป็นดังภาพ + +จากภาพ ข้อใดระบุรูปแบบและทิศทางการลำเลียงสารได้ถูกต้อง"," ชนิดของสาร รูปแบบการลำเลียงสาร ทิศทางการล่าเลียง + +1. สาร A การแพร่แบบฟาซิลิเทต ความเข้มข้นมาก ➜ น้อย +2. สาร A การแพร่แบบธรรมดา ความเข้มข้นมาก ➜ น้อย +3. สาร B การแพร่แบบฟาซิลิเทต ความเข้มข้นน้อย ➜ มาก +4. สาร B การแพร่แบบแอกทีฟทรานสปอร์ต ความเข้มข้นน้อย ➜ มาก +5. สาร C การแพร่แบบฟาซิลิเกต ความเข้มข้นมาก ➜ น้อย",2. สาร A การแพร่แบบธรรมดา ความเข้มข้นมาก ➜ น้อย,FALSE,TRUE,TRUE +2020,4,"ข้อใดกล่าวถึงการรักษาดุลยภาพของกรด เบสในเลือดได้ถูกต้อง +","1. ถ้าเลือดเป็นเบสอัตราการหายใจจะลดลง เพื่อลดปริมาณ H^+ +2. ถ้าเลือดเป็นเบส อัตราการหายใจจะเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มปริมาณ H^+ +3. ถ้าเลือดเป็นกรด อัตราการหายใจจะลดลง เพื่อเพิ่มปริมาณ CO2 +4. ถ้าเลือดเป็นกรด อัตราการหายใจจะเพิ่มขึ้นเพื่อลดปริมาณ CO2 +5. ถ้าเลือดเป็นกรด อัตราการหายใจจะลดลงเพื่อให้ปริมาณ CO₂ คงที",4. ถ้าเลือดเป็นกรด อัตราการหายใจจะเพิ่มขึ้นเพื่อลดปริมาณ CO2,TRUE,TRUE,TRUE +2020,5,"ชายคนหนึ่งตัดหญ้าในสนามฟุตบอลท่ามกลางอากาศร้อน จัด ที่มีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส +เป็นเวลา2ชั่วโมงโดยไม่หยุดพักทำให้ร่างกายของเขามีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ +จากสถานการณ์ข้อใดระบุกลไกที่ทำให้อุณหภูมิร่างกายของชายคนนี้กลับสู่สภาวะปกติได้ถูกต้อง","1. อัตราเมแทบอลิซึมลดลงหลอดเลือดบริเวณผิวหนังหดตัว +2. อัตราเมแทบอลิซึมเพิ่มขึ้นหลอดเลือดบริเวณผิวหนังหดตัว +3. อัตราเมแทบอลิซึมเพิ่มขึ้นหลอดเลือดบริเวณผิวหนังขยายตัว +4. อัตราเมแทบอลิซึมลดลง ต่อมเหงื่อมีการสร้างเหงื่อเพิ่มมากขึ้น +5. อัตราเมแทบอลิซึมเพิ่มขึ้น ต่อมเหงื่อมีการสร้างเหงื่อเพิ่มมาก ขึ้น",4. อัตราเมแทบอลิซึมลดลง ต่อมเหงื่อมีการสร้างเหงื่อเพิ่มมากขึ้น,TRUE,TRUE,TRUE +2020,6,"นักเรียนคนหนึ่งศึกษาสารอินทรีย์ในพืช A B และ C โดยบดพืชแต่ละชนิดให้ละเอียดผสมกับน้ำ +แล้วนำ ไปคั้นและกรองเพื่อนำ ของเหลวที่ได้ไปทดสอบด้วยวิธีการต่าง ๆได้ผลการทดสอบ ดังตาราง + การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อทดสอบด้วยวิธีการต่างๆ +พืช ทดสอบด้วย ทดสอบด้วย ถูบนกระดาษขาว + สารละลายไอโอดีน สารละลายใบยูเร็ต +A สารละลายสีน้ำเงินแกมม่วง สารละลายสีฟ้า กระดาษไม่โปร่งแสง +B สารละลายสีน้ำตาล สารละลายสีฟ้า กระดาษโปร่งแสงมากขึ้น +C สารละลายสีน้ำตาล สารละลายสีม่วง กระดาษไม่โปร่งแสง + + +จากผลการทดสอบ ข้อใดระบุแนวทางการนำพืชมาใช้ประโยชน์ได้ถูกต้อง","1. พืช A สามารถนำ มาสกัดได้สารที่นำ มาผลิตเป็นน้ำมันได้ +2. พืช B สามารถนำ มาทําผงแป้งประกอบอาหารได้ +3. พืช C สามารถนำ มาสกัดได้สารที่นำ มาผลิตเป็นอาหารเสริมโปรตีนได้ +4. พืช A และ B สามารถใช้เป็นแหล่งโปรตีนจากพืชได้ +5. พืช B และ C สามารถนำ มารับประทานทดแทน ข้าวได้",3. พืช C สามารถนำ มาสกัดได้สารที่นำ มาผลิตเป็นอาหารเสริมโปรตีนได้,TRUE,TRUE,TRUE +2020,7,"สาร X เป็นสารสังเคราะห์ที่มีสมบัติเหมือนฮอร์โมนพืชซึ่งมักพบบริเวณปลายยอดของพืชชนิดหนึ่ง +นักวิทยาศาสตร์ การศึกษาผลของสารชนิดนี้ในห้องมืดโดยการตัดส่วนยอดของพืชชนิดนี้ออก +จากนั้นนำชิ้นวุ้นที่มีสาร X ไปวางบนลำต้นของพืชส่วนที่ถูกตัดยอดออกดังภาพที่1 เมื่อตั้งทิ้งไว้ +พบว่าลำต้นพืชเกิดการเปลี่ยนแปลงดังภาพที่ 2 ในขณะที่ชุดการทดลองที่เป็นชุดควบคุมซึ่งวาง +ชิ้น วันที่ไม่มีสาร บนลำต้นพืชไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว + +กำหนดให้ลูกศรแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของสาร X +การตอบสนองของพืชในการทดลองนี้เป็นการตอบสนองของพืชต่อปัจจัยแบบใดและสารมีคุณสมบัติเหมือนฮอร์โมนพืชกลุ่มใด","1. ปัจจัยภายนอกและสาร X มีสมบัติเหมือนเอทิลีน +2. ปัจจัยภายนอกและสาร X มีสมบัติเหมือนออกซิน +3. ปัจจัยภายในและสาร X มีสมบัติเหมือนไซโทไคนิน +4. ปัจจัยภายในและสาร X มีสมบัติเหมือนจิบเบอเรลลิน +5. ปัจจัยภายใน และสาร X มีสมบัติเหมือนกรดแอบไซซิก",2. ปัจจัยภายนอกและสาร X มีสมบัติเหมือนออกซิน,FALSE,TRUE,TRUE +2020,8,"แผนผังแสดงข้อมูลหมู่เลือดระบบ ซึ่งควบคุมด้วยยีนบนออโตโซมและการเป็นโรค +ฮีโมฟีเลียซึ่งควบคุมด้วยแอลลีกด้อยบนโครโมโซม ของครอบครัวหนึ่ง เป็นดังนี้ + +ถ้าครอบครัวนี้ มีลูกคนที่ 4 จีโนไทป์แบบใดจะไม่มีโอกาสเกิดขึ้น +กำหนดให้ คือ แอลลี ลเด่นที่ ไม่ทำให้เป็นโรคฮี โมฟี เลีย และ 6 คือ แอลลี ลน้อยที่ทำให้ +เป็นโรคฮีโมฟิ เลีย","1. I^B iX^HX^h +2. I^AI^BX^hX^h +3. I^AI^AX^HX^H +4.I^BiXHY +5.iiXhY",3. I^AI^AX^HX^H,FALSE,TRUE,TRUE +2020,9,"แบบจำลองพอลินิวคลีโอไทด์สายหนึ่ง แสดงดังภาพ + + +ต่อมาพอลินิ วคลีโอไทด์สาย นี้เกิดมิวเทชันที่ทำให้ ไนโตรจีนัสเบสตำแหน่งที่ 5 เปลี่ยน เป็นกวานีน +ภายหลังการเกิดมิ เทชัน ได้มีการจำลองพอลินิวคลีโอไทด์คู่สายที่เกิดขึ้นใหม่ +ข้��ใดเป็นลำดับเบสในแบบจำลองของพอลินิวคลีโอไทด์คู่สายที่เกิด ขึ้นใหม่","1. CATGATCG +2. CATGGTCG +3. GTACGAGC +4. GTACTAGC +5. GTACCAGC",5. GTACCAGC,FALSE,TRUE,TRUE +2020,10,"ข้าวสีทองเกิดจากการปรับปรุงพันธุ์พืชโดยการตัดต่อยืนสังเคราะห์เบต้าแคโรทีนจากพืชชนิดอื่น +เข้าไปในจีโนมของข้าวเพื่อให้ข้าวที่ได้มีเบต้าแคโรทีนอยู่ภายใน เอนโดสเปิร์มทำให้ไม่มี +การสูญ เสียเบต้าแคโรทีนไปในระหว่างการขัดสี + +จากข้อมูลข้อใดคือวัตถุประสงค์ของการประยุกต์เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอในการสร้างข้าวสีทอง","1. เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ +2. เพื่อเพิ่มปริมาณ ผลผลิตของข้าว +3. เพื่อป้องกันการรบกวนจากศัตรูพืช +4. เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาผลผลิตข้าว +5. เพื่อเพิ่มความทนทานต่อสภาพอากาศ",1. เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ,TRUE,TRUE,TRUE +2020,11,"พิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับเลขมวลและจำนวนนิวตรอนของธาตุ X Y WและZ ดังนี้ +ธาตุ เลขมวล นิวตรอน + X 23 12 + Y 18 10 +W 27 14 + Z 16 8 +จากข้อมูลข้อใดกล่าวถูกต้อง","1. เลขอะตอมของ W เท่ากับ14 +2. Y กับ Z เป็นธาตุชนิดเดียวกัน +3. สัญลักษณ์นิวเคลียร์ของ X คือ 1223X +4. Z^2- ไอออนมีจํานวนโปรตอนเท่ากับ 6 +5.X^+ ไอออนกับอะตอม W มีจํานวนอิเล็กตรอนเท่ากัน +",2. Y กับ Z เป็นธาตุชนิดเดียวกัน,TRUE,TRUE,TRUE +2020,12,"กำหนดตำแหน่งของธาตุ 8 ชนิด ในตารางธาตุ เป็นดังนี้ + +จากข้อมูลข้อสรุปใดไม่ถูกต้อง","1. ธาตุ Q มีแนวโน้มรับอิเล็กตรอนเมื่อเกิดปฏิกิริยากับธาตุ Z +2. ธาตุ E มีสมบัติการนำไฟฟ้าได้ดีกว่าธาตุ แต่ไม่ดีเท่าธาตุ P +3. ธาตุ W E และ L มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนเท่ากับ 2 4 และ 6 ตามลำดับ +4. ธาตุ G มีสถานะเป็นแก๊สที่อยู่ในรูปอะตอมเดี่ยวและไม่ว่องไวต่อปฏิกิริยาเคมี +5. ธาตุ Z และ M มีสมบัติทางเคมีคล้ายกัน แต่ธาตุ Z อยู่ในคาบที่มีค่าตัวเลขมากกว่าธาตุ M ",5. ธาตุ Z และ M มีสมบัติทางเคมีคล้ายกัน แต่ธาตุ Z อยู่ในคาบที่มีค่าตัวเลขมากกว่าธาตุ M ,FALSE,TRUE,TRUE +2020,13,"สารประกอบไอออนิก A B C D และ E เกิดจากแรงยึดเหนี่ยวระหว่างไอออนบวกกับ ไอออนลบดังนี้ +สารประกอบไอออนิก ไอออนบวก ไอออนลบ + A Na^+ NO3- + B Al^3+ S^2- + C NH4+ SO4 + D Mg2+ PO4^3- + E Ca²+ CI^- +จากข้อมูลอัตราส่วนการรวมตัวของไอออนบวกต่อไอออนลบที่ทำให้เ��ิดสารประกอบไอออนิกในข้อใดถูกต้อง"," สารประกอบไอออนิก อัตราส่วนการรวมตัว +1. A 1 : 3 +2. B 3 : 2 +3. C 2 : 1 +4. D 4 : 1 +5. E 2 : 1",3. C 2 : 1,TRUE,TRUE,TRUE +2020,14,"สูตรโครงสร้างของสารประกอบอินทรีย์ A B C และ D เป็นดังนี้ + +จากข้อมูลข้อใดระบุสมบัติความเป็นกรด เบสของสารได้ถูกต้อง"," กรด เบส +1. สาร C สาร A +2. สาร B สาร C +3. สาร D สาร B +4. สาร C สาร D +5. สาร A สาร D",2. สาร B สาร C,FALSE,TRUE,TRUE +2020,15,"ข้อมูลแสดงสมบัติและผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ 4ชนิด เป็นดังตาราง +พอลิเมอร์ สมบัติ ผลิตภัณฑ์ + A แข็งเหนียวทนความร้อน ขวดนําดื่มแบบใส + B แข็งเปราะ นําหนักเบา ช้อนส้อมพลาสติก + C แข็งทนความร้อนสูง ปลั๊กไฟ + D เหนียวยืดหยุ่นโปร่งใส ถุงพลาสติกใส่ของเย็น + +จากข้อมูล ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง","1. พอลิเมอร์ A และ B มีโครงสร้างแบบเส้น +2. พอลิเมอร์ C และ D สามารถนำ มารีไซเคิลได้ +3. พอลิเมอร์ A มีจุดหลอมเหลวสูงกว่าพอลิเมอร์ D +4. พอลิเมอร์ B และ D เป็นพอลิเมอร์เทอร์มอพลาสติก +5. ตัวอย่างของพอลิเมอร์ D คือพอลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ",2. พอลิเมอร์ C และ D สามารถนำ มารีไซเคิลได้,TRUE,TRUE,TRUE +2020,16,"ธาตุ025กรัมท่าปฏิกิริยากับสารละลาย เข้มข้นร้อยละ040โดยมวลต่อปริมาตร +จำนวน10ลูกบาศก์เซนติเมตรที่อุณหภูมิ30 องศาเซลเซียสเกิดสารประกอบและธาตุ +โดยมีสมการเคมีที่ดุลแล้วเป็นดังนี้ +2A(s) + 2B(aq) ---> 2C(aq) + D(g +สมการเคมีแสดงด้วยแบบจำลองเปนดังนี้ + + +จากข้อมูลสารประกอบมีแบบจำลองแบบใดและภาวะการทดลองใดที่ทำให้ +อัตราการเกิดปฏิกิริยาเร็วขึ้น"," แบบจําลองของ + สารประกอบ C ภาวะการทดลอง +1. บดธาตุ เป็นผงละเอียด +2. บดธาตุ เป็นผงละเอียด +3. เพิ่มปริมาตรสารละลาย B เป็น 20 ลูกบาศก์เซนติเมตร +4. ใช้สารละลาย B เข้มข้นร้อยละ 0.50 โดยมวลต่อปริมาตร +5. ใช้สารละลาย B เข้มข้นร้อยละ 0.50 โดยมวลต่อปริมาตร",1. บดธาตุ เป็นผงละเอียด,FALSE,TRUE,TRUE +2020,17,"สารกัมมันตรังสี X มวล 100 กรัม เกิดการสลาย ดังกราฟ + +จากข้อมูล ถ้าเริ่มต้นมีสารก��มมันตรังสี X มวล 2000 กรัม และเมื่อเวลาผ่านไปพบว่า +สารกัมมันตรังสี X สลายไป 1875กรัม สารกัมมันตรังสี X ใช้เวลาในการสลายกี่วัน","1. 10 วัน +2. 19 วัน +3. 40 วัน +4. 60 วัน +5. 80 วัน",3. 40 วัน,FALSE,TRUE,TRUE +2020,18,"วัตถุหนึ่ึ่งเคลื่อนที่เป็นแนวตรง ซึ่งกราฟที่แสดงความเร็วของวัตถุที่เวลาต่างๆ เป็นดังนี้ + + +ข้อใดระบุเวลาที่วัตถุมีความเร่งเท่ากับศูนย์และระบุช่วงเวลาที่วัตถุมีความเร่งเฉลี่ย -2เมตรต่อวินาที^5 ได้ถูกต้อง"," เวลาที่ความเร่งมีค่าเท่ากับศูนย์ ช่วงเวลาที่มีความเร่งเฉลี่ย - 2 เมตรต่อวินาที^2 +1. ณ เวลา 3 วินาที ณ ช่วงเวลา 4-5 วินาที +2. ณ เวลา 3 วินาที ณ ช่วงเวลา 4-6 วินาที +3. ณ เวลา 6 วินาที ณ ช่วงเวลา 4-6 วินาที +4. ณ เวลา 6 วินาที ณ ช่วงเวลา 6-7 วินาที +5. ณ เวลา 8 วินาที ณ ช่วงเวลา 6-7 วินาที",5. ณ เวลา 8 วินาที ณ ช่วงเวลา 6-7 วินาที,FALSE,TRUE,TRUE +2020,19,"วัตถุ A และ B วางซ้อนกันบนพ้น ดังภาพโดยวัตถุ B มีน้ำหนัก ฃเแ็น 2 เท่าของวัตถุ A + +ข้อใดกล่าวถูกต้อง","1. แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุ A มีทิศทางขึ้น +2. แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุ B มีทิศทางขึ้น +3. แรงที่วัตถุ A กระทำต่อพื้นมีขนาดมากกว่าแรงที่วัตถุ A กระทำต่อวัตถุ B +4. แรงที่วัตถุ A กระทำต่อวัตถุ B มีทิศทางเดียวกับแรงที่วัตถุ A กระทำต่อพื้น +5. แรงที่วัตถุ A กระทำต่อวัตถุ B มีขนาดมากกว่าแรงที่วัตถุ B กระทำต่อวัตถุ A",3. แรงที่วัตถุ A กระทำต่อพื้นมีขนาดมากกว่าแรงที่วัตถุ A กระทำต่อวัตถุ B,FALSE,TRUE,TRUE +2020,20,"ครูวาดภาพจำลองโลกและด่วเทียม A และ B ที่โคจรรอบโลก โดยกำหนดให้ดาวเทียมทั้งสองมีมวลเท่ากัน และดาวเทียมแต่ละดวงเคลื่อนที่แบบวงกลมรอบโลกด้วยอีตราเร็วคงตัว + + +ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับการโคจรของดาวเทียมในแผนภาพข้างต้น ซึ่งนักเรียน 3 คนกล่าวดังนี้ +ไก่ : ขณะดาวเทียม A โคจรรอบโลกจะมีความเร่งในทิศทางตั้งฉากกับแรงที่โลกดึงดูดดาวเทียม A +ไข่ : อัตราเร็วในวงโคจรของดาวเทียม A น้อยกว่าของดาวเทียม B +คม : แรงโน้มถ่วงระหว่างดาวเทียม B กับโลกมีขนาดน้อยกว่าแรงโน้มถ่วงระหว่างดาวเทียม A กับโลก +นักเรียนคนใดกล่าวถูกต้อง","1. ไก่ เท่านั้น +2. ไข่ เท่านั้น +3. คม เท่านั้น +4. ไก่และไข่เท่านั้น +5. ไข่และคมเท่าน��้น",2. ไข่ เท่านั้น,FALSE,TRUE,TRUE +2020,21,"อิเล็กตรอนกำลังเคลื่อนที่เป็นแนวตรงจากจุด O ไปยังจุด A ตามแกน Y ดังภาพในมุมมองสามมิติ + + +จากภาพถ้าต้องการให้อิเล็กตรอนเบนเข้าหาผนังโดยใช้สนามแม่เหล็กสนามแม่เหล็ก +ต้องมีทิศทางใด","1. ทิศพุ่งออกตามแกน +2. ทิศพุ่งเข้าสวนทางกับแกน +3. ทิศพุ่งขึ้นตามแกน +4. ทิศพุ่งลงสวนทางกับแกน +5. ทิศพุ่งไปทางซ้ายสวนทางกับแกน","3. ทิศพุ่งขึ้นตามแกน +",FALSE,TRUE,TRUE +2020,22,"ปฏิกิริยานิวเคลียร์หนึ่งเกิดโดยนิวเคลียสทั้งต้น2นิวเคลียสรวมตัวกันกลายเป็นนิวเคลียสของ +ฮีเลียม(42He) พร้อมกับปลดปล่อยโปรตอน(11H) จำนวน 2 อนุภาคและพลังงาน (0.001M)c^2 +เมื่อ M คือ มวลรวมของนิวเคลียสหลังเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ + c คืออัตราเร็วของแสงในสุญญากาศ +ข้อใดแสดงสมการที่สอดคล้องกับปฏิกิริยาข้างต้น และมวลรวมของนิวเคลียสก่อนเกิดปฏิกิริยา +ได้ถูกต้อง"," สมการของปฏิกิริยา มวลรวมก่อนเกิดปฏิกิริยา +1. 21H + 32He → 42He + 2(¦H) 0.999M +2. 21H + 32He → 42He + 2(¦H) 1.001M +3. ²¦HHe + 32He → 42He + 2(¦H) 0.999M +4. ²¦HHe + 32He → 42He + 2(¦H) 1.001M +5. ²¦HHe + 32He → 42He + 2(¦H) 0.999M",4. ²¦HHe + 32He → 42He + 2(¦H) 1.001M,TRUE,TRUE,TRUE +2020,23,"ทดลองปรับชุดอุปกรณ์แผงเซลล์สุริยะดังภาพ + +โดยปรับขนาดของมุมระหว่างกระจกเงากับพื้น 8 ให้มีค่าแตกต่างกันวัดความเข้มแสง +ที่ตกกระทบบนแผงเซลล์สุริยะได้ผลดังตาราง +ความเข้มแสง + o (องศา) วัตต์ต่อตารางเมตร + 90 750 + 80 794 + 70 810 + 60 806 + 50 798 +ถ้ามุม o มีค่าคงตัวความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มแสงกับพลังงานไฟฟ้าที่แผงเซลล์สุริยะ +และถ้ามีแผงเซลล์สุริยะชุดหนึ่งที่มีอุปกรณ์และการติดตั้งเหมือนดังภาพผลิตได้เป็นอย่างไร +แต่กระจกเงาทำ มุมกับพื้น 60 องศา อยู่ก่อนแล้ว ควรทดลองปรับกระจกเงาอย่างไร +เพื่อหาขนาดของมุม o ที่เพิ่มประสิทธิภาพ ของแผงเซลล์สุริยะได้มากที่สุด"," ความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มแสงกับพลังงานไฟฟ้า การทดลองปรับกระจกเงา + +1. ความสัมพันธ์แบบทิศทางเดียวกัน ลด o ให้มีค่าระหว่าง 50 - 60 องศา +2. ความสัมพันธ์แบบทิศทางตรงข้ามกัน ลด o ให้มีค่าระหว่าง 50 - 60 องศา +3. ความสัมพันธ์แบบทิศทางตรงข้ามกัน ไม่ต้องปรับมุม o อีก +4. ความสัมพันธ์แบบทิศทางตรงข้ามกัน เพิ่ม o ให้มีค่าระหว่าง 60 - 80 องศา +5. ความสัมพันธ์แบบทิศทางเดียวกัน เพิ่ม o ให้มีค่าระหว่าง 60 - 80 องศา",5. ความสัมพันธ์แบบทิศทางเดียวกัน เพิ่ม o ให้มีค่าระหว่าง 60 - 80 องศา,FALSE,TRUE,TRUE +2020,24,"คลื่นสองคลื่นเคลื่อนที่เข้าหากัน +โดยแต่ละคลีนมีอัตราเร็ว010 เมตรต่อวินาที +ซึ่งภาพแสดงคลื่นที่เกิดจากการรวมกัน +ณเวลา13วินาทีเป็นดังนี้ + +ข้อใดแสดงภาพคลื่น ณ เวลา t = 3 วินาทีได้ถูกต้อง","1. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบเสริม +2. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบเสริม +3. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบหักล้าง +4. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบหักล้าง +5. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบเสริม",4. ณ t = 3 วินาที คลื่นในภาพนี้จะเกิดการรวมคลื่นแบบหักล้าง,FALSE,TRUE,TRUE +2020,25,"กำหนดให้แสงสีมีความยาวคลื่นดังตาราง และการผสมแสงสีปฐมภูมิเป็นดังภาพ + +วัตถุชิ้นหนึ่งสามารถดูดกลืนแสงสีที่มีความยาวคลื่น400 550นาโนเมตร วัตถุดังกล่าวมีสาร ใด +และถ้าคนตาปกติมองวัตถุชิ้นนี้ภายใต้แสงขาวเซลล์รูปกรวยชนิดที่มีความ ไวสูงสุดต่อแสงสีใด +จะถูกกระตุ้น"," สีของวัตถุ เซลล์รูปกรวยที่จะถูกกระตุ้น +1. เหลือง เหลือง +2. เหลือง แดงและ เขียว +3. นํ้าเงิน นํ้าเงิน +4. น้ำเงิน แดงและเขียว +5. แดง น้ำเงิน และเขียว",2. เหลือง แดงและ เขียว,FALSE,TRUE,TRUE +2020,26,"สายลับคนหนึ่งมีรีโมทที่สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ X ได้โดยใช้รังสีอินฟราเรด +ความถี่ค่าหนึ่ง แต่สายลับพบว่าอุปกรณ์ X ถูกเก็บอยู่ในกล่องแก้วบางที่ภายในกล่องเป็น +สูญญากาศ +จากสถานการณ์ พิจารณาข้อความต่อไปนี้ +A. รีโมทของสายลับสามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ X จากภายนอกกล่องได้ +B. รังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ในอากาศนอกกล่องด้วยอัตราเร็วมากกว่าภายในเนื้อแก้ว +จากข้อมูลข้อความใดไม่ถูกต้อง เพราะเหตุใด","1. A ไม่ถูกต้อง เพราะรีโมทไม่สามารถควบคุมอุปกรณ์ X ได้เนื่องจากรังสีอินฟราเรดไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ในสุญญากาศ +2. B ไม่ถูกต้อง เพราะรีโมทไม่สามารถควบคุมอุปกรณ์ X ได้เนื่องจากเมื่อรังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่เข้าสู่สุญญากาศ ความถี่จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม +3. B ไม่ถูกต้องเพราะรังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ภายในเนื้อแก้วได้เร็วกว่าในอากาศ +4. B ไม่ถูกต้องเพราะรังสีอินฟราเรดเคลื่อนที่ภายในเนื้อแก้วและในอากาศด้วยอัตราเร็วเท่ากัน +5. ไม่มี เพราะถูกต้องทั้ง A และ B ",5. ไม่มี เพราะถูกต้องทั้ง A และ B ,TRUE,TRUE,TRUE +2020,27,"กราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่าความเร็วของกาแล็กซี A B C และ D ในการเคลื่อนที่ิออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือกกับระยะทางระหว่างกาแล็กซีทางเผือกดังภาพ + +จากภาพ ข้อความใดไม่ถูกต้อง","1. กาแล็กซี A อยู่ห่างจากกาแล็กซีทางช้างเผือกน้อยกว่ากาแล็กซี่ B +2. เมื่อเวลาผ่านไปกาแล็กซี C จะอยู่ใกล้กาแล็กซี D มากขึ้น +3. เมื่อเวลาผ่านไปกาแล็กซี Cจะอยู่ห่างจากกาแล็กซีทางช้างเผือกมากกว่า 1.5 Mpe +4. เมื่อเวลาผ่านไป กาแล็กซี B จะมีความเร็วในการเคลื่อนที่ออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือกเพิ่มขึ้น +5. เมื่อเวลาผ่านไปกาแล็กซี A และ D จะมีความเร็วในการเคลื่อนที่ออกจากกาแล็กซีทางช้างเผือกเพิ่มขึ้นแต่กาแล็กซี A ยังคงมีความเร็วน้อยกว่ากาแล็กซี D ",2. เมื่อเวลาผ่านไปกาแล็กซี C จะอยู่ใกล้กาแล็กซี D มากขึ้น,FALSE,TRUE,TRUE +2020,28,"ข้อมูลมวลของดาวฤกษ์ก่อนเกิด5ดวงเทียบกับมวลดวงอาทิตย์เป็นดังตาราง + +ดาวฤกษ์ก่อนเกิด มวลของดาวฤกษ์ก่อนเกิดเทียบกับมวลดวงอาทิตย์ + (เท่า) + A 40.0 + B 4.2 + C 3.5 + D 1.4 + E 15.5 +จากข้อมูล ข้อใดระบุดาวฤกษ์ก่อนเกิดที่เมื่อจบชีวิตจะเกิดซูเปอร์โนวาและอายุขัยของดาวฤกษ์ดวงดังกล่าวเมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ได้ถูกต้อง +"," ดาวฤกษ์ก่อนเกิดที่เมื่อจบชีวิต อายุขัยของดาวฤกษ์ดวงดังกล่าว + จะเกิดซูเปอร์โนวา เมื่อเทียบกับดวงอาทิตย์ +1. A ยาวกว่า +2. B สั้นกว่า +3. C ยาวกว่า +4. D ใกล้เคียงกัน +5. E สั้นกว่า",5. E สั้นกว่า,TRUE,TRUE,TRUE +2020,29,"เมื่อไม่นานมานี้นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่นอกระบบสุริยะ ที่มีขนาดและ +ลักษณะคล้ายโลกมากที่สุดดาวเคราะห์ดวงนี้ชื่อว่า“Kepler-1649c ”เป็นดาวเคราะห์หินที่มี +รัศมีเป็น 1.06 เท่าของโลกอยู่ห่างจากโลกประมาณ300ปีแสงโคจรรอบดาวฤกษ์นอกระบบสุริยะ +มีวงโคจรใกล้กับดาวฤกษ์ดวงแม่และได้รับพลังงานจากดาวฤกษ์ดวงแม่ใกล้เคียงกับพลังงาน +ที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์นับเป็นครั้งแรกที่มีการค้นพบดาวเคราะห์ที่มีขนาดใกล้เคียงกับโลก +และอยู่ในเขตเอื้อชีวิตต่อสิ่งมีชีวิตแบบเดียวกับโลก +จากข้อมูล ข้อใดเป็นสาเหตุที่นักดาราศาสตร์จัดดาวเคราะห์ Kepler-1649c เป็นดาวเคราะห์ +ที่อยู่ในบริเวณเขตที่อาจเอื้อชีวิตต่อสิ่งมีชีวิตแบบเดียวกับโลก +","1. มีขนาดใกล้เคียงกับโลก +2. เป็นดาวเคราะห์หินเช่นเดียวกับโลก +3. มีระยะห่างจากโลกประมาณ300ปีแสง +4. โคจรรอบดาวฤกษ์ศูนย์กลางเช่นเดียวกับโลก +5. ได้รับพลังงานจากดาวฤกษ์ดวงแม่ใกล้เคียงกับพลังงานที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์",5. ได้รับพลังงานจากดาวฤกษ์ดวงแม่ใกล้เคียงกับพลังงานที่โลกได้รับจากดวงอาทิตย์,TRUE,TRUE,TRUE +2020,30,"ภาพแสดงแนวรอยต่อของแผ่นธรณีและทิศทางการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีต่าง ๆ บนโลก เป็นดังนี้ + + +จากภาพเหตุการณ์ใดต่อนี้ไม่มีโอกาศเกิดขึ้นจริง","1. พบแนวรอยเลื่อนขนาดใหญ่ที่บริเวณ +2. พบการปะทุ ของภูเขาไฟใต้ทะเลที่บริเวณ +3. เกิดพื้นมหาสมุทรใหม่ที่เป็นหินบะซอลต์ขึ้นที่บริเวณ +4. เกิดธรณี สัณฐาน ที่เป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ รูปโค้งขึ้นที่บริเวณ +5. ตรวจสอบพบว่าการเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้ง มีศูนย์เกิดแผ่นดินไหวที่บริเวณ ",4. เกิดธรณี สัณฐาน ที่เป็นหมู่เกาะภูเขาไฟ รูปโค้งขึ้นที่บริเวณ ,TRUE,TRUE,TRUE +2020,31,"คลื่นสึนามิที่สร้างความเสียหายต่อพื้นที่คาบสมุทรแห่งหนึ่งเกิดภายหลังการเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล +บริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณีมหาสุมทร ดังภาพโดยเป็นตำแหน่งศูนย์เกิดแผ่นดินไหว +และเป็นตำแหน่งพื้นที่ชายฝั่งน้ำ ตื้นแห่งหนึ่งของคาบสมุทร + +ถ้าเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลเวลา930 น และมีประกาศแจ้งเตือนภัยสึ นามิเวลา1000 น + และหลังจากประกาศแจ้งเตือนภัยเป็นเวลานานเท่าใดที่คลื่���สึนามิจะเคลื่อนที่ถึงตำแหน่ง +ลักษณะของคลื่นสึนามิขณะอยู่ใกล้ชายฝั่งจะเปลี่ยนแปลงไปจากขณะอยู่กลางมหาสมุทรอย่างไร","ระยะเวลาที่คลื่นสึนามิ ลักษณะของคลื่นสึนามิขณะอยู่ใกล้ชายฝั่ง +เคลื่อนที่ถึงตำแหน่ง B เปรียบเทียบกับขณะอยู่กลางมหาสมุทร +หลังจากประกาศแจ้งเตือนภัย ความยาวคลื่น ความเร็วคลื่น +1. 3 ชั่วโมง30นาที ลดลง ลดลง +2. 4ชั่วโมง เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น +3. 3 ชั่วโมง 30 นาที เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น +4. 4 ชั่วโมง เพิ่มขึ้น ลดลง +5. 3 ชั่วโมง 30 นาที ลดลง เพิ่มขึ้น","หลังจากประกาศแจ้งเตือนภัย ความยาวคลื่น ความเร็วคลื่น +1. 3 ชั่วโมง30นาที ลดลง ลดลง",FALSE,TRUE,TRUE +2020,32,ตำแหน่งของเมือง A B C D และ E บริเวณชายฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิก และทิศทางการหมุนเวียนของน้ำผิวหน้ามหาสมุทรของโลก ,"จากภาพ ข้อใดอธิบายเกี่ยวกับกระแสน้ำ ผิวหน้าในมหาสมุทร และอิทธิพลของกระแสน้ำ ผิวหน้า +ในมหาสมุทรที่ส่งผลต่อภูมิอากาศไม่ถูกต้อง +1. ในสภาวะปกติ เมือง C แห้งแล้งกว่าเมือง B +2. เมือง D มีอุณหภูมิอากาศเฉลี่ยสูงกว่าเมือง E +3. เมือง E มีปริมาณ น้ำฝนเฉลี่ยน้อยกว่าเมือง D +4. กระแสน้ำ X เป็นกระแสน้ำ อุ่น เช่นเดียวกับกระแสน้ำ Y +5. เมือง A ได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำ เย็นเช่นเดียวกับเมือง E",4. กระแสน้ำ X เป็นกระแสน้ำ อุ่น เช่นเดียวกับกระแสน้ำ Y,FALSE,TRUE,TRUE +2020,33,"จากการศึกษาแผนที่อากาศผิวพื้นของพื้นที่ในซีกโลกเหนือ 3 บริเวณ ของเช้าวันหนึ่งปรากฎสัญลักษณ์แสดงสภาพลมฟ้าอากาศบริเวณกว้างบนแผนที่อากาศผิวพื้น ดังนี้ + + + +ข้อใดที่คนอาศัยอยู่ในพื้นที่มีการวางแผนรับมือได้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศทั้ง 3 บริเวณประเทศไทย ตอนบนของประเทศจีน ตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น","ข้อใดที่คนอาศัยอยู่ในพื้นที่มีการวางแผนรับมือได้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศทั้ง 3บริเวณ + ประเทศไทย ตอนบนของประเทศจีน ตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น +1. เตรียมอุปกรณ์กันหนาว เตรียมอุปกรณ์กันฝน เตรียมอุปกรณ์กันหนาว +2. เตรียมอุปกรณ์กันหนาว เตรียมอุปกรณ์กันหนาว เตรียมรับมือกับแผ่นดินถล่ม +3. เตรียมอุปกรณ์กันหนาว เตรียมรับมือกับอุทกภัย หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง +4. เตรียมอุปกรณ์กันฝน เตรียมอุปกรณ์กันหนาว หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเรือ +5. เตรียมรับมือกับอุทกภัย เตรียมอุปกรณ์กันหนาว เตรียมอุปกรณ์กันหนาว ",4. เตรียมอุปกรณ์กันฝน เตรียมอุปกรณ์กันหนาว หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยเรือ,FALSE,TRUE,TRUE +2020,34,"การแก้ปัญหาดินเปรี้ยวโดยวิธีการแกล้งดินเริ่มจากการใส่น้ำ และปล่อยน้ำ ออกสลับกันไปมา +ทำให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไปเพื่อทำให้ดินเป็นกรดมากที่สุดจนพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ +จากนั้นจึงปรับปรุงดินดังกล่าวโดยใส่ปูนขาวที่มีสภาพเป็นเบสผสมคลุกเคล้ากับหน้าดิน +จนดินมีสภาพเป็นกลาง ก็จะทำให้สามารถปลูกพืชได้ + +สถานการณ์ดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นการทํางานของระบบทางเทคโนโลยี งประกอบด้วย +ตัวป้อน กระบวนการ ผลผลิต และข้อมูลย้อนกลับของการแก้ปัญหาดินเปรี้ยว + +ข้อใดเป็นกระบวนการการแก้ปัญหาดินเปรี้ยวโดย วิธีการแกล้งดินได้ถูกต้องและครบถ้วนที่สุด","1. การลดความเป็นกรดของดิน +2. การปรับดินให้มีความเป็นกรด +3. การทําให้ดินแห้งและเปียกสลับกันไป +4. การใส่ปูนขาวเพื่อทำให้ดินมีสภาพเป็นกลาง +5. การปรับดินให้มีความเป็นกรดมากที่สุดแล้วปรับสภาพให้เป็นกลาง",5. การปรับดินให้มีความเป็นกรดมากที่สุดแล้วปรับสภาพให้เป็นกลาง,TRUE,TRUE,TRUE +2020,35,"ในช่วงฤดูฝนของประเทศไทยพบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกโดยมียุงลายเป็นพาหะ +กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจึงแนะนำ ให้ประชาชนปิดครอบหรือทำลายภาชนะที่มี +น้ำขังซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง +นักเรียนกลุ่มหนึ่งมีแนวคิดในการสร้างเครื่องดักยุง จึงได้รวบรวมข้อมูลวางแผนและ +ดำเนินการสร้างจากนั้นทดสอบประสิทธิภาพปรับปรุงแก้ไขและนำ เสนอในงานสัปดาห์ +วิทยาศาสตร์ของโรงเรียน +ข้อใดแสดงการทํางานตามกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมในขั้นการทดสอบประสิทธิภาพ +ของเครื่องดักยุง","1. ประกอบเครื่องดักยุงตามแบบที่ร่างไว้โดยใช้วัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่น +2. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับยุงแหล่���เพาะพันธุ์และเครื่องดักยุงในท้องตลาด +3. ร่างภาพเครื่องดักยุงจากข้อมูลที่สืบค้นและรวบรวมได้จากอินเทอร์เน็ต +4. วางเครื่องดักยุงไว้ข้างบ้านในช่วงกลางวันและช่วงเย็นและนับจำนวนยุงที่ดักได้ +5. ตรวจพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูฝนที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก",4. วางเครื่องดักยุงไว้ข้างบ้านในช่วงกลางวันและช่วงเย็นและนับจำนวนยุงที่ดักได้,TRUE,TRUE,TRUE +2020,36," บริษัทผู้ให้บริการส่งอาหารมีหลักเกณฑ์การคิดค่าบริการตามระยะทางจากร้านอาหารไปยัง +ที่อยู่ของลูกค้าดังนี้ + +ถ้าระยะทางไม่เกิน 6 กิโลเมตร คิดค่าส่ง 10 บาทแต่ถ้าระยะทางเกิน6กิโลเมตรจะคิดค่าส่ง +เริ่มต้นที่ 55 บาท และเพิ่มขึ้น 7บาทในทุกๆกิโลเมตรถัดไป +หากต้องทำ โครงงานเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันการคิดค่าบริการส่งอาหารของบริษัท +ข้อใดระบุข้อมูลเข้าข้อมูลออก และเงื่อนไขในการคำนวณสำหรับสร้างแอปพลิเคชันข้างต้น +ได้ถูกต้อง"," ข้อมูลเข้า (Input) ข้อมูลออก (Output) เงื่อนไขในการคํานวณ + +1. ระยะทางจากร้านอาหารถึงที่อยู่ของลูกค้า ระยะเวลาในการส่งอาหาร ไม่มี + + +2. ที่อยู่ของร้านอาหารและลูกค้า ระยะทาง ระยะทางมากกว่า 6 กิโลเมตร + +3. ระยะทางจากร้านอาหารถึงที่อยู่ของลูกค้า ค่าบริการส่งอาหาร ระยะทางน้อยกว่าหรือเท่ากับ6กิโลเมตร + +4. ความเร็วในการให้บริการส่งอาหาร ค่าบริการส่งอาหาร ระยะทางน้อยกว่าหรือเท่ากับ 6 กิโลเมตร + +5. ค่าบริการส่งอาหาร ระยะทางจากร้านอาหารถึงที่อยู่ของลูกค้า ไม่มี",3. ระยะทางจากร้านอาหารถึงที่อยู่ของลูกค้า ค่าบริการส่งอาหาร ระยะทางน้อยกว่าหรือเท่ากับ6กิโลเมตร,TRUE,TRUE,TRUE +2020,37,"นักเรียนกลุ่มหนึ่งต้องการวิเคราะห์ข้อมูลจากปริมาณ ฝุ่นละออง PM 10และ PM 2.5 ในจังหวัดทางภาคเหนือตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 โดยสมาชิกในกลุ่มแต่ละคนแยกกันหาข้อมูล +สมาชิกในกลุ่มคนใดต่อไปนี้เลือกข้อมูลที่จะนำ มาวิเคราะห์ได้เหมาะสมที่สุด","1. กาสะลองเลือกใช้ข้อมูลปริมาณ ฝุ่นละอองขนาดเล็กจากเว็บไซต์ขายหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 ที่ไม่ได้มีการอ้างอิงแหล่งข้อมูล +2. เดซี่ดาวน์โหลดข้อมูลสภาพอา���าศในภาคเหนือย้อนหลัง 5 ปีจากกรมอุตุนิยมวิทยาที่มีข้อมูลอุณหภูมิความกดอากาศความชื้นสัมพัทธ์ความเร็วลมและปริมาณน้ำ ฝน +3. ชวนชมดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลคุณภาพอากาศประเทศไทย PM 10 รายชั่วโมง พ.ศ.2557 +ของกรมควบคุมมลพิษจากเว็บไซต์บริการข้อมูลเปิดภาครัฐ (Open Government Data) +ภายใต้ชื่อ data.go.th +4. ลิลลี่เลือกใช้ข้อมูลปริมาณฝุ่นละอองจากเครื่องมือวัดฝุ่นละออง PM 10 และ PM2.5 +ที่ประดิษฐ์ขึ้นเองในการทำ โครงงานวิทยาศาสตร์ และวัดปริมาณ ฝุ่นละอองจากหลังบ้าน +ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเวลา 1ปี +5. ดาหลาเลือกใช้ข้อมูลปริมาณฝุ่นละอองPM10และ PM2.5จากเว็บไซต์รายงาน +สถานการณ์และคุณภาพอากาศประเทศไทยของกรมควบคุมมลพิษที่มีรายงานคุณภาพ +อากาศทั่วประเทศและสามารถดูข้อมูลแบบเรียลไทม์และย้อนหลังได้ถึงปีพศ 2557","5. ดาหลาเลือกใช้ข้อมูลปริมาณฝุ่นละอองPM10และ PM2.5จากเว็บไซต์รายงาน +สถานการณ์และคุณภาพอากาศประเทศไทยของกรมควบคุมมลพิษที่มีรายงานคุณภาพ +อากาศทั่วประเทศและสามารถดูข้อมูลแบบเรียลไทม์และย้อนหลังได้ถึงปีพศ 2557",TRUE,TRUE,TRUE +2020,38,บุคคลใดนำเสนอและแบ่งปันข้อมูลออนไลน์ได้อย่างเหมาะสมที่สุด,"1. โต๊ะเขียนบล็อกเรื่องกิจกรรมที่ทำ ในช่วงกักตัวที่โรงแรม14 วัน หลังจากกลับจากต่างประเทศ +2. นำคำคมที่คิดขึ้นเองมาใส่ในรูปภาพนักร้องที่ตนเองชอบแล้วโพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ +3. วานำ ข้อมูลสถิติภาค รัฐมาทำเป็นอินโฟกราฟฟิกและนําเสนอในบล็อกโดยไม่มีการอ้างอิง +ที่มาของข้อมูล +4. อาร์อัปโหลดวิดีโอจากกล้องหน้ารถของตนเองที่บันทึกภาพอุบัติเหตุลงสื่อสังคมออนไลน์ +โดยไม่ได้เบลอภาพเลขทะเบียนรถและผู้บาดเจ็บ +5. เพิร์ลโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับชื่อและสถานที่ทำงานของผู้ป่วย COVID-19 +ที่ติดเชื้อรายล่าสุดในจังหวัดของตนเองเพื่อให้คนที่เกี่ยวข้องทำการกักตัว",1. โต๊ะเขียนบล็อกเรื่องกิจกรรมที่ทำ ในช่วงกักตัวที่โรงแรม14 วัน หลังจากกลับจากต่างประเทศ,TRUE,TRUE,TRUE +2020,39.1,"เมื่อเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย ร่างกาย จะสร้างแอนติบอดี 2ช นิดโดยชนิดที่ 1 ร่างกายจะ +สร้างขึ้นในช่วงแรกของการติดเชื้อ ส่วนชนิดที่ 2 ร่างกายจะสร้างขึ้นในช่วงท้ายของการติดเชื้อ +และจะคงอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่ง +กราฟจำลองระดับของแอนติเจนและแอนติบอดีในร่างกายของผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ตั้งแต่ร่างกายเริ่มได้รับเชื้อจนหายเป็นปกติ เป้นดังนี้ +จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +การสร้างแอนติบอดีทั้ง 2 ชนิด เป็นกลไกการทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จำเพาะของร่างกาย","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,39.2,"เมื่อเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย ร่างกาย จะสร้างแอนติบอดี 2ช นิดโดยชนิดที่ 1 ร่างกายจะ +สร้างขึ้นในช่วงแรกของการติดเชื้อ ส่วนชนิดที่ 2 ร่างกายจะสร้างขึ้นในช่วงท้ายของการติดเชื้อ +และจะคงอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่ง +กราฟจำลองระดับของแอนติเจนและแอนติบอดีในร่างกายของผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ตั้งแต่ร่างกายเริ่มได้รับเชื้อจนหายเป็นปกติ เป้นดังนี้ +จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + + +หลังจากวันที่ 14 ปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกายจะเริ่มลดลง","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,39.3,"เมื่อเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งเข้าสู่ร่างกาย ร่างกาย จะสร้างแอนติบอดี 2ช นิดโดยชนิดที่ 1 ร่างกายจะ +สร้างขึ้นในช่วงแรกของการติดเชื้อ ส่วนชนิดที่ 2 ร่างกายจะสร้างขึ้นในช่วงท้ายของการติดเชื้อ +และจะคงอยู่ในร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่ง +กราฟจำลองระดับของแอนติเจนและแอนติบอดีในร่างกายของผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ตั้งแต่ร่างกายเริ่มได้รับเชื้อจนหายเป็นปกติ เป้นดังนี้ +จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,40.1,"สารประกอบอินทรีย์ 3 ชนิดมีมวลของโลเลกุลเท่ากัน และมีสูตรโครงสร้าง ดังนี้ +จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับสารประกอบอินทรีย์ต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +สาร X มีจุดเดือดสุงกว่าสาร Y และสาร Z ","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,40.2,"สารประกอบอินทรีย์ 3 ชนิดมีมวลของโลเลกุลเท่ากัน และมีสูตรโครงสร้าง ดังนี้ +จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับสารประกอบอินทรีย์ต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +สาร X สามารถละลายน้ำได้เพราะสร้างพันธะไฮโดรเจนกับน้ำซึ่งเป้นแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโลเลกุล","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,40.3,"สารประกอบอินทรีย์ 3 ชนิดมีมวลของโลเลกุลเท่ากัน และมีสูตรโครงสร้าง ดังนี้ +จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับสารประกอบอินทรีย์ต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +สาร Y และสาร Z มีจำนวนคู่อิเล็กตรอนที่ใช้ร่วมกันในการสร้างพันธะโคเวเลนต์ทั้งหมดภายในโมเลกุลไม่เท่ากัน","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,41.1,"ติณ ทําการทดลองเพื่อทดสอบการได้ยินของตนเองโดยตั้งค่าให้แหล่งกำเนิดเสียงมีระดับเสียง +คงตัวที่ 20 เดซิเบล และค่อย ๆปรับลดความถี่ของเสียงจาก 2000 เฮิรตซ์ จนถึง 20 เฮิรตซ์ +กำหนดให้ ความสัมพันธ์ระหว่างระดับเสียงกับความถี่ที่ติณ ได้ยิน แสดงดังภาพ +จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถุกต้องใช่หรือไม่ + +ในการทดลองนี้ถ้าให้ระดับเสียงคงตัวที่20เดซิเบลเมื่อเริ่มต้นทดลอง ติณ จะไม่ได้ยินเสียงแต่เมื่อปรับความถี่ให้ต่ำ ลงเรื่อยๆติณ จะเริ่มได้ยินเสียง","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,41.2,"ติณ ทําการทดลองเพื่อทดสอบการได้ยินของตนเองโดยตั้งค่าให้แหล่งกำเนิดเสียงมีระดับเสียง +คงตัวที่ 20 เดซิเบล และค่อย ๆปรับลดความถี่ของเสียงจาก 2000 เฮิรตซ์ จนถึง 20 เฮิรตซ์ +กำหนดให้ ความสัมพันธ์ระหว่างระดับเสียงกับความถี่ที่ติณ ได้ยิน แสดงดังภาพ +จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถุกต้องใช่หรือไม่ + +ในการทดลองนี้ที่ช่วงความถี่20 40เฮิรตซ์คุณจะได้ยินเสียง +ถ้าหลังจากทดลองเสร็จแล้วติณบังเอิญกดปุ่มปรับแหล่งกำเนิดเสียง +","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,41.3,"ติณ ทําการทดลองเพื่อทดสอบการได้ยินของตนเองโดยตั้งค่าให้แหล่งกำเนิดเสียงมีระดับเสียง +คงตัวที่ 20 เดซิเบล และค่อย ๆปรับลดความถี่ของเสียงจาก 2000 เฮิรตซ์ จนถึง 20 เฮิรตซ์ +กำหนดให้ ความสัมพันธ์ระหว่างระดับเสียงกับความถี่ที่ติณ ได้ยิน แสดงดังภาพ +จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถุกต้องใช่หรือไม่ + +ผิดพลาดทําให้เกิดเสียงความถี่ 100เฮิรตซ์ ระดับเสียง 120เดซิเบลซึ่งเมื่อติณได้ยินเสียงนี้จะเจ็บปวดที่หูในทันที4","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",2.ไม่ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,42.1,"ภาพแสดงตำแหน่งของเมือง X Y และ Z ที่ตั้งอยู่ ณ ละติจูดต่าง ๆ ของซีกโลกเหลือ เป็นดังนี้ +จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +ถ้าเมือง Y อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง X การบินของนกอพยพ +จากเมือง X ไปยังเมือง Y และบินกลับโดยใช้เส้นทางเดียวกันและ +บินด้วยอัตราเร็วเฉลี่ยเท่ากัน การเดินทางเที่ยวไปจะใช้ระยะเวลา +มากกว่าเที่ยวกลับ","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,42.2,"ภาพแสดงตำแหน่งของเมือง X Y และ Z ที่ตั้งอยู่ ณ ละติจูดต่าง ๆ ของซีกโลกเหลือ เป็นดังนี้ +จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +เมือง Z จะมีโอกาสพบเมฆคิวมูลัสเมฆคิวมูโลนิมบัสและเกิด +ฝนฟ้าคะนองได้มากกว่าเมือง Y","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2020,42.3,"ภาพแสดงตำแหน่งของเมือง X Y และ Z ที่ตั้งอยู่ ณ ละติจูดต่าง ๆ ของซีกโลกเหลือ เป็นดังนี้ +จากข้อมูล ข้อความต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +เมือง X ตั้งอยู่ บริเวณความกดอากาศต่ำ และได้รับอิทธิพลจาก +ลมตะวันออกเช่นเดียวกับเมือง Z ","1.ใช่ +2.ไม่ใช่",1.ใช่,FALSE,TRUE,TRUE +2019,1,"ภาพแสดงการลำเลียงสารผ่านเซลล์รูปแบบหนึ่งโดยลูกศรแสดงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้ + +ภาพนี้เป็นกระบวนการลำเลียงสารแบบใดและข้อใดระบุตัวอย่างของการลำเลียงสาร +ด้วยกระบวนการนี้ได้ถูกต้อง"," กระบวนการลำเลียงสาร ตัวอย่างการลำเลียงสาร +1. เอกโซไซโทซิส การดูดน้ำกลับผ่านท่อหน่วยไต +2. เอกโซไซโทซิส การหลั่งเอนไซม์จากเซลล์ของผนังลำไส้เล็กเพื่อย่อยอาหาร +3. เอนโดไซโทซิส การแลกเปลี่ยนแก๊สบริเวณถุงลมปอด +4. เอนโดไซโทซิส การจับกินเพื่อทำลายแบคทีเรียของเซลล์เม็ดเลือดขาว +5. เอนโดไซโทซิส. การดูดซึมแร่ธาตุในดินเข้าสู่เซลล์รากพืชผ่านโปรตีนตัวพา",2. เอกโซไซโทซิส การหลั่งเอนไซม์จากเซลล์ของผนังลำไส้เล็กเพื่อย่อยอาหาร,FALSE,TRUE,TRUE +2019,2,ศึกษาอัตราการคายน้ำ ของพืชชนิดหนึ่งที่มีขนาดอายุและได้รับปริมาณแสงเท่ากันโดยนำพืช ใส่ในกระบอกตวงที่มีน้ำ 50มิลลิลิตรและมีน้ำมัน5มิลลิลิตรเททับอยู่จำนวน3ชุดการทดลอง จากนั้นนำ ชุดการทดลองแต่ละชุดมาทำการทดลองและ ตามลำดับดังนี้ การทดลอง นำแต่ละชุดการทดลองไปวางไว้ในบริเวณที่มีความชื้นสัมพัทธ์ต่างกัน โดยปัจจัยอื่นๆเหมือนกันเป็นเวลา3ชั่วโมงบันทึกปริมาตรน้ำ ที่เหลือ ในกระบอกตวง การทดลอง ทำการทดลองซ้ำ โดยนำ ชุดการทดลองไปวางในบริเวณ ที่มีความชื้นสัมพัทธ์ เหมือนกับการทดลองแต่ปรับอุณหภูมิในทุกชุดการทดลองให้สูงขึ้น บันทึกปริมาตรน้าที่เหลือในกระบอกตวง,1 ชุดการทดลองที่1มีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ กว่าชุดการทดลองที่2 2 ชุดการทดลองที่ 1 มีความชื้���สัมพัทธ์สูงกว่าชุดการทดลองที่3 3 ชุดการทดลองที่3มีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ กว่าชุดการทดลองที่2 4 เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการคายน้ำของพืชในการทดลอง มากกว่าการทดลอง 5 เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการคายน้ำ ของพืชในการทดลองน้อยกว่าการทดลอง,4 เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นการคายน้ำของพืชในการทดลอง มากกว่าการทดลอง,TRUE,TRUE,TRUE +2019,3,"ชายสุขภาพดีคนหนึ่ง ทำกิจกรรมและอยู่ในสภาวะที่แตกต่างกัน ดังนี้ +สภาวะ A นั่งทำงาน 2 ชั่วโมง ในห้องที่มีอุณหภูมิ 24 องศาเซลเซียส โดยมีการดื่มน้ำ +สภาวะ B เล่นกีฬากลางแจ้ง 2 ชั่วโมง ในบริเวณที่มีอุณหภูมิ 29 องศาเซลเซียสโดยไม่มีการดื่มน้ำ + +ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับกลไกของร่างกายในขณะที่ชายคนนี้อยู่ในสภาวะ A และ B ","1 สภาวะ A ทำให้เลือดเข้มข้น ต่อมใต้สมองส่วนหลังไม่หลั่งฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกายดูดน้ำกลับ +2. สภาวะ A ทำให้เลือดเจือจาง ต่อมใต้สมองส่วนหลังถูกกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกาย +ดูดนํากลับ +3. สภาวะ B ทำให้เลือดเจือจางต่อม ใต้สมองส่วนหลังไม่หลั่งฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกายดูดน้ำกลับ +4. สภาวะ B ทำให้เลือดเข้มข้น ต่อมใต้สมองส่วนหลังถูกกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกาย +ดูดน้ำกลับ +5. สภาวะ B ทำให้เลือดเจือจาง ต่อมใต้สมองส่วนหลังถูกกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกาย +ดูดนํากลับ","4. สภาวะ B ทำให้เลือดเข้มข้น ต่อมใต้สมองส่วนหลังถูกกระตุ้นให้หลั่งฮอร์โมนเพื่อให้ร่างกาย +ดูดน้ำกลับ",TRUE,TRUE,TRUE +2019,4,"กราฟแสดงระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายเมื่อได้รับวัคซีนครั้งที่ 1 และ 2 เป็นดังนี้ + +จากข้อมูลเพราะเหตุใดการฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 จึงสามารถกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันของร่างกาย +ได้สูงขึ้น","1. เซลล์ทีสร้างแอนติบอดีทีจําเพาะกับแอนติเจนได้มากขึ้น +2. เซลล์บี แอนติเจนแล้วส่งสัญญาณไปกระตุ้นเซลล์ทีได้ทันที +3. เซลล์ที่จำ แอนติเจนแล้วส่งสัญญาณ ไปกระตุ้นเซลล์บีได้ทันที +4. ฟาโกไซต์สามารถทําลายแอนติบอดีได้มากขึ้น +5. ฟาโกไซต์สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์พลาสมาได้เร็วขึ้น",3. เซลล์ที่จำ แอนติเจนแล้วส่งสัญญาณ ไปกระตุ้นเซลล์บีได้ทันที,FALSE,TRUE,TRUE +2019,5,"การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังด้วยวิธีสะกิด SkinPrickTest ทำได้โดยการหยดน้ำยาสกัด +ถ้าผู้ป่วยแพ้สารก่อภูมิแพ้ชน���ดใดสารภูมิแพ้ลงบนผิวหนังและใช้เข็มสะกิดผิวหนังบริเวณนั้น +จะเกิดรอยนูนมีผื่นแดงและอาจรู้สึกคันในบริเวณที่หยดน้ำยาสกัดสารภูมิแพ้ชนิดนั้นไว้ +ในการทดสอบข้างต้นกลไกใดของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำให้ผิวหนังเกิดรอยนูนและมีผื่นแดง","1. การจดจำ สารก่อภูมิแพ้ของเซลล์บี +2. การทำลายสารก่อภูมิแพ้ของแอนติเจน +3. การแบ่งตัวของเซลล์ทีเพื่อพัฒนาเป็นเซลล์พลาสมา +4. การส่งสัญญาณของเซลล์ทีเพื่อกระตุ้นแอนติฮิสตามิน +5. การหลั่งสารฮิสตามินของเซลล์โดยการกระตุ้นของแอนติบอดี",5. การหลั่งสารฮิสตามินของเซลล์โดยการกระตุ้นของแอนติบอดี,TRUE,TRUE,TRUE +2019,6,"การถ่ายทอดทางพันธุกรรมของโรคกล้ามเนื้อลีบซึ่งควบคุมด้วยยีนด้อยบนโครโมโซม +ของครอบครัวหนึ่งเป็นดังนี้ + +กำหนดให้ (บุคคลที่ 3 ในรุ่นที่ 2) คือผู้หญิงที่ไม่มีอาการของโรคแต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า +เป็นพาหะของโรคกล้ามเนื้อลีบหรือไม่ +เมื่อแต่งงานกับชายปกติและก่อนตัดสินใจมีลูกพวกเขาจึงไปขอคำ ปรึกษาจากแพทย์ +เพื่อวางแผนการมีลูกในอนาคต +การให้คำ ปรึกษาเกี่ยวกับการถ่ายทอดพันธุกรรมของโรคกล้ามเนื้อลีบในข้อใดไม่ถูกต้อง","1. ถ้าไม่เป็นพาหะของโรคลูกชายทุกคนไม่มีโอกาสเป็นโรค +2. ถ้าไม่เป็นพาหะของโรคลูกสาวทุกคนไม่มีโอกาสเป็นโรค +3. ถ้าเป็นพาหะของโรคลูกชายแต่ละคนมีโอกาสร้อยละ50ที่จะเป็นโรค +4. ถ้าเป็นพาหะของโรคลูกสาวแต่ละคนมีโอกาสร้อยละ50ที่จะเป็นโรค +5. ถ้าเป็นพาหะของโรคลูกสาวแต่ละคนมีโอกาสร้อยละ50ที่จะเป็นพาหะของโรค",4. ถ้าเป็นพาหะของโรคลูกสาวแต่ละคนมีโอกาสร้อยละ50ที่จะเป็นโรค,FALSE,TRUE,TRUE +2019,7,การใช้เทคโนโลยีชีวภาพในข้อใดที่ทําให้ได้ลูกรุ่นใหม่มีลักษณะเหมือนเดิมทุกประการ,"1. การผสมพันธุ์โคเนื้อให้มีลักษณะใหม่ตามที่ต้องการ +2. การปรับปรุงพันธุ์ข้าวหอมมะลิโดยการใช้รังสีแกมมา +3. การคัดเลือกพันธุ์ปลาทับทิมจากการผสมข้ามสายพันธุ์ +4. การตัดต่อยืนของข้าวโพดให้มีความต้านทานต่อเชื้อรา +5. การโคลนลูกวัวนมโดยใช้เซลล์เต้านมจากแม่วัวนมต้นแบบ",5. การโคลนลูกวัวนมโดยใช้เซลล์เต้านมจากแม่วัวนมต้นแบบ,TRUE,TRUE,TRUE +2019,8,"แมลงสาบเป็นพาหะที่ก่อให้เกิดโรคหลายชนิดในมนุษย์เช่น วัณโรคอหิวาตกโรคและโรคภูมิแพ้ +โดยผลการว��จัยหนึ่งพบว่าแมลงสาบเยอรมันสามารถปรับตัวให้มีความต้านทานต่อยาฆ่าแมลง +ที่มีฤทธิ์รุนแรงที่สุดได้อย่างรวดเร็วอีกทั้งยังพบว่าลูกแมลงสาบเยอรมันรุ่นต่อๆมามีความต้านทาน +ต่อยาฆ่าแมลงเช่นกันแม้ไม่เคยสัมผัสกับยาฆ่าแมลงเหล่านั้นมาก่อน + +จากข้อมูลข้อใดกล่าวถึงความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงของแมลงสาบไม่ถูกต้อง","1. ลูกแมลงสาบที่มีความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงเกิดจากสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กัน +2. ยีนควบคุมความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงสามารถถ่ายทอดไปยังแมลงสาบรุ่นถัดไปได้ +3. ความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงของแมลงสาบเป็นผลของความหลากหลายทางพันธุกรรม +4. ความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงนี้เป็นความหลากหลายทางชีวภาพระดับเดียวกับการดื้อยา +ปฏิชีวนะของแบคทีเรีย +5. ความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงของแมลงสาบทำให้มนุษย์มีความเสี่ยงต่อการติดโรคบางชนิด +จากแมลงสาบมากขึ้น",1. ลูกแมลงสาบที่มีความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงเกิดจากสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์กัน,TRUE,TRUE,TRUE +2019,9,"ผีเสื้อชนิดหนึ่งมีวงจรชีวิตประมาณ 25 วัน สีของผีเสื้อ จีโนไทป์ที่ควบคุมสีของผีเสื้อ +ในธรรมชาติสามารถพบผีเสื้อชนิดนี้ได้3สี +ได้แก่ขาวเทาและดำ ซึ่งลักษณะสีของผีเสื้อ ขาว +จะถูกควบคุมด้วยแอลลีล W1 และ W2 +โดยจีโนไทป์ของผีเสื้อแต่ละสีแสดงดังตาราง + +การสำรวจประชากรผีเสื้อชนิดนี้ในชุมชนแห่งหนึ่งที่มีต้นไม้เปลือกสีอ่อนจำนวนมากพบว่า +มีผีเสื้อสีขาวจำนวนมากโดยไม่พบผีเสื้อสีอื่นเลย แต่ในช่วงเวลา3เดือนที่ผ่านมาพบว่า +ประชากรผีเสื้อในชุมชนนี้มีการเปลี่ยนแปลงโดยในช่วงที่ 1 พบผีเสื้อสีดำ จำนวนหนึ่งซึ่งอพยพ +เข้ามาจากชุมชนใกล้เคียงและในช่วงที่ 2ยังพบผีเสื้อสีขาวจำนวนมากสีดำเล็กน้อยและพบว่า +มีผีเสื้อสีเทาเกิดขึ้นจำนวนเล็กน้อย ส่วนในช่วงที่3พบว่าผีเสื้อสีดำและเทาค่อยๆลดลง +จนชุมชนแห่งนี้มีเพียงผีเสื้อสีขาวเช่นเดิม + +จากข้อมูล ข้อใดคือเหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุดที่ทำให้ผีเสื้อสีดำและผีเสื้อสีเทาลดจำนวนลง +ในช่วงที่3","1. ผีเสื้อสีเทาและสีดำ ม่วงวงจรชีวิตสั้นกว่าผีเสื้อสีขาว +2. การผสมพันธุ์ระหว่างผีเสื้อสีดำและผีเสื้อสีขาวเพิ่มมากขึ้น +3. แอลลีล มีโอกาสเพิ่มจำนวนในกลุ่มประชากรนี้มากกว��าแอลลีล +4. ผีเสื้อสีดำ และสีเทาพรางตัวได้ไม่ดีในสิ่งแวดล้อมนี้จึงถูกล่าได้มากกว่า +5. ผีเสื้อสีเทาที่เกิดจากการผสมพันธุ์ของผีเสื้อสีขาวและสีดำ เป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นหมัน",4. ผีเสื้อสีดำ และสีเทาพรางตัวได้ไม่ดีในสิ่งแวดล้อมนี้จึงถูกล่าได้มากกว่า,FALSE,TRUE,TRUE +2019,10,"สายใยอาหารของระบบนิเวศหนึ่งแสดงดังแผนภาพ + +ถ้ามีงูที่กินเฉพาะหนูนาและปลาเล็กเป็นอาหารเข้ามาในระบบนิเวศแห่งนี้โดยที่นกไม่กินงูชนิดนี้ +เป็นอาหาร + +ข้อใดกล่าวถูกต้อง","1. นกและ มีมวลชีวภาพสูงที่สุดในระบบนิเวศน์ +2. มวลชีวภาพ ของต้นข้าวน้อยกว่ามวลชีวภาพของหนูนา +3. ผลผลิตข้าวที่ได้จากระบบนิเวศนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น +4. ปลาเล็กจะเป็นผู้บริโภคลำดับที่2 และ 3ในสายใยอาหารนี้ +5.งูจะเป็นผู้บริโภคลำดับสุดท้ายเพียงชนิดเดียวในระบบนิเวศนี้",3. ผลผลิตข้าวที่ได้จากระบบนิเวศนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น,FALSE,TRUE,TRUE +2019,11,"ป่าแห่งหนึ่งถูกปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นเวลานานหลังจากการเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ป่ายาวนาน +1 สัปดาห์ ซึ่งทำให้ต้นไม้และสัตว์ในพื้นที่ล้มตายกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า + +จากข้อมูลป่าแห่งนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแทนที่รูปแบบใด และเหตุการณ์ ใด จะเกิดขึ้น +เป็นลำดับแรกในการเปลี่ยนแปลงแทนที่นี้","1. แบบปฐมภูมิ และมีการอพยพของสัตว์เข้าไปในพื้นที่เมื่อมีแหล่งอาหารเกิดขึ้น +2. แบบปฐมภูมิและมีกลุ่มสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเช่นแบคทีเรีย เป็นสิ่งมีชีวิตผู้บุกเบิก +3. แบบปฐมภูมิ และมีการงอกของเมล็ดพืชที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินเมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม +4. แบบทุติยภูมิและมีการอพยพของสัตว์เข้าไปในพื้นที่เพื่ออยู่อาศัย +5. แบบทุติยภูมิและมีการงอกของเมล็ดพืชที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินเมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม",5. แบบทุติยภูมิและมีการงอกของเมล็ดพืชที่ฝังตัวอยู่ใต้ดินเมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม,TRUE,TRUE,TRUE +2019,12,"ปัจจุบันสัตว์หลายชนิดได้รับผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมหลายประการเช่น การทำลาย +แหล่งที่อยู่อาศัยและการล่าสัตว์ของมนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศ +นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและสภาพอากาศที่แปรปรวนของโลก เช่น อุณหภูมิร้อนจัด +หรือหนาวจัดหรือการ��ีฤดูกาลที่ยาวนานกว่าปกติ ส่งผลให้สัตว์ต้องเผชิญกับสภาพอากาศ +ที่แปรปรวนอย่างรุนแรง ซึ่งไม่เหมาะกับการดำรงชีวิต สัตว์บางชนิดจึงหาอาหารได้ยากขึ้น +การเจริญ เติบโต ของเชื้อโรคและปรสิตบางชนิดที่เป็นอันตรายต่อสัตว์เพิ่มขึ้น ทำให้ประชากร +สัตว์บางชนิดไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพดังกล่าวได้และลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว + +จากข้อมูล ผลกระทบต่อสัตว์ใน ข้อใด ที่ไม่ ได้เกิด จากภาวะโลกร้อน","1. การเพิ่มขึ้นของจำนวนพยาธิในปลา เพราะอุณหภูมิของน้ำเพิ่มสูงขึ้น +2. การสูญพันธุ์ของสิงโตภูเขา เพราะพื้นที่ป่าถูกตัดทำลายจึงถูกล่าได้ง่ายขึ้น +3. หมีขาวสามารถล่าอาหารได้น้อยลงเพราะมีการละลายของแผ่นน้ำแข็งมากขึ้น +4. อัตราการรอดของลูกเพนกวินลดลงเพราะแม่เพนกวินต้องใช้เวลาในการหาอาหารนานขึ้น +5. อัตราการตายของกวางเรนเดียร์เพิ่มขึ้นเพราะสภาพอากาศที่แปรปรวนทําให้หาอาหารยาก",2. การสูญพันธุ์ของสิงโตภูเขา เพราะพื้นที่ป่าถูกตัดทำลายจึงถูกล่าได้ง่ายขึ้น,TRUE,TRUE,TRUE +2019,13,"ธาตุ A B C D และ E มีเลขอะตอมเป็นเลขคี่ที่เรียงลำดับจากน้อยไปมากอย่างต่อเนื่อง +โดยอะตอมของธาตุ A B C D และ E และ มีจำนวนโปรตอนน้อยกว่านิวตรอน 1 อนุภาค +และธาตุ มีสัญลักษณ์นิวเคลียร์ 40 E + 19 +จากข้อมูลจำนวนอนุภาคในนิวเคลียสของธาตุในข้อใดถูกต้อง","1 .ธาตุ A มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 22 อนุภาค +2. ธาตุ B มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 13 อนุภาค +3. ธาตุ C มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 16 อนุภาค +4. ธาตุ D มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 35 อนุภาค +5. ธาตุ E มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 59 อนุภาค",4. ธาตุ D มีจำนวนอนุภาคในนิวเคลียส 35 อนุภาค,TRUE,TRUE,TRUE +2019,14,"ธาตุ A B C และ D มีสมบัติดังนี้ +ธาตุ A มีความเสถียรไม่สร้างพันธะเคมีกับธาตุใดและมีเวเลนซ์อิเล็กตรอน +อยู่ในระดับพลังงานที่3 +ธาตุ B มีจํานวนโปรตอนน้อยกว่าธาตุ A 5อนุภาค +ธาตุ C อยู่หมู่เดียวกับธาตุ แต่มีขนาดเล็กกว่า +ธาตุ D มีเลขอะตอมมากกว่าธาตุ B 1 หน่วย + +จากข้อมูลข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง","1. ธาตุ C มีเวเลนซ์อิเล็กตรอนอยู่ในระดับพลังงานที่3 +2. ธาตุ A มีจำนวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 1 เท่ากับ 8 +3. ธาตุ B มีจำนวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่2 เท่ากับ 3 +4. ธาตุ D มีจํานวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงา��ที่3 เท่ากับ 4 +5. ธาตุ C มีจำนวนเวเลนซ์อิเล็กตรอนมากกว่าธาตุ D 1 อนุภาค",4. ธาตุ D มีจํานวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่3 เท่ากับ 4,TRUE,TRUE,TRUE +2019,15,"ข้อมูลแสดงเลขอะตอมและเลขมวลของธาตุ 4 ชนิด เป็นดังนี้ +ธาตุ เลขอะตอม เลขมวล + A 13 27 + B 15 31 + C 20 40 + D 35 80 +จากข้อมูลข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง","1. A^3+ และ C^2+ มีการจัดเรียงอิเล็กตรอนเหมือนกัน +2. ธาตุ A มีความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยามากกว่าธาตุ C +3. ธาตุ A และ C เป็นโลหะ ส่วนธาตุ B และ D เป็นอโลหะ +4. ธาตุ C มีสถานะเป็นแก๊สว่องไวต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมี +5. ธาตุ B มีจํานวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 3 มากกว่า ธาตุ D",3. ธาตุ A และ C เป็นโลหะ ส่วนธาตุ B และ D เป็นอโลหะ,TRUE,TRUE,TRUE +2019,16,"กำหนดให้ A B C และD เป็นสารบริสุทธิ์ที่มีสมบัติบางประการดังนี้ +สาร A เป็นธาตุที่มีสถานะเป็นของแข็งมีจุดเดือดสูงทำปฏิกิริยารุนแรงกับน้ำ นำความร้อน +และนำไฟฟ้าได้ดี +สาร B เกิดจากการทำ ปฏิกิริยาระหว่างธาตุ 2ชนิดมีลักษณะเป็นผลึกสีขาว จุดเดือดและ +จุดหลอมเหลวสูงมาก บดเป็นผงละเอียดได้ง่ายละลายน้ำ ได้ดี +สาร C เป็นธาตุที่มีสถานะเป็นแก๊สมีสีและว่องไวต่อปฏิกิริยาเคมี เมื่อทำ ปฏิกิริยากับโลหะ +เกิดเป็นสารประกอบไอออนิก +สาร D เป็นธาตุที่มีสถานะเป็นของแข็ง ระเหิดง่ายกลายเป็นไอสีม่วง +จากข้อมูลข้อสรุปใดต่อไปนี้ถูกต้อง","1. ธาตุ C มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลคือพันธะโคเวเลนต์ +2. ธาตุ C สร้างพันธะไอออนิกกับโลหะโซเดียมมีสูตรเคมีคือ NaC2 +3. ธาตุ A สร้างพันธะกับธาตุ D โดยการใช้เวเลนซ์อิเล็กตรอนร่วมกัน +4. ธาตุ B สร้างพันธะกับธาตุ A อะตอม B จะรับอิเล็กตรอนกลายเป็น B +5. ธาตุ A สร้างพันธะกับคลอรีน อะตอม A จะให้อิเล็กตรอนกลายเป็น A",5. ธาตุ A สร้างพันธะกับคลอรีน อะตอม A จะให้อิเล็กตรอนกลายเป็น A,TRUE,TRUE,TRUE +2019,17,"สารก ข และค มีสูตรเคมีและชนิดของพันธะซึ่งเป็นไปตามกฎออกเตตดังนี้ +สาร สูตรเคมี ชนิดของพันธะ + ก XY₂ ไอออนิก + ข JW3. ไอออนิก + ค ZQ4 โคเวเลนต์ + +จากข้อมูล การระบุหมู่ของธาตุในข้อใดที่เป็นไปไม่ได้"," ธาตุ หมู่ +1. X IIA +2. Y VIIA +3. J VA +4. W VIIA +5. Z IVA ",3. J VA,TRUE,TRUE,TRUE +2019,18,"พิจารณาสมการเคมีของปฏิกิริยาตามที่กำหนดให้ต่อไปนี้ +ปฏิกิริยาที่ 1 KCIO4 (s) -----------> KCI(s) +ปฏิกิริยาที่ 2 FeS₂(s) + 11x(g) ----------> 2Fe₂O3(s) + 8z(g) +ปฏิกิริยาที่ 3 NH4OH(aq) ---------> y(1) + r(g) +ปฏิกิริยาที่ 4 Cu(s) + 4HNO3(aq) --------> Cu(NO3)₂ (aq) + 2w(g) + 2y(1) + +จากข้อมูลสารผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปฏิกิริยาเคมีใดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝนกรด","1. ปฏิกิริยาที่ 1 และ 2 +2. ปฏิกิริยาที่ 2 และ 3 +3. ปฏิกิริยาที่ 3 และ 4 +4. ปฏิกิริยาที่ 2 และ 4 +5. ปฏิกิริยาที่ 1 และ 4",4. ปฏิกิริยาที่ 2 และ 4,TRUE,TRUE,TRUE +2019,19,"ข้อมูลแสดงจำนวนอะตอมคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการกลั่นลำดับส่วนน้ำมันดิบ +ในแต่ละชั้นของหอกลั่นเป็นดังนี้ +หอกลั่น จำนวนอะตอมคาร์บอน +ชั้น P 14-19 +ชั้น N 20-35 + +จากข้อมูลการเปรียบเทียบแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอมในโมเลกุลและแรงยึดเหนี่ยวระหว่าง +โมเลกุลของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากหอกลั่นชั้น P กับ N เป็นอย่างไร","แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอม แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล +1. P สูงกว่า N P สูงกว่า N +2. P สูงกว่า N P ต่ำกว่า N +3. P ต่ำกว่า N P ใกล้เคียงกับ N +4. P ใกล้เคียงกับ N P ต่ำกว่า N +5. P ใกล้เคียงกับ N P ใกล้เคียงกับ N",4. P ใกล้เคียงกับ N P ต่ำกว่า N ,TRUE,TRUE,TRUE +2019,20,"ข้อมูลแสดงสมบัติของพอลิเมอร์ 4 ชนิด ดังตาราง + พอลิเมอร์ สมบัติ + W เหนียวไม่แตกง่ายความหนาแน่นสูงทนต่อสารเคมี + X ยืดหยุ่นได้ความเหนียว ทนต่อการกรอบแตก + Y แข็งเปราะหักง่ายเป็นฉนวนความร้อน + Z แข็งแรงทนทานและเหนียวป้องกันการผ่านของแก๊สได้ดี + +จากข้อมูลข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง","1. พอลิเมอร์ Xและ Y มีโครงสร้างแบบกิ่ง +2. พอลิเมอร์ W มีจุดหลอมเหลวสูงกว่าพอลิเมอร์ X +3. พอลิเมอร์ X และ Z จัดเป็นพลาสติกเทอร์มอเซต +4. พอลิเมอร์ W นำมาผลิตเป็นตะกร้า หูกระทะ ขวดบรรจุยา +5. ผลิตภัณฑ์พลาสติกจากพอลิเมอร์ Y และ W สามารถนำกลับมาหลอมขึ้นรูปใหม่ได้",2. พอลิเมอร์ W มีจุดหลอมเหลวสูงกว่าพอลิเมอร์ X,TRUE,TRUE,TRUE +2019,21,"A B และ C เป็นสารอาหารกลุ่มที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย มีสมบัติบางประการ ดังนี้ +สาร A เป็นไตรกลีเซอไรด์ที่สกัดจากเมล็ดถั่วเหลืองแล้วนำ มาเติมไฮโดรเจนได้สาร X +สาร B ทดสอบด้วยสารละลายคอปเปอร์ ซัลเฟตในเบสได้สารสีม่วงเมื่อสาร B ถูกย่อย + อย่างสมบูรณ์ ได้สาร Y +สาร C เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่มากเมื่อต้มสาร C กับสารละลาย + กร��ไฮโดรคลอริกได้สาร Z + +จากข้อมูลข้อสรุปใดถูกต้อง","1. สาร Z มีธาตุองค์ประกอบแตกต่างจากสาร X และ Y +2. สาร C เป็นได้ทั้งไดแซ็กคาไรด์และพอลิแซ็กคาไรด์ +3. สาร A สามารถฟอกจางสีสารละลายไอโอดีนได้น้อยกว่าสาร X +4. ทดสอบสาร Z ด้วยสารละลายเบเนดิกต์ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง +5 .ทดสอบสาร Bโดยให้ความร้อนแล้วหยดด้วย สารละลายคอปเปอร์(II ซัลเฟตในเบส +ได้สารสีม่วง","5 .ทดสอบสาร Bโดยให้ความร้อนแล้วหยดด้วย สารละลายคอปเปอร์(II ซัลเฟตในเบส +ได้สารสีม่วง",TRUE,TRUE,TRUE +2019,22,"นำตัวอย่างอาหารชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นของเหลวมาตรวจหาสารอาหาร +โดยทําการทดลองดังนี้ +การทดลองที่1 เติมสารละลายเบเนดิกต์ได้เป็นของเหลวขุ่นสีฟ้าแล้วนำ ไปต้ม +ของเหลวขุ่นสีฟ้าเปลี่ยนเป็นตะกอนสีส้ม +การทดลองที่2 หยดสารละลายไอโอดีนทีละหยดตัวอย่างอาหารยังคงเป็นสีเดิมจนกระทั่ง +หยดที่5 ตัวอย่างอาหารเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลโดยที่ไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน +การทดลองที่3 เติมสารละลายเบสได้ตะกอนขุ่นสีขาวแล้วหยดด้วยสารละลายคอปเปอร์ +(II)ซัลเฟตได้สารแขวนลอยสีม่วง + +ตัวอย่างอาหารในข้อใดให้ผลที่เป็นไปได้ตรงกับผลการทดลองมากที่สุด","1. น้ำส้มคั้นผสมนมสด +2. น้ำข้าวโพดผสมน้ำอ้อย +3. ไข่ขาวผสมนํ้าตาลทราย +4. น้ำเต้าหู้รสจืดผสมแป้งมัน +5. น้ำมันถั่วเหลืองผสมแป้งสาลี",1. น้ำส้มคั้นผสมนมสด,TRUE,TRUE,TRUE +2019,23,"โดยปกติแล้วพื้นผิวโลกมีสภาพเป็นกลางทางไฟฟ้าเนื่องจากประจุไฟฟ้าบวกและลบมีจำนวน +แต่ในช่วงที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองบริเวณฐานเมฆจะมีประจุไฟฟ้าลบอยู่เป็นจำนวนมากเท่าๆกัน +ดังภาพ แรงไฟฟ้าและสนามไฟฟ้าจากฐานเมฆจะทำให้พื้นผิวโลกที่อยู่ใต้ฐานเมฆไม่เป็นกลาง +ทางไฟฟ้า + +จากภาพทิศทางของสนามไฟฟ้าระหว่างฐานเมฆกับพื้นผิวโลกใต้เมฆเป็นอย่างไร และถ้านำ +อนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าลบตัวหนึ่งไปไว้ที่จุด X จะมีแรงไฟฟ้าจากฐานเมฆกระทำต่ออนุภาค +ดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร","ทิศทางของสนามไฟฟ้า แรงไฟฟ้า +1. เข้าหาเมฆ ไม่มีเพราะมีประจุไฟฟ้าลบเหมือนกัน +2. เข้าหาเมฆ มีโดยมีทิศทางออกจากเมฆ +3. ออกจากเมฆ ไม่มีเพราะมีประจุไฟฟ้าลบเหมือนกัน +4. ออกจากเมฆ มีโดยมีทิศทางเข้าหาเมฆ +5. ออกจากเมฆ มีโดยมีทิศทางออกจากเมฆ",2. เข้าหาเมฆ มีโดยมีทิศทางออกจากเมฆ,FALSE,TRUE,TRUE +2019,24,"วางแท่งแม่เหล็ก2แท่งในตำแหน่งดังที่กำหนดในภาพ จากนั้นยิงอิเล็กตรอนเข้าไปที่ตรงกลาง +ระหว่างแท่งแม่เหล็กทั้งสองในทิศพุ่งเข้าและตั้งฉากกับระนาบของกระดาษ พบว่าอิเล็กตรอน +เบนไปทางด้านบน + +จากข้อมูล สนามแม่เหล็กมีทิศทางใด ขั้วเหนือและขั้วใต้ของแท่งแม่เหล็กคือตำแหน่งใด"," ทิศทางของสนามแม่เหล็ก + ตำแหน่งขั้วแม่เหล็ก ขั้วเหนือ ขั้วใต้ +1. จาก A ไปหา C C A +2. จาก A ไปหา C A C +3. จาก B ไปหา D B D +4. จาก B ไปหา D D B +5. จาก C ไปหา A A C",2. จาก A ไปหา C A C,FALSE,TRUE,TRUE +2019,25,"ถ้าสมมติในอนาคตแรงนิวเคลียร์หายไปจากธรรมชาติ “ทุกอะตอมจะไม่สามารถคงสภาพ +อะตอมได้” + +คำกล่าวข้างต้นถูกต้องตามหลักการของแรงในธรรมชาติหรือไม่เพราะเหตุใด","1. ถูกต้องเพราะจะไม่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโปรตอนและนิวตรอนที่ทำให้มีนิวเคลียส +2. ถูกต้องเพราะจะไม่มีแรงที่ทำ หน้าที่ดึงดูดระหว่างนิวตรอนกับอิเล็กตรอนที่อยู่รอบ ๆ +3. ไม่ถูกต้องเพราะยังมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างนิวคลีออนที่ทำให้มีนิวเคลียส +4. ไม่ถูกต้องเพราะยังมีแรงไฟฟ้าระหว่างโปรตอนกับอิเล็กตรอนที่อยู่รอบๆให้คงสภาพ +อะตอมได้ +5. ไม่ถูกต้องเพราะยังมีแรงโน้มถ่วงกระทำ ระหว่างโปรตอนนิวตรอนและอิเล็กตรอน +ให้คงสภาพอะตอมได้",1. ถูกต้องเพราะจะไม่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโปรตอนและนิวตรอนที่ทำให้มีนิวเคลียส,TRUE,TRUE,TRUE +2019,26,"พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้เพื่อใช้ในการตอบคำถามข้อ 26-27 +โยนลูกบอลขึ้นในแนวดิ่งบนพื้นผิวโลกลูกบอลเริ่มเคลื่อนที่จากจุดขึ้นไปถึงจุดซึ่งอยู่สูง +จากจุด 1225เมตรโดยใช้เวลา05วินาที แล้วเคลื่อนที่ลงถึงจุดอีกครั้ง + +การเคลื่อนที่ของลูกบอลจากจุด A ไปจุด B แล้วกลับมายังจุด A อีกครั้งมีขนาดการกระจัดเท่าใด +และมีขนาดของความเร็วเฉลี่ยเท่าใด"," ขนาดการกระจัด (m) ขนาดความเร็วเฉลี่ย (m/s) +1. 0 0 +2. 0 1.225 +3. 0 2.450 +4. 2.450 0 +5. 2.450 2.450",1. 0 0,FALSE,TRUE,TRUE +2019,27,"พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้เพื่อใช้ในการตอบคำถามข้อ 26-27 +โยนลูกบอลขึ้นในแนวดิ่งบนพื้นผิวโลกลูกบอลเริ่มเคลื่อนที่จากจุดขึ้นไปถึงจุดซึ่งอยู่สูง +จากจุด 1225เมตรโดยใช้เวลา05วินาที แล้วเคลื่อนที่ลงถึงจุดอีกครั้ง + +ข้อความใดกล่าวถึงการเคลื่อนที่ของลูกบอลได้ถูกต้อง","1. ขณะขึ้นจากจุด A ไปจุด B ความเร่งมีทิศทางขึ้น +2. ขณะขึ้นจากจุด A ไปจุด B ความเร็วมีขนาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง +3. ขณะอยู่ที่จุด B ความเร่งเป็นศูนย์ +4. ขณะลงจากจุด B ไปจุด A ความเร่งมีขนาดลดลงอย่างต่อเนื่อง +5. ขณะลงจากจุด B ไปจุด A ความเร็วมีทิศทางลง",5. ขณะลงจากจุด B ไปจุด A ความเร็วมีทิศทางลง,FALSE,TRUE,TRUE +2019,28,"ยิงวัตถุ A B และ C ขึ้นจากพื้นที่ตำแหน่งเดียวกันทำมุมกับพื้น20องศา45องศาและ +70องศาตามลำดับ พบว่าวัตถุทั้งสามชิ้นมีเส้นทางการเคลื่อนที่เป็นดังภาพและตกถึงพื้น +ที่ตำแหน่งเดียวกัน +กำหนดให้ไม่ต้องพิจารณาแรงต้านของอากาศ + +ข้อความใดกล่าวถูกต้อง","1. วัตถุ C เคลื่อนที่ด้วยความเร่งมากที่สุด +2. วัตถุ A และ C มีขนาดของความเร็วต้นเท่ากัน +3. วัตถุ A มีขนาดของความเร็วต้นน้อยกว่าวัตถุ C +4. วัตถุทั้งสามชิ้นมีความเร็วในแนวระดับไม่คงตัวตลอดการเคลื่อนที +5. ที่จุดสูงสุดของวัตถุแต่ละชิ้น วัตถุ C มีความเร็วในแนวดิ่งมากที่สุด",2. วัตถุ A และ C มีขนาดของความเร็วต้นเท่ากัน,FALSE,TRUE,TRUE +2019,29,"นาฬิกาลูกตุ้มเรือนหนึ่งมีลูกตุ้มแกว่งกลับไป-กลับมาผ่านตำแหน่ง + A B และ C ดังภาพโดยเมื่อลูกตุ้มนาฬิกาแกว่งกลับไป-กลับมา +ครบ60รอบเข็มยาวจะขยับไป 1 ช่องหรือบอกเวลา 1 นาที + +เนื่องจากนาฬิกาเรือนนี้ถูกใช้งานมาเป็นเวลานานแล้วจึงมีความเสียดทาน +ที่ทำให้ลูกตุ้มแกว่งช้ากว่าปกติ ส่งผลให้เมื่อเวลามาตรฐานผ่านไป 1 ชั่วโมง +นาฬิกาเรือนนี้บอกเวลาช้ากว่าเวลามาตรฐานอยู่5 นาที + +จากข้อมูลของนาฬิกาเรือนนี้การขยับของเข็มยาวไป 1 ช่อง ลูกตุ้มจะแกว่งผ่าน +ตำแหน่ง B กี่ครั้ง และลูกตุ้มมีคาบการแกว่งประมาณกี่วินาที"," จํานวนครั้งที่ผ่านตำแหน่ง B คาบการแกว่ง (s) +1. 120 1.09 +2. 120 0.92 +3. 60 1.09 +4. 60 1.00 +5. 60 0.92",1. 120 1.09,FALSE,TRUE,TRUE +2019,30,"นพและนิดจับขดลวดสปริงคนละข้างและวางบนพื้นลื่นนพขยับปลายของขดลวดสปริง +เข้าและออกจากตัวเองอย่างต่อเนื่องพบว่าเกิดคลื่นบนขดลวดสปริงเคลื่อ���ที่เข้าหานิด +โดยมีอัตราเร็วคลื่น 12เมตรต่อวินาทีและส่วนของสปริงที่ถูกจัดอยู่ห่างกัน 15เมตร +ดังภาพที่เป็นมุมมองจากด้านบน + +คลื่นดังกล่าวเป็นคลื่นชนิดใด อนุภาคของขดลวดสปริงณตำแหน่งหนึ่งๆจะเคลื่อนที่ +และ +กลับไปกลับมาด้วยความถี่เท่าใด"," ชนิดของคลื่น ความถี่ (1/s) +1. คลื่นตามขวาง 0.8 +2. คลื่นตามขวาง 1.25 +3. คลื่นตามยาว 0.8 +4. คลื่นตามยาว 1.25 +5. คลื่นตามยาว 1.8",3. คลื่นตามยาว 0.8,FALSE,TRUE,TRUE +2019,31,"ตรึงเชือกยาวเส้นหนึ่งเข้ากับเสาให้แน่น จับปลายเชือกสะบัดในทิศทางขึ้นหนึ่งครั้งเว้นช่วงเวลา +เล็กน้อยแล้วสะบัดขึ้นอีกครั้งพบว่าเกิดสันคลื่นของคลื่นดล 2ขบวนที่เหมือนกันทุกประการ +เคลื่อนที่เข้าหาเสาดังภาพ + +ในการพบกันของคลื่นขบวนแรกที่สะท้อนจากเสากับคลื่นขบวนหลังที่กำลังเข้าหาเสา +ถ้ากล่าวว่า “คลื่นรวมจะมีแอมพลิจูดเป็นศูนย์ทำให้ไม่เหลือคลื่นเคลื่อนที่บนเส้นเชือกอีก"" + +คำกล่าวดังกล่าวถูกต้องตามหลักการของคลื่นหรือไม่อย่างไร","1. ถูกต้องเพราะคลื่นทั้งสองขบวนจะเกิดการแทรกสอดหักล้างทำให้ไม่เหลือ +คลื่นบนเส้นเชือกอีก +2. ไม่ถูกต้องเพราะคลื่นทั้งสองขบวนจะเกิดการแทรกสอดเสริมซึ่งแอมพลิจูดจะไม่เป็นศูนย์ +3. ไม่ถูกต้องเพราะคลื่นทั้งสองขบวนจะเกิดการแทรกสอดหักล้างแล้วคลื่นจะเคลื่อนที่ +ผ่านกันไป +4. สรุปไม่ได้เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าคลื่นทั้งสองขบวนจะเกิดการแทรกสอดเสริมหรือหักล้าง +5. สรุปไม่ได้เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าคลื่นขบวนแรกที่สะท้อนจากเสาจะมีลักษณะเป็น +สันคลื่นหรือท้องคลื่น","3. ไม่ถูกต้องเพราะคลื่นทั้งสองขบวนจะเกิดการแทรกสอดหักล้างแล้วคลื่นจะเคลื่อนที่ +ผ่านกันไป",FALSE,TRUE,TRUE +2019,32,"ศึกษาเสียงที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงที่เป็นจุด มีกำลังเสียงคงตัวและสามารถปรับค่าความถี่ +ของเสียงได้ทดลองวัดความดันอากาศที่เวลาต่างๆโดยจัดชุดการทดลองต่างกันได้ผลการวัด +ความดันอากาศ ดังกราฟ + +ผลการวัดความดันอากาศครั้งที่2 เกิดจากการจัดชุดการทดลองอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับครั้งที่ 1"," ความถี่ของเสียง ระยะห่างระหว่างเครื่องวัดกับแหล่งกำเนิดเสียง +1. น้อยลง เท��าเดิม +2. น้อยลง มากขึ้น +3. เท่าเดิม น้อยลง +4. เท่าเดิม มากขึ้น +5. มากขึ้น น้อยลง",4. เท่าเดิม มากขึ้น,FALSE,TRUE,TRUE +2019,33,"ศึกษาเสียงที่เกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงที่เป็นจุดมีกำลังเสียงคงตัวและสามารถปรับค่าความถี่ +ของเสียงได้วางแหล่งกำเนิดเสียง2แหล่งที่มีกำลังเสียงเท่ากันไว้ใกล้ๆกัน +แหล่งกำเนิดเสียง X ให้เสียงที่มีความถี่เท่ากับผลของการวัดความดันอากาศดังกราฟ +แหล่งกำเนิดเสียง Y ให้เสียงที่มีความถี่เท่ากับ200เฮิรตซ์ + +แหล่งกำเนิดเสียง X ให้เสียงความถี่เท่าใด และถ้าเปิดแหล่งกำเนิดเสียง X และ Y พร้อมกัน +คนหูปกติจะได้ยินเสียงเป็นอย่างไร ถ้ากำหนดให้คนหูปกติสามารถได้ยินการเกิดบิต เมื่อความถี่ +บีตไม่เกิน7ครั้งต่อวินาที"," ความถี่ (Hz) ลักษณะของเสียง +1. 0.003 เสียงดังอย่างต่อเนื่อง +2. 0.003 เสียงดังสลับค่อย +3. 207 เสียงดังอย่างต่อเนื่อง +4. 250 เสียงดังสลับค่อย +5. 250 เสียงดังอย่างต่อเนื่อง +",5. 250 เสียงดังอย่างต่อเนื่อง,FALSE,TRUE,TRUE +2019,34,"ยิงรังสีของแสงให้เคลื่อนที่จากแก้วไปยังสุญญากาศพบว่าความยาวคลื่น (λ) 4 และอัตราเร็ว (v) +มีการเปลี่ยนแปลงถ้าคลื่นเคลื่อนที่จากซ้ายไปขวาโดยมีสนามแม่เหล็กทิศทางตามแนวบน-ล่าง +ของระนาบกระดาษดังภาพ + +ความยาวคลื่นในสุญญากาศ λ2 มีค่าเป็นเท่าใดและทิศทางของสนามไฟฟ้าเป็นอย่างไร"," λ2 (nm) ทิศทางของสนามไฟฟ้า +1. 651 แนวพุ่งเข้า–พุ่งออกตั้งฉากกับระนาบกระดาษ +2. 651 แนวบน–ล่าง +3. 651 แนวซ้าย-ขวา +4. 868 แนวพุ่งเข้า–พุ่งออกตั้งฉากกับระนาบกระดาษ +5. 868 แนวบน-ล่าง","1. 651 แนวพุ่งเข้า–พุ่งออกตั้งฉากกับระนาบกระดาษ +",FALSE,TRUE,TRUE +2019,35,"พิจารณาปฏิกิริยานิวเคลียร์ต่อไปนี้ +9 4 12 1 + Be + He ------> C + X +4 2 6 0 + +กำหนดให้ มวลรวมของนิวเคลียสก่อนเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์เท่ากับ 21.61×10^-27 กิโลกรัม + มวลรวมของนิวเคลียสหลังเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ เท่ากับ 21.60×10^-27 กิโลกรัม + อัตราเร็วของแสงในสุญญากาศเท่ากับ 3×10^8 เมตรต่อวินาที + +ข้อความใดกล่าวถูกต้อง"," 1 +1. X มีมวลเป็นศูนย์ + 0 + + 1 +2. X มีประจุไฟฟ้าบวก + 0 + +3. ปฏิกิริยานิวเคลียร์นี้เป็นนิวเคลียร์ฟิชชัน +4. พลังงานที่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์เท่ากับ 9×10^-13 จูล +5. มวลรวมของนิวเคลียสหลังเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์มีค่าลดลง 0.01 กิโลกรัม",4. พลังงานที่ได้จากปฏิกิริยานิวเคลียร์เท่ากับ 9×10^-13 จูล,TRUE,TRUE,TRUE +2019,36,"เมื่อวันที่ 1 มกราคม2563พบสารกัมมันตรังสีชนิดหนึ่ง8000มิลลิกรัม +ต่อมา วันที่ 5มกราคม2563มีสารกัมมันตรังสีชนิดนี้เหลืออยู่เพียง500มิลลิกรัม +จากข้อมูลสารกัมมันตรังสีดังกล่าวมีค่าครึ่งชีวิตเท่าใดและวันที่7มกราคม2563 +จะเหลือสารกัมมันตรังสีเท่าใด"," ครึ่งชีวิต(ชั่วโมง) สารกัมมันตรังสี + ณ วันที่ 7 มกราคม 2563 (mg) +1. 24 62.5 +2. 24 125.0 +3. 24 250.0 +4. 30 125.0 +5. 30 250.0",2. 24 125.0,TRUE,TRUE,TRUE +2019,37,"ขณะเกิดแผ่นดินไหวณศูนย์เกิดแผ่นดินไหว I และ II พร้อมกัน สถานีตรวจวัด +คลื่นไหวสะเทือน A B C และ D ที่ตั้งอยู่ณตำแหน่งต่างๆบนผิวโลกตรวจจับเวลาที่ +คลื่นปฐมภูมิและคลื่นทุติยภูมิเคลื่อนที่มาถึงสถานีตรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนแต่ละแห่งได้ดังกราฟ +กำหนดให้สถานีตรวจวัดคลื่นไหวสะเทือนทั้ง4แห่งตั้งเวลามาตรฐานของเครื่องวัด +ความไหวสะเทือนตรงกัน + +จากกราฟข้อความใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง Autorou","1. เมื่อเกิดแผ่นดินไหวที่ศูนย์เกิดแผ่นดินไหว II สถานีตรวจวัด C ตั้งอยู่ในบริเวณ +เขตอับคลื่นปฐมภูมิ +2. เมื่อวัดจากจุดศูนย์เกิดแผ่นดินไหว I ไปตามผิวโลกสถานีตรวจวัด B จะอยู่ระหว่าง +มุม 140-180องศา +3. เมื่อวัดจากจุดศูนย์เกิดแผ่นดินไหวไปตามผิวโลกระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว II +ถึงสถานีตรวจวัด B มากกว่าระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว II ถึงสถานีตรวจวัด A +4. เมื่อวัดจากจุดศูนย์เกิดแผ่นดินไหวไปตามผิวโลก ระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว I +ถึงสถานีตรวจวัด D มากกว่าระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว II ถึงสถานีตรวจวัด D +5. เมื่อวัดจากจุดศูนย์เกิดแผ่นดินไหวไปตามผิวโลก ระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว I +ถึงสถานีตรวจวัด C มากกว่าระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว II ถึงสถานีตรวจวัด A","4. เมื่อวัดจากจุดศูนย์เกิดแผ่นดินไหวไปตามผิวโลก ระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว I +ถึงสถาน���ตรวจวัด D มากกว่าระยะทางจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว II ถึงสถานีตรวจวัด D",FALSE,TRUE,TRUE +2019,38,"การศึกษาหลักฐานทางธรณีวิทยาที่พบในปัจจุบันของแผ่นธรณี ในพื้นที่ศึกษา6แผ่นได้แก่ A B +C D E และ F พบว่า กลุ่มหินที่พบในแผ่นธรณีทั้งหกแผ่นเป็นกลุ่มหินประเภทเดียวกันและ +มีอายุอยู่ในช่วง 500-146ล้านปีก่อน นอกจากนี้ยังพบหลักฐานจากซากดึกดำบรรพ์และ +หลักฐาน จากภูมิอากาศโบราณดังตาราง + +จากหลักฐานข้างต้นนักธรณีวิทยาคนหนึ่งตั้งสมมติฐานว่าในอดีตแผ่นธรณี A เคยเป็นผืนแผ่นดิน +ขนาดใหญ่เพียงแผ่นเดียวมาก่อนต่อมาเกิดการแตกเป็นแผ่นธรณีขนาดเล็กและเคลื่อนที่แยก +ออกมาจากแผ่นธรณีขนาดใหญ่เดิมโดยแยกออกมาในช่วงเวลาต่างๆกันจำนวน5แผ่น ได้แก่ +แผ่นธรณี B C D E และ F + +จากข้อมูลถ้าสมมติฐานดังกล่าวเป็นจริงแผ่นธรณีใดบ้างที่คาดว่าแตกและเคลื่อนที่แยกออกมา +จากแผ่นธรณี A ในช่วง300-160ล้านปีที่ผ่านมา","1 แผ่นธรณี B และ C +2 แผ่นธรณี B และ F +3 แผ่นธรณี C และ D +4 แผ่นธรณี D และ E +5 แผ่นธรณี E และ F",3 แผ่นธรณี C และ D,FALSE,TRUE,TRUE +2019,39,"ภาพวาดแสดงหน้าตัดของชั้นหินและซากดึกดำบรรพ์ดัชนีที่พบในพื้นที่2บริเวณซึ่งอยู่ +ใกล้เคียงกันเป็นดังนี้ + +จากข้อมูลข้อความใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง","1. ชั้นหินปูน C มีอายุใกล้เคียงกับชั้นหินปูน F +2. ชั้นหินทราย B มีอายุน้อยกว่าชั้นหินดินดาน G +3. ในอดีตพื้นที่บริเวณที่ 1 และบริเวณที่ 2 ต่างเคยเป็นทะเลมาก่อน +4. ซากดึกดำบรรพ์ของไทรโลไบต์ที่พบในชั้นหินบริเวณที่ 1 มีอายุใกล้เคียงกับที่พบในบริเวณที่2 +5. ซากดึกดำบรรพ์ของฟิวซูลินิดที่พบในชั้นหินบริเวณ ที่ 2มีอายุเก่าแก่กว่าซากดึกดำบรรพ์ +ของหอยสองฝาที่พบในชั้นหินบริเวณที่ 1",4. ซากดึกดำบรรพ์ของไทรโลไบต์ที่พบในชั้นหินบริเวณที่ 1 มีอายุใกล้เคียงกับที่พบในบริเวณที่2,FALSE,TRUE,TRUE +2019,40,"ข้อมูลแสดงวิวัฒนาการของดาวฤกษ์3ดวงเป็นดังนี้ + + ดาวฤกษ์ วิวัฒนาการของดาวฤกษ์ + A ดาวฤกษ์ →ดาวยักษ์แดง→ดาวแคระขาวและเนบิวลาดาวเคราะห์ + B ดาวฤกษ์→ดาวยักษ์ใหญ่แดง →หลุมดำ และเนบิวลา + C ดาวฤกษ์→ดาวยักษ์ใหญ่แดง → ดาวนิวตรอนและเนบิวลา + +จากข้อมูลมวลของดาวฤกษ์ก่อนเกิดในข้อใดต่อไปนี้สอดคล้องกับวิวัฒนาการของดาวฤกษ์ที่กำหนด","มวลของดาวฤกษ์ก่อนเกิดเทียบกับมวลดวงอาทิตย์ (เท่า) + ดาวฤกษ์ A ดาวฤกษ์ B ดาวฤกษ์ C +1. 12.6 2.5 4.00 +2. 5.8 33.0 15.5 +3. 14.3 17.0 8.5 +4. 19.0 3.5 6.7 +5. 1.4 22.5 4.2",2. 5.8 33.0 15.5,TRUE,TRUE,TRUE +2019,41.1,"การสำรวจลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยืนบนออโตโซมของครอบครัวหนึ่ง +เป็นดังตาราง + บุคคล ลักษณะทางพันธุกรรม +ในครอบครัว การมีลักยิ้ม การห่อลิ้น หมู่เลือด + พ่อ ไม่มี ได้ เอ + แม่ มี ไม่ได้ บี + ลูกคนที่ 1 มี ไม่ได้ บี + ลูกคนที่2 ไม่มี ได้ เอ + +กำหนดให้ การมีลักยิ้ม เป็นลักษณะเด่นที่ควบคุมด้วยแอลลีล F +การห่อลิ้นได้เป็นลักษณะเด่นที่ควบคุมด้วยแอลลีล D +ข้อความต่อไปนี้กล่าวถึงลักษณะทางพันธุกรรมของครอบครัวนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ +ข้อความ ใช่ หรือไม่ใช่ + +การมีลักยิ้ม ของแม่มีจีโนไทป์เป็น FF และลูกคนที่ 1 มีจีโนไทป์เป็น Fr ใช่/ไม่ใช่",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,41.2,"การสำรวจลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยืนบนออโตโซมของครอบครัวหนึ่ง +เป็นดังตาราง + บุคคล ลักษณะทางพันธุกรรม +ในครอบครัว การมีลักยิ้ม การห่อลิ้น หมู่เลือด + พ่อ ไม่มี ได้ เอ + แม่ มี ไม่ได้ บี + ลูกคนที่ 1 มี ไม่ได้ บี + ลูกคนที่2 ไม่มี ได้ เอ + +กำหนดให้ การมีลักยิ้ม เป็นลักษณะเด่นที่ควบคุมด้วยแอลลีล F +การห่อลิ้นได้เป็นลักษณะเด่นที่ควบคุมด้วยแอลลีล D +ข้อความต่อไปนี้กล่าวถึงลักษณะทางพันธุกรรมของครอบครัวนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ +ข้อความ ใช่ หรือไม่ใช่ + +ลูกสาวและลูกชาย ของครอบครัวนี้มีโอกาสห่อลิ้นได้เท่ากันคือร้อยละ 50 ใช่/ไม่ใช่",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,41.3,"การสำรวจลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยืนบนออโตโซมของครอบครัวหนึ่ง +เป็นดังตาราง + บุคคล ลักษณะทางพันธุกรรม +ในครอบครัว การมีลักยิ้ม การห่อลิ้น หมู่เลือด + พ่อ ไม่มี ได้ เอ + แม่ มี ไม่ได้ บี + ลูกคนที่ 1 มี ไม่ได้ บี + ลูกคนที่2 ไม่มี ได้ เอ + +กำหนดให้ การมีลักยิ้ม เป็นลักษณะเ��่นที่ควบคุมด้วยแอลลีล F +การห่อลิ้นได้เป็นลักษณะเด่นที่ควบคุมด้วยแอลลีล D +ข้อความต่อไปนี้กล่าวถึงลักษณะทางพันธุกรรมของครอบครัวนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ +ข้อความ ใช่ หรือไม่ใช่ + +ลูกคนที่3ของครอบครัวนี้จะมีหมู่เลือดเป็น เอบี หรือ โอ เท่านั้น ",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,42.1,"การทดลองเพื่อสนับสนุนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างหินปูน (CaCO3) กับ +สารละลายกรด X และ Y ที่อุณหภูมิ25°C แล้วบันทึกเวลาตั้งแต่เริ่มจนสิ้นสุดปฏิกิริยา +ได้ผลการทดลองดังนี้ + สารละลายกรด +การทดลองที่ ชนิด ความเข้มข้น(ร้อยละโดยมวลต่อปริมาตร) ลักษณะหินปูน เวลา (s) + 1 X 0.5 ผงละเอียด T1 + 2 X 1.0 ก้อนกลม T2 + 3 Y 0.5 ผงละเอียด T3 + 4 Y 1.0 ก้อนกลม T4 +กำหนดให้ ปริมาตรกรดและมวลของหินปูนเท่ากันทุกการทดลอง +จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำการทดลองต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในการทดลองที่4 เร็วกว่าการทดลองที่3 +",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,42.2,"การทดลองเพื่อสนับสนุนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างหินปูน (CaCO3) กับ +สารละลายกรด X และ Y ที่อุณหภูมิ25°C แล้วบันทึกเวลาตั้งแต่เริ่มจนสิ้นสุดปฏิกิริยา +ได้ผลการทดลองดังนี้ + สารละลายกรด +การทดลองที่ ชนิด ความเข้มข้น(ร้อยละโดยมวลต่อปริมาตร) ลักษณะหินปูน เวลา (s) + 1 X 0.5 ผงละเอียด T1 + 2 X 1.0 ก้อนกลม T2 + 3 Y 0.5 ผงละเอียด T3 + 4 Y 1.0 ก้อนกลม T4 +กำหนดให้ ปริมาตรกรดและมวลของหินปูนเท่ากันทุกการทดลอง +จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำการทดลองต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +ถ้า T1 มากกว่า T2 แสดงว่าความเข้มข้นของสารละลายกรดมีผลต่อT อัตราการเกิดปฏิกิริยามากกว่าพื้นที่ผิว ใช่/ไม่ใช่",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,42.3,"การทดลองเพื่อสนับสนุนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างหินปูน (CaCO3) กับ +สารละลายกรด X และ Y ที่อุณหภูมิ25°C แล้วบันทึกเวลาตั้งแต่เริ่มจนสิ้นสุดปฏิกิริยา +ได้ผลการทดลองดังนี้ + สารละลายกรด +การทดลองที่ ชนิด ความเข้มข้น(ร้อยละโดยมวลต่อปริมาตร) ลักษณะหินปูน เวลา (s) + 1 X 0.5 ผงละเอียด T1 + 2 X 1.0 ก้อนกลม T2 + 3 Y 0.5 ผงละเอียด T3 + 4 Y 1.0 ก้อนกลม T4 +กำหนดให้ ปริมาตรกรดและมวลของหินปูนเท่ากันทุกการทดลอง +จากข้อมูล ข้อสรุปเกี่ยวกับอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่ทำการทดลองต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +แมกนีเซียม เป็นเวลา 1นาที พบว่าสารละลายกรด X ทำปฏิกิริยากับโลหะ +แมกนีเซียมจะมีฟองแก๊สเกิดขึ้นมากกว่าสารละลายกรด Y ดังนั้น T1 มากกว่า T3 ",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,TRUE,FALSE,TRUE +2019,43.1,"พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสนามโน้มถ่วงของโลกกับความสูงจากพื้นผิวโลกดังกราฟต่อไปนี้ + +ข้อความต่อไปนี้กล่าวถูกต้องตามหลักการของสนามโน้มถ่วงใช่หรือไม่ +ข้อความ ใช่หรือไม่ใช่ + +แรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำ ต่อวัตถุที่มีมวล6กิโลกรัมซึ่งอยู่ที่ความสูง +จากพื้นผิวโลก5,000กิโลเมตร มีค่าเป็นครึ่งหนึ่งของน้ำหนักของวัตถุนั้นที่ +พื้นผิวโลก +",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE +2019,43.2,"พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสนามโน้มถ่วงของโลกกับความสูงจากพื้นผิวโลกดังกราฟต่อไปนี้ + +ข้อความต่อไปนี้กล่าวถูกต้องตามหลักการของสนามโน้มถ่วงใช่หรือไม่ +ข้อความ ใช่หรือไม่ใช่ + +ถ้าทดลองปล่อยวัตถุที่มีมวล 2กิโลกรัมให้ตกแบบเสรี แล้ววัตถุเริ่มต้น +เคลื่อนที่ด้วยความเร่งโน้มถ่วง2.0เมตรต่อวินาที^2 แสดงว่า วัตถุถูกปล่อย +จากความสูงจากพื้นผิวโลก7,500กิโลเมตร",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,FALSE,FALSE,TRUE +2019,43.3,"พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างสนามโน้มถ่วงของโลกกับความสูงจากพื้นผิวโลกดังกราฟต่อไปนี้ + +ข้อความต่อไปนี้กล่าวถูกต้องตามหลักการของสนามโน้มถ่วงใช่หรือไม่ +ข้อความ ใช่หรือไม่ใช่ + +ถ้านักบินอวกาศคนหนึ่งสามารถลอยตัวอยู่ในยานอวกาศที่กำลังโคจร +รอบโลกที่ความสูงจากพื้นผิ���โลก350กิโลเมตร แสดงว่า แรงโน้มถ่วงของ +โลกที่กระทําต่อนักบินอวกาศคนดังกล่าวมีค่าเท่ากับศูนย์",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE +2019,44.1,"ทดลองส่งจรวดขนส่งยานอวกาศออกจากจากวงโคจรที่ระดับความสูงจากผิวโลก3ตำแหน่งดังนี้ +ตำแหน่งส่งจรวด ความสูงจากผิวโลก(กิโลเมตร) + A 0 (ที่ผิวโลก) + B 200 + C 400 + +จากข้อมูลข้อสรุปต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +จรวดที่ส่งจากตำแหน่ง A ต้องมีขนาดความเร็วหลุดพ้นมากกว่า +จรวดที่ส่งจากตำแหน่ง B จึงจะขึ้นไปพ้นจากแรงโน้มถ่วงของโลกได้",ใช่/ไม่ใช่,ใช่,FALSE,FALSE,TRUE +2019,44.2,"ทดลองส่งจรวดขนส่งยานอวกาศออกจากจากวงโคจรที่ระดับความสูงจากผิวโลก3ตำแหน่งดังนี้ +ตำแหน่งส่งจรวด ความสูงจากผิวโลก(กิโลเมตร) + A 0 (ที่ผิวโลก) + B 200 + C 400 + +จากข้อมูลข้อสรุปต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +ถ้าต้องการส่งจรวดให้โคจรรอบโลกที่ความสูงจากผิวโลก 10,000 +กิโลเมตร ขนาดความเร็วในวงโคจรของจรวดที่ส่งจากตำแหน่ง C +มีค่ามากกว่าขนาดความเร็วในวงโคจรของจรวดที่ส่งจากตำแหน่ง A",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE +2019,44.3,"ทดลองส่งจรวดขนส่งยานอวกาศออกจากจากวงโคจรที่ระดับความสูงจากผิวโลก3ตำแหน่งดังนี้ +ตำแหน่งส่งจรวด ความสูงจากผิวโลก(กิโลเมตร) + A 0 (ที่ผิวโลก) + B 200 + C 400 + +จากข้อมูลข้อสรุปต่อไปนี้ถูกต้องใช่หรือไม่ + +ถ้าส่งจรวดจากตำแหน่งทั้งสามด้วยขนาดความเร็วเท่ากับ ใช่ไม่ใช่ +ขนาดความเร็วหลุดพ้นที่ตำแหน่ง C แล้ว จรวดที่ส่งจากตำแหน่งทั้งสาม +จะขึ้นไปพ้นจากแรงโน้มถ่วงของโลกได้",ใช่/ไม่ใช่,ไม่ใช่,FALSE,FALSE,TRUE \ No newline at end of file